คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รั้วไซมานรุกล้ำทางน้ำ: ละเมิดกฎหมายประมง
ขออนุญาตตั้งรั้วไซมาน. ประมงอำเภอได้ปักกรุยเขตให้แล้วแต่ไม่ทำตามที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ทำ กลับปักเสารั้วไซมานรุกล้ำปิดทางน้ำเสียหมด ดังนี้ต้องมีผิดตาม พระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 31,61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งรั้วไซมานรุกล้ำทางน้ำสาธารณะ แม้ได้รับอนุญาตแต่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง
ขออนุญาตตั้งรั้วไซมานประมงอำเภอ ได้ปักกรุยเขตให้แล้ว แต่ไม่ทำตามที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ทำกลับปักเสารั้งไซมานรุกล้ำปิดทางน้ำเสียหมด ดังนี้ต้องมีผิดตาม พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 31 ,61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้ขายร่วมที่ยินยอมให้ผู้ซื้อเชื่อว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน
มารดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร ปล่อยให้บุตรไปประกาศรับมรดกที่ดินนี้แต่ผู้เดียว จนเจ้าพนังกานจดทะเบียนไว้แล้ว มารดาก็ทราบ ต่อมาบุตรตกลงขายที่ดินให้บุคคลอื่น มารดาก็รู้เห็นอยู่ด้วย จนยินยอมเอาเงินที่ได้รับจากผู้ซื้อมาไถ่ถอนการขายฝากที่ดินนี้ แม้ภายหลังจะกลับใจโดยมารดาเอาที่ดินไปประกาศขายแก่คนอื่นเสีย แต่เมื่อบุตรคัดค้านและอำเภอสั่งให้มารดาฟ้อง มารดาก็ไม่ฟ้อง จนต่อมาบุตรได้ประกาศขายให้ผู้ซื้อมารดาก็ไม่คัดค้านอย่างไรอีกจนอำเภอจดทะเบียนทำสัญญาซื้อขายให้กันเสร็จไปแล้ว ดังนี้ย่อมถือได้ว่า พฤติการณ์และการกระทำของมารดาทำให้ผู้ซื้อเชื่อโดยสุจริตว่ามารดาคงไม่เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้บุตรขายได้แล้ว ผู้ซื้อจึงรับซื้อและชำระราคาไป มารดาจะกลับมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ขายแล้วกลับใจ มารดาใช้สิทธิโดยไม่สุจริต สัญญาซื้อขายสมบูรณ์
มารดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร ปล่อยให้บุตรไปประกาศรับมรดกที่ดินนี้แต่ผู้เดียวจนเจ้าพนักงานจดทะเบียนไว้แล้ว มารดาก็ทราบต่อมาบุตรตกลงขายที่ดินให้บุคคลอื่น มารดาก็รู้เห็นอยู่ด้วย จนยินยอมเอาเงินที่ได้รับจากผู้ซื้อมาไถ่ถอนการขายฝากที่ดินนี้แม้ภายหลังจะกลับใจโดยมารดาเอาที่ดินไปประกาศขายแก่คนอื่นเสีย แต่เมื่อบุตรคัดค้านและอำเภอสั่งให้มารดาฟ้องมารดาก็ไม่ฟ้อง จนต่อมาบุตรได้ประกาศขายให้ผู้ซื้อมารดาก็ไม่คัดค้านอย่างไรอีก จนอำเภอจดทะเบียนทำสัญญาซื้อขายให้กันเสร็จไปแล้วดังนี้ ย่อมถือได้ว่าพฤติการณ์และการกระทำของมารดาทำให้ผู้ซื้อเชื่อโดยสุจริตว่ามารดาคงไม่เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้บุตรขายได้แล้ว ผู้ซื้อจึงรับซื้อและชำระราคาไป มารดาจะกลับมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนโดยความตกลงเป็นไปได้ แม้มีเหตุเลิกตามกฎหมาย
เหตุเลิกหุ้นส่วนตามมาตรา 1055 นั้นเป็นเหตุเลิกห้างหุ้นส่วนอันมิใช่โดยความตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน
การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วน ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือขัดต่อศีลธรรมอย่างไร ผู้เป็นหุ้นส่วนจึงตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วนต่อกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนโดยความตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรม
เหตุเลิกหุ้นส่วนตามมาตรา 1055 นั้นเป็นเหตุเลิกห้างหุ้นส่วนอันมิใช่โดยความตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน
การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วน ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือขัดต่อศีลธรรมอย่างไร ผู้เป็นหุ้นส่วนจึงตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วนต่อกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อผลจากการกระทำโดยตรง: การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
บุคคลผู้กระทำผิดย่อมต้องรับผิดต่อผลโดยตรง อันบังเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการกระทำของตน
จำเลยใช้พายตีเขาถึงสลบ ขากรรไกรข้างซ้ายหัก ฟันโยกคลอนทั้งแถบประมาณ 7 ซี่ รักษาแพทย์แผนโบราณใส่น้ำมันอยู่ 3-4 วันแผลเป็นหนองในปาก เจ็บปวดได้รับทุกข์เวทนาแก่กล้าและไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพตามปกติอยู่เดือนครึ่งจึงไปรักษาที่โรงพยาบาลกลาง แพทย์ที่โรงพยาบาลกลางว่าถ้ามาใหม่ ๆ ก็จะหายเร็วกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้กล่าวว่าจะหายภายในกี่วัน ดังนี้การเจ็บปวดร้ายแรงของผู้ถูกบาดเจ็บเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการกระทำของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อผลจากการกระทำโดยตรง: การทำร้ายร่างกาย
บุคคลผู้กระทำผิดย่อมต้องรับผิดต่อผลโดยตรง อันบังเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการกระทำของตน
จำเลยใช้พายตีเขาถึงสลบขากรรไกรข้างซ้ายหักฟันโยกคลอนทั้งแถบประมาณ 7 ซี่ รักษาแพทย์แผนโบราณใส่น้ำมันอยู่ 3-4 วันแผลเป็นหนองในปาก เจ็บปวดได้รับทุกข์เวทนาแก่กล้าและไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพตามปกติอยู่เดือนครึ่งจึงไปรักษาที่โรงพยาบาลกลางแพทย์ที่โรงพยาบาลกลางว่าถ้ามาใหม่ๆ ก็จะหายเร็วกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้กล่าวว่าจะหายภายในกี่วันดังนี้การเจ็บปวดร้ายแรงของผู้ถูกบาดเจ็บเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการกระทำของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์ที่ถูกลักยอก ไม่ใช่ของตกหาย ตามความหมายกฎหมาย มาตรา 318
โจทก์ฟ้องบรรยายว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ของผู้เสียหายไปแล้วต่อมาจำเลยได้เก็บทรัพย์ซึ่งถูกคนร้ายลักไปนั้นได้แล้ว จำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเอาไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเสียไม่กระทำตามกฎหมายที่บังคับไว้สำหรับการเก็บของตกของหาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 318 ดังนี้ทรัพย์ที่หาว่ายักยอกเป็นทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นของตกหาย ตามความหมายแห่งกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 318จำเลยจึงยังไม่ผิดตามที่โจทก์ฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 138/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์ที่ถูกลักยักยอก ไม่ใช่ของตกหาย ไม่ผิดตามมาตรา 318
โจทก์ฟ้องบรรยายว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ของผู้เสียหายไปแล้วต่อมาจำเลยได้เก็บทรัพย์ซึ่งถูกคนร้ายลักไปนั้นได้ แล้วจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเอาไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเสียไม่กระทำตามกฎหมายที่บังคับไว้สำหรับการเก็บของตก ของหาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 318 ดังนี้ทรัพย์ที่หาว่ายักยอกเป็นทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไป ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นของตกหาย ตามความหมายแห่ง ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 318 จำเลยจึงยังไม่ผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
(อ้างฎีกาที่ 138/2492)
of 119