คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบหักล้างโฉนด: ข้อแตกต่างระหว่างการนำสืบข้อเท็จจริงระหว่างตัวแทน/ตัวการ กับการหักล้างเอกสารทางทะเบียน
คู่ความฝ่ายหนึ่งขอนำสืบว่า ความจริงที่โฉนดมีชื่ออีกฝ่ายหนึ่งเป็นเจ้าของ เพราะฝ่ายนั้นเป็นตัวแทนหรือลงนามแทนตนนั้นเป็นการนำสืบความจริงในระหว่างตัวแทนกับตัวการ หาใช่เป็นเรื่องนำสืบหักล้างเอกสารทางทะเบียนไม่ จึงย่อมนำสืบได้ และจะขอนำสืบถึงเอกสารที่อ้างว่าฝ่ายนั้นทำรับรองไว้ อันเป็นพยานหลักฐานว่า ฝ่ายนั้นเป็นตัวแทนก็นำสืบได้ เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจน ขาดรายละเอียดเวลาและข้อหา ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย 7 ครั้งในเวลา 1 ปีกับเข้าหุ้นฟรีอีก 600 บาท แต่ไม่บอกว่าเรียกรับเงินไปครั้งแรกและครั้งถัดไปในราวเดือนอะไรบ้าง ทั้งเงิน 600 บาทค่าหุ้นฟรี จำเลยรับไปเมื่อไรก็ไม่บอก ดังนี้เป็นฟ้องที่เคลือบคบุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจน ขาดรายละเอียดเวลาและวันที่กระทำผิด ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย 7 ครั้งในเวลา 1 ปีกับเข้าหุ้นฟรีอีก 600 บาทแต่ไม่บอกว่าเรียกรับเงินไปครั้งแรกและครั้งถัดๆไปในราวเดือนอะไรบ้างทั้งเงิน 600 บาทค่าหุ้นฟรี จำเลยรับไปเมื่อไรก็ไม่บอก ดังนี้เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่อค้าขายและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ หากมีการใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
เช่าห้องเพื่อการค้าขายแล้วผู้เช่าให้ลูกจ้างเข้าอยู่ในห้องรายนี้โดยหาเป็นที่เข้าใจกันในเวลาเช่าว่าผู้เช่าห้องรายนี้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ดังนี้ผู้เช่าไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
คำสั่งคณะอนุกรรมการค่าเช่าที่สั่งการไปมิได้เป็นการกระทำตามอำนาจที่ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ได้ให้ไว้แล้ว ก็หาเป็นผลในทางบคดีไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องเพื่อค้าขาย และการไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากผู้เช่าไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
เช่าห้องเพื่อการค้าขายแล้วผู้เช่าให้ลูกจ้างเข้าอยู่ในห้องรายนี้โดยหาเป็นที่เข้าใจกันในเวลาเช่าไม่ว่าผู้เช่าจะใช้ห้องรายนี้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยดังนี้ ผู้เช่าไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำสั่งคณะอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าที่สั่งการไปซึ่งมิได้เป็นการกระทำตามอำนาจที่พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯได้ให้ไว้แล้วก็หาเป็นผลในทางคดีไม่ (อ้างฎีกาที่ 197/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในภาวะฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธอื่น
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืน ผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตายดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธ ศาลยกเว้นโทษ
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืนผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีดปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตาย ดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีครอบครองที่ดิน ศาลต้องวินิจฉัยกรรมสิทธิก่อน หากกรรมสิทธิไม่ชัดเจน การพิพากษายกฟ้องเฉพาะข้อบุกรุกจึงไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิาพทเป็นของผู้ร้องสอด และจำเลยมิได้บุกรุก ผู้ร้องสอดร้องสอดเข้ามา ก็ให้การยืนยันว่าผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของที่พิพาทดังนี้ ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีจึงมีเป็นประการแรกว่า ที่พิพาทเป็นของใคร ถ้าฟังว่าเป็นของโจทก์ จึงจะมีประเด็นต่อไปว่า จำเลยบุกรุกหรือเปล่า ถ้าฟังว่าที่เป็นของผู้ร้องสอดข้อบุกรุกก็ตกไป ฉะนั้นศาลจะชี้ขาดแต่เพียงว่าจำเลยไม่ได้บุกรุกแล้วพิพากษายกฟ้องโจกท์เสียโดยไม่ชี้ขาดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือมิใช่ ซึ่งเป็นของโจทก์หรือมิใช่ ซึ่งเป็นข้ออ้างสำคัญที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในคดีนี้นี้นจึงมิได้เป็นการตัดสินคดีตามข้อหาในฟ้องของโจทก์ทุกข้อเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติ ป.ว.แพ่ง 142,246

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยกรรมสิทธิ์ในที่ดินก่อนพิจารณาประเด็นบุกรุก: ศาลต้องชี้ขาดกรรมสิทธิ์ก่อน หากกรรมสิทธิ์ไม่ชัดเจน ประเด็นบุกรุกจึงไม่สามารถวินิจฉัยได้
โจทก์ฟ้องว่าที่วิวาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอดและจำเลยมิได้บุกรุก ผู้ร้องสอดร้องสอดเข้ามา ก็ให้การยืนยันว่าผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของที่พิพาท ดังนี้ ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีจึงมีเป็นประการแรกว่า ที่พิพาทเป็นของใคร ถ้าฟังว่าเป็นของโจทก์จึงจะมีประเด็นต่อไปว่า จำเลยบุกรุกหรือเปล่า ถ้าฟังว่าที่เป็นของผู้ร้องสอดข้อบุกรุกก็ตกไป ฉะนั้นศาลจะชี้ขาดแต่เพียงว่าจำเลยไม่ได้บุกรุกแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียโดยไม่ชี้ขาดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือมิใช่ซึ่งเป็นข้ออ้างสำคัญที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในคดีนี้นั้นจึงมิได้เป็นการตัดสินคดีตามข้อหาในฟ้องของโจทก์ทุกข้อเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142,246

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนทรัพย์สิน: โจทก์มีสิทธิรับคืนทรัพย์สินเมื่อยังอยู่ครบถ้วน แม้มีการฟ้องร้องทำลายทรัพย์สิน
ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ กับให้ใช้ทรัพย์เมื่อปรากฏว่าทรัพย์ที่พิพาทยังอยู่หาได้ถูกทำลายสูญไป เมื่อศาลตัดสินว่า โจทก์เป็นเจ้าของก็ชอบที่ดจทก์จะได้รับคืนไป ศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนอกความประสงค์ของโจทก์ ไม่มีประเด็นที่จะพิจารณาข้อค่าเสียหาย
of 119