คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การเรียกร้องค่าเสียหายหลังคดีขับไล่ถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและกล่าวไว้ด้วยว่า จำเลยเผาไฟทำให้ต้นยางโจทก์เสียหาย แต่โจทก์ยังไม่ประสงค์จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยก่อน เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์จึงมาฟ้องจำเลยขอเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยเผาไฟทำให้ไหม้ต้นยางของโจทก์เสียหายอีก ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ ต้องห้ามมิให้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
ข้อกฎหมายเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าว ศาลก็ย่อมยกขึ้นมาใช้เองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีและการขัดขวางสิทธิเจ้าหนี้หลังยึดทรัพย์
เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อขายทอดตลาดแล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278 ให้ทรัพย์ที่ยึดและเงินที่ขายทอดตลาดตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลูกหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ไม่มีอำนาจจะกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียต่อการบังคับคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่นลูกหนี้ทำสัญญายกเงินที่ขายทอดตลาดให้แก่ผู้ใด ผู้นั้นก็หามีอำนาจที่จะยกสิทธินั้นมาอ้างเพื่อขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่บังคับคดีหรือขอเฉลี่ยทรัพย์ ได้ไม่ และเมื่อปรากฏว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดแล้วเจ้าหนี้อื่นก็ไม่มีสิทธิขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ที่ได้ดำเนินการบังคับคดีนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ก็อนุญาตเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอเฉลี่ยในเงินที่ขายทอดตลาดได้เท่านั้น จะไปขอยึดทรัพย์นั้นโดยวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ก็หาทำให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องเงินจากการบังคับคดี: ลำดับสิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าหนี้อื่น
เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อขายทอดตลาดแล้ว ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 278 ให้ทรัพย์ที่ยึดและเงินที่ขายทอดตลาดตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลูกหนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ไม่มีอำนาจจะกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียต่อการบังคับคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่นลูกหนี้ทำสัญญายกเงินที่ขายทอดตลาดให้แก่ผู้ใด ผู้นั้นก็หามีอำนาจที่จะยกสิทธินั้นมาอ้างเพื่อขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่บังคับคดีหรือขอเฉลี่ยทรัพย์ ได้ไม่ และเมื่อปรากฎว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดแล้วเจ้าหนี้อื่นก็ไม่มีสิทธิขัดขวางสิทธิของเจ้าหนี้ที่ได้ดำเนินการบังคับดคีนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 290 ก็อนุญาตเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอเฉลี่ยในเงินที่ขายทอดตลาดได้เท่านั้นจะไปขอยึดทรัพย์นั้นโดยวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ก็หาทำให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองที่ดินก่อนและหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: สัญญาใหม่ใช้บังคับ
ทำสัญญาจำนองที่ดินกันตั้งแต่ก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภายหลังเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว คู่กรณีได้มาทำสัญญาจำนองกันใหม่โดยเพิ่มเงินที่จำนองและเปลี่ยนตัวผู้จำนอง เนื่องจากผู้จำนองเดิมถึงแก่กรรม ทายาทจึงเข้ามาเป็นคู่สัญญาแทนดังนี้ ต้องบังคับกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาจำนองใหม่หลังใช้ ป.พ.พ. ทำให้ต้องบังคับตามกฎหมายใหม่ แม้จำนองเดิมจะทำก่อนใช้กฎหมาย
ทำสัญญาจำนองที่ดินกันตั้งแต่ก่อนใช้ ป.พ.พ. ภายหลังเมื่อใช้ ป.พ.พ.แล้ว คู่กรณีได้มาทำสัญญาจำนองกันใหม่โดยเพิ่มเงินที่จำนองและเปลี่ยนตัวผู้จำนอง เนื่องจากผู้จำนองเดิมถึงแก่กรรม ทายาทจึงเข้ามาเป็นคู่สัญญาแทน ดังนี้ ต้องบังคับกันตามป.พ.พ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากที่ดินของบุตรโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ผู้รับซื้อฝากอ้างอายุความมิได้ คดีไม่ผูกพันบุตร
บิดาเอาที่ดิน (ไม่มีโฉนด) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้ จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้ และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีก เพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปีฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก (ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว) ขอให้ศาลขับไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์มาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดาเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ สัญญาไม่ผูกพันบุตร และการครอบครองปรปักษ์ที่ต้องเจตนาเป็นเจ้าของ
บิดาเอาที่ดิน ( ไม่มีโฉนด ) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน 10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีกเพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปี ฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อบุคคลภายนอก และอำนาจบังคับจำนอง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 ที่ ว่าในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น ไม่ประสงค์จะให้คำชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญามีผลผูกพันถึงบุคคลนอกคดีด้วย ฉะนั้นถ้าบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความแต่เฉพาะในคดีส่วนแพ่งเท่านั้นแล้ว ก็จะนำหลักในมาตรา 46มาใช้แก่บุคคลภายนอกนั้นไม่ได้
ทำใบมอบฉันทะเพื่อยกที่ดินให้ผู้มีชื่อแล้ว ผู้มีชื่อกลับเอาใบมอบฉันทะนั้น ไปใช้ในการจำนองที่ดินนั้นแก่โจทก์ ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องบังคับจำนองแก่เจ้าของที่ดินนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ข้อจำกัดการใช้ ป.วิ.อาญา มาตรา 46 กับบุคคลภายนอกคดี
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 46 ที่ว่าในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาานั้น ไม่ประสงค์จะให้คำชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญามีผลผูกพันถึงบุคคลนอกคดีด้วย ฉะนั้นถ้าบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความแต่เฉพาะในคดีส่วนแพ่งเท่านั้นแล้ว ก็จะนำหลักในมาตรา 46 มาใช้แก่บุคคลภายนอกนั้นไม่ได้
ทำใบมอบฉันทะเพื่อยกที่ดินให้ผู้มีชื่อแล้ว ผู้มีชื่อกลับเอาใบมอบฉันทะนั้น ไปใช้ในการจำนองที่ดินนั้นแก่โจทก์ ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องบังคับจำนองแก่เจ้าของที่ดินนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบเจ้าของอาคารต่อสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ก่อสร้างอาคารให้เช่ามิได้มีท่อน้ำหรือรางน้ำไหลอันเป็นสิ่งจำเป็นตามธรรมดาเพื่อรักษาสุขภาพและอนามัย ผู้เช่าอยู่ต่างต้องเทน้ำเหลือใช้ประจำวันลงบนพื้นดินใต้ถุนและที่ข้างเคียง เป็นเหตุให้น้ำไหลนองเปรอะเปื้อนทำให้บังเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อขังน้ำกลายเป็นน้ำโสโครกส่งกลิ่นเหม็นและเป็นเหตุที่เพาะยุงแมลงวัน ดังนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคารที่ให้เช่าต้องรับผิดชอบ ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข 2484 มาตรา 21
of 119