พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการครอบครองวัตถุระเบิด - ไม่มีเจตนาไม่เป็นความผิด
พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าแม้ไม่มีอาชญาเจตนา ก็ให้มีโทษ
เก็บวัตถุระเบิดได้โดยไม่ทราบว่า เป็นวัตถุระเบิดแล้วเอาไปบ้าน คนอื่นดูแล้วเคาะดินจะให้หลุดจากวัตถุนั้น จึงเกิดระเบิดขึ้น ดังนี้ เมื่อไม่ทราบว่าวัตถุนั้นเป็นวัตถุระเบิดการที่เก็บเอาไป ก็ไม่มีเจตนาที่จะมีหรือครอบครองวัตถุระเบิด จึงยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ
เก็บวัตถุระเบิดได้โดยไม่ทราบว่า เป็นวัตถุระเบิดแล้วเอาไปบ้าน คนอื่นดูแล้วเคาะดินจะให้หลุดจากวัตถุนั้น จึงเกิดระเบิดขึ้น ดังนี้ เมื่อไม่ทราบว่าวัตถุนั้นเป็นวัตถุระเบิดการที่เก็บเอาไป ก็ไม่มีเจตนาที่จะมีหรือครอบครองวัตถุระเบิด จึงยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการครอบครองวัตถุระเบิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ต้องมีเจตนา หากไม่มีเจตนาไม่เป็นความผิด
พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าแม้ไม่มีอาชญาเจตนา ก็ให้มีโทษ
เก็บวัตถุระเบิดได้โดยไม่ทราบว่า เป็นวัตถุระเบิดแล้วเอาไปบ้าน คนอื่นดูแล้วเคาะดินจะให้หลุดจากวัตถุนั้น จึงเกิดระเบิดขึ้น ดังนี้ เมื่อไม่ทราบว่าวัตถุนั้นเป็นวัตถุระเบิดการที่เก็บเอาไป ก็ไม่มีเจตนาที่จะมีหรือครอบครองวัตถุระเบิดจึงยังไม่เป็นผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ
เก็บวัตถุระเบิดได้โดยไม่ทราบว่า เป็นวัตถุระเบิดแล้วเอาไปบ้าน คนอื่นดูแล้วเคาะดินจะให้หลุดจากวัตถุนั้น จึงเกิดระเบิดขึ้น ดังนี้ เมื่อไม่ทราบว่าวัตถุนั้นเป็นวัตถุระเบิดการที่เก็บเอาไป ก็ไม่มีเจตนาที่จะมีหรือครอบครองวัตถุระเบิดจึงยังไม่เป็นผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836-1838/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย: ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานตามที่ฟ้อง ไม่จำกัดเฉพาะคำแถลง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสร้างเครื่องมือประจำที่ โดยวางกร่ำลงในหนองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 31,61 ดังนี้แม้ศาลจะสอบโจทก์โจทก์แถลงว่ากร่ำที่จำเลยวางคือเอาผักกับหนามไปไว้ในน้ำเพื่อให้ปลามาอาศัยแล้วใช้อวนล้อมจับปลา จำเลยยังมิได้จับปลา ถ้าจะจับปลาต้องเอาอวนมาล้อมที่กร่ำก็ดี ศาลก็จำต้องให้โจทก์นำสืบตามฟ้องก่อน เพราะข้อที่โจทก์จะสืบมีว่า กร่ำที่จำเลยวางเป็นเครื่องมือประจำที่ ซึ่งมีความหมายกว้างขวาง หาใช่จะจำกัดอยู่เพียงที่โจทก์ แถลงไม่ จะด่วนงดสืบพยานโดยฟังข้อเท็จจริงเฉพาะตามที่โจทก์แถลง หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836-1838/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เครื่องมือประจำที่ในการประมง: ศาลต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่โจทก์ต้องการนำสืบ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสร้างเครื่องมือประจำที่ โดยวางกร่ำลงในหนองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 31,61 ดังนี้แม้ศาลจะสอบโจทก์ ๆ แถลงว่ากร่ำที่จำเลยวาง คือเอาผักกับหนามไปไว้ในน้ำเพื่อให้ปลามาอาศัยแล้วใช้อวนล้อมจับปลา จำเลยยังมิได้จับปลาถ้าจับปลาต้องเอาอวนมาล้อมที่กร่ำก็ดี ศาลก็จำต้องให้โจทก์นำสืบตามฟ้องก่อน เพราะข้อที่โจทก์จะสืบมีว่า กร่ำที่จำเลยวางเป็นเครื่องมือประจำที่ ซึ่งมีความหมายกว้างขวาง หาใช่จะจำกัดอยู่เพียงที่โจทก์ แถลงไม่ จะด่วนงดสืบพยานโดยฟังข้อเท็จจริงเฉพาะตามที่โจทก์แถลง หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การ: การพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้องและอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึง วันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศและศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและผลกระทบจากประกาศที่ขัดแย้งกับหมายเรียก ศาลพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศแลศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสลากทายผลเลขท้าย 3 ตัวเข้าข่ายการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน
จำเลยจำหน่ายขายเลขสลาก 1,000 ฉบับมีตั้งแต่เลขหมาย000 จนถึง 999 ให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเรียกว่าผู้แทง ส่วนจำเลยเป็นเจ้ามือ ถ้าสลากของผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวของสลากรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือว่าทายถูกเป็นผู้ชนะ จำเลยจะต้องใช้ หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้ซื้อที่ถูกสลากเป็นจำนวน 600 ต่อ ดังนี้ เป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้เล่นตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข.ลำดับ-เลข 16 ท้าย พระราชบัญญัติการพนัน 2478 เมื่อจัดการเล่นขึ้นโดยมิได้รับอนุญาตก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสลากทายผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันผิดกฎหมาย
จำเลยจำหน่ายขายเลขสลาก 1000 ฉะบับมีตั้งแต่เลขหมาย 000 จนถึง 999 ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งเรียกว่าผู้แทง ส่วนจำเลยเป็นเจ้ามือ ถ้าสลากของผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวของสลากรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือว่าทายถูกเป็นผู้ชนะ จำเลยจะต้องใช้ หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้ซื้อที่ถูกสลากเป็นจำนวน 600 ต่อ ดังนี้ เป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้เล่นตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข.ลำดับเลข 16 ท้าย พ.ร.บ.การพะนัน 2478 เมื่อจัดการเล่นขึ้นโดยมิได้รับอนุญาต ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพะนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียน ย่อมมีสิทธิเหนือการครอบครองที่ไม่จดทะเบียน แม้ครอบครองนานกว่า 10 ปี
ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริต ได้โอนแก้ทะเบียนกันโดยสุจริตเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปตรวจสอบเนื่อที่ดินจึงรู้ว่ามีผู้อื่นรุกล้ำเข้ามาทำนาในที่นั้นบางส่วน ดังนี้ แม้จะได้ความว่าผู้ที่รุกล้ำเข้ามานั้นได้ปกครองทำนาส่วนนั้นอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม เมื่อผู้นั้นไม่ได้จดทะเบียนสิทธิไว้ ก็ไม่อาจยกขึ้นมาตัดสิทธิของผู้ซื้อโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ผู้ซื้อจึงมีอำนาจฟ้องห้ามมิให้ผู้ครอบครองนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังชำระราคาแล้วและผลกระทบต่อสิทธิการจดทะเบียน
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันโดยผู้ขายได้รับชำระราคาที่ดินแล้ว แต่ยังทำโอนไม่ได้เพราะพนักงานที่ดินส่งโฉนดไปยังกรมที่ดินเสีย ผู้ขายจึงมอบที่ดินที่ขายให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อนจนกว่า กรมที่ดินจะส่งโฉนดคืนมาจึงจะทำโอนกัน ผู้ซื้อจึงได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นตลอดมา 4 ปีเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ซื้ออยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300