คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นข้อพิพาทเดิมที่เคยตัดสินเด็ดขาดแล้ว
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องโจทก์อ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของโจทก์ ศาลฎีกาตัดสินว่าที่ดินเป็นของจำเลย คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์มาฟ้องคดีใหม่อ้างว่าที่ดินเป็นของโจทก์มอบให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยเป็นการฟ้องตั้งประเด็นว่า ที่ดินเป็นของโจทก์ อันเป็นประเด็นข้อสำคัญอย่างเดียวกับคดีก่อนนั่นเอง จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วยการชำระหนี้ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน มิฉะนั้นกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์
มอบที่ดินมีโฉนดให้เป็นการชำระหนี้เงินกู้นั้น ถือได้ว่าเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้นถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนการได้มาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ผู้รับโอนก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ถ้าตนยังครอบครองมาไม่ถึง 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกประเด็นฟ้อง ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรถแล้วจำเลยที่ 1 ขับรถชนโจทก์เสียหายขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย แต่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่เก็บสตางค์ค่าโดยสารในรถยนตร์ของจำเลยไม่ใช่เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ดังฟ้อง จึงเป็นการสืบนอกประเด็น จะรับฟังมาวินิจฉัยให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบตามฟ้องไม่ได้ ต้องยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 เสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกประเด็นฟ้อง ส่งผลต่อความรับผิดของเจ้าของรถ
ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรถ แล้วจำเลยที่ 1ขับรถชนโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย แต่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่เก็บสตางค์ค่าโดยสารในรถยนต์ของจำเลย ไม่ใช่เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ดังฟ้อง จึงเป็นการสืบนอกประเด็น จะรับฟังมาวินิจฉัยให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบตามฟ้องไม่ได้ ต้องยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 เสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกผลธรรมดา vs. ดอกผลนิตินัย: ข้าวจากนาไม่ใช่ดอกผลธรรมดา แม้ได้จากทรัพย์สินร่วม
ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขน และลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกผลธรรมดา vs. ดอกผลนิตินัย: ข้าวเปลือกไม่ใช่ดอกผลของนา
ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขนและลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนาฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนา เช่นเดียวกัน(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดา โจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่22/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดกฎหมายฝิ่น แม้มีเหตุผลเรื่องการจับกุมลูกจ้าง ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นเพื่อพ้นผิดได้
ผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นได้พาฝิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายในร้านออกนอกร้านฝิ่นไปเก็บไว้ที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นจะกล่าวอ้างว่าเพราะ ตำรวจจับลูกจ้างในร้านฝิ่นไปหมดนั้น ย่อมไม่ใช่เหตุฉุกเฉินร้ายแรงถึงขนาดที่จะอ้างเป็นความจำเป็นให้พ้นผิดได้ และจะอ้างว่าไม่มีเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 43 ก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่น แม้มีเหตุผลความจำเป็นจากสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่เพียงพอที่จะยกเว้นความผิดได้
ผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นได้พาฝิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายในร้านออกนอกร้านฝิ่นไปเก็บไว้ที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น จะกล่าวอ้างว่าเพราะตำรวจจับลูกจ้างในร้านฝิ่นไปหมดนั้น ย่อมไม่ใช่เหตุฉุกเฉินร้ายแรงถึงขนาดที่จะอ้างเป็นความจำเป็นให้พ้นผิดได้ และจะอ้างว่าไม่มี เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 43 ก็ไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 269/2480)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์และตนเอง: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการลักทรัพย์และการต่อสู้
ผู้ตายลักทรัพย์ของจำเลยจำเลยติดตามมา ผู้ตายหันหน้ากลับมาต่อสู้ด้วยมีดปาดตาลจำเลยจึงตีผู้ตายด้วยเสียม ซึ่งเป็นวัตถุที่ธรรมดามิใช่สาตราวุธจำเลยตีเพียงหนึ่งหรือสองที ผู้ตายก็วิ่งหนีไปดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันทรัพย์และตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์และตนเอง: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการลักทรัพย์และการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้ตายลักทรัพย์ของจำเลย จำเลยติดตามมา ผู้ตายหันหน้ากลับมาต่อสู้ด้วยมีดปาดตาล จำเลยจึงตีผู้ตายด้วยเสียม ซึ่งเป็นวัตถุที่ธรรมดามิใช่ศาตราวุธ จำเลยตีเพียงหนึ่งหรือสองที ผู้ตายก็วิ่งหนีไป ดังนี้ เรียกได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันทรัพย์และตนพอสมควรแก่เหตุ
of 119