พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหนี้ชำระหนี้ มิใช่การตั้งตัวแทนรับเงิน
ข้อความในเอกสารที่แสดงเจตนาเป็นการโอนหนี้เพื่อเป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่ตั้งตัวแทนสำหรับเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหนี้ชำระหนี้ มิใช่การตั้งตัวแทนรับเงิน
ข้อความในเอกสารที่แสดงเจตนาเป็นการโอนหนี้เพื่อเป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่ตั้งตัวแทนสำหรับรับเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสภาพหนี้โดยทายาท ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง
คดีแพ่งซึ่งถ้าเป็นจริงตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า บิดาจำเลยผู้ทำสัญญามัดจำขายที่ดินให้โจทก์ได้ตายแล้ว จำเลยได้ยอมรับปฎิบัติตามสัญญามัดจำจะโอนให้โจทก์ทั้งยอมให้โจทก์ครอบครองที่ดินนั้นจนบัดนี้ ดังนี้ ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ต่อโจทก์อันทำให้อายุความสะดุดหยุดลงหากศาลชั้นต้นงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสียและวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความ: กรณีผู้รับโอนสิทธิและหน้าที่จากผู้ตาย
คดีแพ่งซึ่งถ้าเป็นจริงตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า บิดาจำเลยผู้ทำสัญญามัดจำขายที่ดินให้ดดจทก์ได้ตายแล้ว จำเลยได้ยอมรับปฏิบัติตามสัญญามัดจำจะโอนให้โจทก์ทั้งยอมให้โจทก์ครอบครองที่ดินนั้นจนบัดนี้ ดังนี้ ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ต่อโจกท์อันทำให้อายุความสะดุดหยุดลง หากศาลชั้นต้นงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสีย และวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืม: หนังสือรับรองหนี้ + พยานหลักฐานประกอบแสดงเจตนาการกู้ยืม
ฟ้องเรียกเงินกู้โดยล้างตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งมีข้อความแสดงแต่เพียงรับรองว่า จำเลยมีหนี้อันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์โดยไม่มีถ้อยคำชัดว่า หนี้นั้นเป็นหนี้เงินกู้หรือหนี้อย่างอื่น โจทก์ย่อมนำพยานหลักฐานสืบประกอบว่าหนี้นั้นเป็นหนี้เงินกู้ได้
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 653 หาได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่า จะต้องมีถ้อยคำว่า กู้ยืมเป็นหลักฐานในเอกสารนั้นไม่ เมื่อโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงความเป็หนี้สินลงลายมือชื่อลูกหนี้แล้ว และสืบพยานหลักฐานประกอบอธิบายได้ว่าหนี้สินนั้นเป็นหนี้สินแห่งการกู้ยืมเอกสารนั้นก็เป็นหนังสือเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมแล้ว
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 653 หาได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่า จะต้องมีถ้อยคำว่า กู้ยืมเป็นหลักฐานในเอกสารนั้นไม่ เมื่อโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงความเป็หนี้สินลงลายมือชื่อลูกหนี้แล้ว และสืบพยานหลักฐานประกอบอธิบายได้ว่าหนี้สินนั้นเป็นหนี้สินแห่งการกู้ยืมเอกสารนั้นก็เป็นหนังสือเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตั๋วสัญญาใช้เงินพิสูจน์การกู้ยืมได้ แม้ไม่มีคำว่า 'กู้ยืม' หลักฐานอื่นประกอบได้
ฟ้องเรียกเงินกู้โดยอ้างตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งมีข้อความแสดงแต่เพียงรับรองว่า จำเลยมีหนี้อันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์ โดยไม่มีถ้อยคำชัดว่า หนี้นั้นเป็นหนี้เงินกู้หรือหนี้อย่างอื่น โจทก์ย่อมนำพยานหลักฐานสืบประกอบว่าหนี้นั้นเป็นหนี้เงินกู้ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 หาได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่า จะต้องมีถ้อยคำว่า กู้ยืมเป็นหลักฐานในเอกสารนั้นไม่ เมื่อโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงความเป็นหนี้สินลงลายมือชื่อลูกหนี้แล้วและสืบพยานหลักฐานประกอบอธิบายได้ว่าหนี้สินนั้นเป็นหนี้สินแห่งการกู้ยืม เอกสารนั้นก็เป็นหนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมแล้ว(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8-9/2493)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 หาได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่า จะต้องมีถ้อยคำว่า กู้ยืมเป็นหลักฐานในเอกสารนั้นไม่ เมื่อโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงความเป็นหนี้สินลงลายมือชื่อลูกหนี้แล้วและสืบพยานหลักฐานประกอบอธิบายได้ว่าหนี้สินนั้นเป็นหนี้สินแห่งการกู้ยืม เอกสารนั้นก็เป็นหนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมแล้ว(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8-9/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยต้องสอดคล้องกับคำฟ้อง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่พยานไม่สนับสนุน จึงลงโทษฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายกลุ้มรุมกันทำร้ายชกต่อย ถีบ เตะ ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บแล้วในตอนหลังผู้เสียหายถูกคนอื่นซึ่งเป็นพรรคพวกของจำเลยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกับคนอื่นที่ทำร้ายเหล่านั้นด้วย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมิได้ จำเลยคงมีผิดเพียง ฐานทำร้ายร่างกายไม่บาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาต้องสอดคล้องกับฟ้อง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่พยานไม่สนับสนุน ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายกลุ่มรุมกันทำร้าย ชกต่อย ถีบ เตะ ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บ แล้วในตอนหลังผู้เสียหายถูกคนอื่นซึ่งเป็นพรรคพวกขอบจำเลยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกับคนอื่นที่ทำร้ายเหล่านั้นด้วย ดังนั้นจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมิได้ จำเลยคงมีความผิดเพียง ฐานทำร้ายร่างกายไม่บาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อหาต่างกันระหว่างฟ้องและพยานหลักฐาน: เจ้ามือ vs. ลูกค้าการพนันโปกำ ศาลลงโทษตามข้อหาที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันโปคำ จำเลยให้การรับเพียงแต่เป็นลูกค้าเล่นการพนันโปคำ ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ควาทางพิจารณาไม่ต่างกันฟ้องและศาลลงโทษจำเลยเพียงความผิดที่เป็นลูกค้าเล่นการพันโปกำได้ (อ้างฎีกา 553/89)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากเจ้ามือเป็นลูกค้าเล่นพนัน: ศาลลงโทษได้เฉพาะความผิดฐานเป็นลูกค้า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันโปกำ จำเลยให้การรับเพียงแต่เป็นลูกค้าเล่นการพนันโปกำ ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง และศาลลงโทษจำเลยเพียงความผิดที่เป็นลูกค้าเล่นการพนันโปกำได้
(อ้างฎีกา 552/89)
(อ้างฎีกา 552/89)