คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรมและการสันนิษฐานถึงความรู้เหตุ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้าง ดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้างตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอนโจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า – ฆ่าโดยไม่เจตนา – การพิจารณาจากพฤติการณ์ – การพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้มีชื่อตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ใช้มีดลอบแทงผู้มีชื่อตายจริงไม่ได้ให้การว่าจำเลยได้ฆ่าผู้มีชื่อตายด้วยเจตนา ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้มีชื่อนั้นศาลก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการฆ่าและการลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้มีชื่อตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ใช้มีดลอบแทงผู้มีชื่อตายจริง ไม่ได้ให้การว่าจำเลยได้ฆ่าผู้มีชื่อตายด้วยเจตนาดังนี้ เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้มีชื่อนั้นศาลก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 251 ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของสัญญาประนีประนอมต่อสิทธิในทรัพย์สินของบุตร: สัญญาไม่ผูกพันส่วนของบุตร ทำให้จำเลยมีสิทธิชำระราคาเฉพาะส่วนของโจทก์
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันในศาลว่าจำเลยยอมซื้อที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นเงิน 23,000 บาท ต่อมาฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าที่พิพาทมีชื่อบุตรโจทก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่ผูกพันทรัพย์ส่วนของบุตร ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ไม่ผูกพันส่วนของเด็ก ฝ่ายจำเลยจึงขอชำระราคาที่ดินเพียง 11,500 บาทครึ่งราคาทั้งหมด ดังนี้ ฝ่ายโจทก์จะให้จำเลยชำระราคาที่ดินเต็ม 23,000 บาท ย่อมไม่ได้เพราะตนยอมขายที่ดินให้จำเลยเพียงครึ่งเดียว ซึ่งฝ่ายจำเลยจะไม่ซื้อเสียทั้งหมดก็ย่อมทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมซื้อขายที่ดิน: สิทธิของเด็กและเจตนาซื้อขายทั้งแปลง
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันในศาลว่า จำเลยยอมซื้อที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นเงิน 23,000 บาท ต่อมาฝ่ายโจทก์ยืนคำร้องต่อศาลว่า ที่พิพาทมีชื่อบุตรโจทก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่ผูกพันทรัพย์ส่วนของบุตร ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ไม่ผูกพันส่วนของเด็ก ฝ่ายจำเลยจึงขอชำระราคาที่ดินเพียง 11,500 บาทครึ่งราคาทั้งหมดดังนี้ ฝ่ายโจทก์จะให้จำเลยชำระราคาที่ดินเต็ม 23,000 บาท ย่อมไม่ได้ เพราะตนยอมขายที่ดินให้จำเลยเพียงครึ่งเดียว ซึ่งฝ่ายจำเลยจะไม่ซื้อเสียทั้งหมดก็ย่อมทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากการขายฝาก: สิทธิไถ่ถอนไม่เป็นทรัพย์สินที่บังคับได้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะขอให้ศาลสั่งอายัติผู้รับซื้อฝากไม่ให้รับไถ่ถอนการขายฝากจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้ เพราะผู้รับซื้อฝากเป็นบุคคลภายนอกเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลห้ามเป็นการตัดรอนสิทธิที่เขามีอำนาจจะรับเงินของเขาที่ได้เสียไปในการรับซื้อฝากนั้นคืน
และเจ้าหนี้จะขอให้ศาลสั่งยึดสิทธิที่จำเลยมีสิทธิจะไถ่ถอนการขายฝากคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะขณะนั้นผู้รับซื้อฝากยังไม่ต้องส่งมอบที่ดินและตึกที่ขายฝากมายังจำเลยแต่ประการใด
เจ้าหนี้จะอ้างวิ.แพ่ง ม.282(2) หรือข้ออื่น ๆ มาใช้บังคับไม่ได้ สำหรับมาตรา 310,315 ก็เป็นเพียงวิธีปฏิบัติเมื่อได้มีการยึดแล้วเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายัดการไถ่ถอนขายฝาก: สิทธิเจ้าหนี้จำกัดเฉพาะทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดี
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะขอให้ศาลสั่งอายัดผู้รับซื้อฝากไม่ให้รับไถ่ถอนการขายฝากจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้ เพราะผู้รับซื้อฝากเป็นบุคคลภายนอกเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลห้ามเป็นการตัดรอนสิทธิที่เขามีอำนาจจะรับเงินของเขาที่ได้เสียไปในการรับซื้อฝากนั้นคืน และเจ้าหนี้จะขอให้ศาลสั่งยึดสิทธิที่จำเลยมีสิทธิจะไถ่ถอนการขายฝากคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะขณะนั้นผู้รับซื้อฝากยังไม่ต้องส่งมอบที่ดินและตึกที่ขายฝากมายังจำเลยแต่ประการใด
เจ้าหนี้จะอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282(2)หรือข้ออื่นๆ มาใช้บังคับไม่ได้ สำหรับมาตรา 310,315 ก็เป็นเพียงวิธีปฏิบัติเมื่อได้มีการยึดแล้วเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินหลังการโอนสิทธิ
การยึดถือที่ดินไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้อันเป็นการยึดถือแทนเจ้าของที่ดินนั้น อาจจะเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนต่อไปก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการถูกแย่งการครอบครองเจ้าของที่ดินจะต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่ได้รับบอกกล่าวให้ทราบเช่นนั้น
สามีผู้ยึดถือที่ดินของผู้อื่นในฐานะยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ได้เอาที่ดินนั้นโอนทะเบียนยกให้ภรรยาของตนเสีย โดยเจ้าของที่ดินไม่ทราบจนเมื่อเจ้าของที่ดินมาขอไถ่ที่ดินคืน จึงทราบเช่นนี้ เจ้าของที่ดินยังมีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันทราบ
โจทก์ฟ้องเรียกคืนการครอบครองที่ดินจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1375 เช่นนี้ จำเลยเป็นฝ่ายอ้าง จึงมีหน้าที่นำสืบว่าโจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินหลังการโอนสิทธิทำกินต่างดอกเบี้ย
การยึดถือที่ดินไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้อันเป็นทางยึดถือแทนเจ้าของที่ดินนั้น อาจจะเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนต่อไปก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการถูกแย่งการครอบครอง เจ้าของที่ดินจะต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่ได้รับบอกกล่าวให้ทราบเช่นนั้น
สามีผู้ยึดถือที่ดินของผู้อื่นในฐานะยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ได้เอาที่ดินนั้นโอนทะเบียนยกให้ภรรยาของตนเสีย โดยเจ้าของที่ดินไม่ทราบ จนเมื่อเจ้าของที่ดินมาขอไถ่ที่ดินคืน จึงทราบเช่นนี้ เจ้าของที่ดินยังมีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันทราบ
โจทก์ฟ้องเรียกคืนการครอบครองที่ดินจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1375 เช่นนี้ จำเลยเป็นฝ่ายอ้าง จึงมีหน้าที่นำสืบว่าโจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพเรื่องราคาฝิ่น: ไม่ต้องสืบพยานยืนยัน หากจำเลยไม่โต้แย้ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำฝิ่นผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร โดยได้ระบุถึงจำนวนฝิ่นและราคาฝิ่น ทั้งยังบรรยายถึงราคาฝิ่นรัฐบาลในท้องที่ตามวันเวลาเกิดเหตุเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการเรื่องราคาฝิ่นตามฟ้องก็มิได้คัดค้านแต่ประการใด ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้รับตลอดถึงราคาฝิ่นแล้ว แม้คดีมีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี โจทก์ต้องสืบพยานให้เป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงก็ตาม เมื่อโจทก์นำพยานมาสืบว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริงตามฟ้องแล้วแม้จะไม่ได้สืบเรื่องราคาฝิ่นอีกก็ตามและโดยเหตุที่ราคาฝิ่นเป็นเพียงคำนวณค่าปรับ หาใช่เป็นธาตุฐานแห่งความผิดเมื่อจำเลยให้การรับอยู่แล้วตามฟ้องจึงเป็นการเพียงพอฟังได้ว่าฝิ่นมีราคาจริงดังฟ้อง
of 119