พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อไม่มีอำนาจฟ้องต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ตามกฎหมาย หากมิได้ยกขึ้น ศาลไม่ต้องวินิจฉัยเอง
โจทก์ฟ้องคดีโดยว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้ให้การหรือดำเนินการตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 โดยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยเป็นหญิงมีสามี ฉะนั้นคดีจึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้จะมีพยานเบิกความถึง ก็เป็นเรื่องนอกประเด็นไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะพึงรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องหญิงหม้าย - การไม่ยกข้อต่อสู้เรื่องสถานภาพ
โจทก์ฟ้องคดีโดยว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้ให้การหรือดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 เลยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยเป็นหญิงมีสามี ฉะนั้นคดีจึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้จะมีพยานเบิกความถึง ก็เป็นเรื่องนอกประเด็นไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะพึงรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเงินตราต่างประเทศเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและผลของการไม่โต้แย้งคดีถึงที่สุด
นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษและริบเงินตราต่างประเทศของกลางทั้งหมดแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งประการใด แล้วภายหลังจะมาร้องขอเงินตราต่างประเทศของกลางคืนบางส่วน โดยอ้างว่าเป็นจำนวนเงินที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุญาตให้นำติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น ย่อมไม่ได้ เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเงินตราต่างประเทศที่นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีถึงที่สุดแล้วขอคืนไม่ได้
นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษและริบเงินตราต่างประเทศของกลางทั้งหมดแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์ ฎีกาโต้แย้งประการใดแล้วภายหลังจะมาร้องขอเงินตราต่างประเทศของกลางคืนบางส่วน โดยอ้างว่าเป็นจำนวนเงินที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุญาตให้นำคิดตัวเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น ย่อมไม่ได้ เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจ: คู่กรณีทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ไม่อาจเป็นโจทก์ฟ้องได้
โจทก์จำเลยทะเลาโต้เถียงกันและเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเป็นการสมัครใจเข้าวิวาท ดังนี้ ถือว่าโจทก์จำเลยไม่ใช่ผู้เสียหาย ฝ่ายใดจะมาเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจ: คู่กรณีไม่เป็นผู้เสียหาย ฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ได้
โจทก์จำเลยทะเลาะโต้เถียงกันและเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเป็นการสมัครใจเข้าวิวาท ดังนี้ ถือว่าโจทก์จำเลยไม่ใช่ผู้เสียหาย ฝ่ายใดจะมาเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาเนื่องจากขาดรายละเอียดเวลาที่กระทำผิด แม้พิพากษาให้โจทก์ชนะ ก็ต้องปล่อยตัวจำเลย
ฟ้องของโจทก์บอกแต่วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง "เวลกลาง" จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 1598(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้น แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้น แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาเกิดเหตุ
ฟ้องของโจทก์บอกแต่ วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง'เวลากลาง'จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำซ้อน: ผู้เสียหายไม่สามารถฟ้องคดีเดียวกันซ้ำอีก หลังเข้าร่วมเป็นโจทก์กับอัยการแล้ว
ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับอัยการซึ่งได้ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานหนึ่งอยู่แล้ว ผู้เสียหายจะมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในเรื่องการกระทำของจำเลยอันเดียวกันนั้นอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าร่วมเป็นโจทก์ vs. การฟ้องเองในคดีเดียวกัน
ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับอัยการซึ่งได้ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานหนึ่งอยู่แล้ว ผู้เสียหายจะมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในเรื่องการกระทำของจำเลยอันเดียวกันนั้นอีกไม่ได้