พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายบท: ศาลลงโทษบทหนักเพียงบทเดียว ไม่ต้องพิจารณาบทอื่น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทงขอให้ลงโทษตามมาตรา 116,119,120,154,338(3) จำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 116,119,120,338(3) แต่ให้ลงโทษตามบทหนักตามมาตรา 120 ส่วนข้อหาตามมาตรา 154 เห็นว่าการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 154 จึงให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้จำเลยจะมีผิดตามมาตรา 154 ด้วยก็ดี ก็เป็นความผิดหลายบท ศาลล่างลงโทษจำเลยตามมาตรา120 อันเป็นบทหนักแล้ว ไม่จำต้องพิเคราะห์ถึงความผิดตามมาตรา 154 อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิร่วมในทรัพย์สินระหว่างอยู่กินฉันท์สามีภรรยา การลงชื่อในใบเหยียบย่ำมิใช่การสละสิทธิ
โจทก์,จำเลยเป็นสามีภรรยากัน แต่มิได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างอยู่กินด้วยกัน โจทก์ได้ที่ดินมาจากผู้อื่น และลงชื่อจำเลยซึ่งเป็นภรรยาลงในใบเหยียบย่ำ ตามพฤตติการณ์ โจทก์,จำเลยต่างมีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นร่วมกัน การที่โจทก์ยอมให้จำเลยมีชื่อในใบเหยียบย่ำแต่ผู้เดียว ไม่เป็นข้อแสดงว่าโจทก์สละสิทธิให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาขณะอยู่กินฉันท์สามีภรรยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส การลงชื่อในใบเหยียบย่ำไม่ถือเป็นการสละสิทธิ์
โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากัน แต่มิได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างอยู่กินด้วยกันโจทก์ได้ที่ดินมาจากผู้อื่น และลงชื่อจำเลยซึ่งเป็นภรรยาลงในใบเหยียบย่ำ ตามพฤติการณ์โจทก์จำเลยต่างมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นร่วมกัน การที่โจทก์ยอมให้จำเลยมีชื่อในใบเหยียบย่ำแต่ผู้เดียว ไม่เป็นข้อแสดงว่าโจทก์สละสิทธิ์ให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องทำร้ายร่างกายและการพิจารณาคดีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ศาลต้องลงโทษตามที่บรรยายฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้าย ช.และ ส.ฝ่ายเดียวตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 256 ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นกรณีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 253 ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1232/2481 และ ฎีกาที่ 740/2482)
(อ้างฎีกาที่ 1232/2481 และ ฎีกาที่ 740/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินก่อนตายโดยความเจตนาของผู้ตาย: ทรัพย์สินตกเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง
ผู้ตายกับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้ตายได้มอบสังหาริมทรัพย์ของผู้ตายซึ่งจำเลยยึดถืออยู่แล้ว ให้แก่จำเลยก่อนตายทรัพย์ต่างๆ จึงตกเป็นของจำเลยตามเจตนาของผู้ตาย โจทก์จะฟ้องเรียกเอาว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินก่อนตายและความเจตนาของผู้ตาย: ทรัพย์สินตกเป็นของจำเลย
ผู้ตายกับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ตายได้มอบสังหาริมทรัพย์ของผู้ตายซึ่งจำเลยยึดถืออยู่แล้ว ให้แก่จำเลยก่อนตายทรัพย์ต่าง ๆ จึงตกเป็นของจำเลยตามเจตนาของผู้ตาย โจทก์จะฟ้องเรียกเอาว่าเป็นทรัพย์มฤดกของผู้ตายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจข่มขู่เรียกทรัพย์สินจากผู้กระทำผิดทางภาษี โดยมิได้ยึดทรัพย์ตามหน้าที่
จำเลยเป็นพลศุลการักษ์มีหน้าที่ตรวจจับผู้กระทำผิดจำเลยได้ทำการจับบุหรี่ซิกาแรตซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ มิได้เสียค่าภาษีศุลกากรจากผู้กระทำผิด จำเลยได้บังคับให้ผู้กระทำผิดให้บุหรี่และธนบัตรแก่จำเลย เมื่อเจ้าทรัพย์จะติดตามไป จำเลยยังพูดขู่ไม่ให้ตามไป ถ้าตามไปจะจับ ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยใช้อำนาจหน้าที่ไปขู่เอาทรัพย์เขามา จำเลยไม่ได้ทำการจับกุมยึดทรัพย์ตามหน้าที่ ควรลงโทษจำเลยตามมาตรา 136
การบังคับเอาทรัพย์ตามมาตรา 136 ต้องไม่ส่งคืนทรัพย์
การบังคับเอาทรัพย์ตามมาตรา 136 ต้องไม่ส่งคืนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจข่มขู่เรียกทรัพย์จากผู้กระทำผิด แทนการยึดทรัพย์ตามกฎหมาย
จำเลยเป็นพลศุลการักษ์มีหน้าที่ตรวจจับผู้กระทำผิด จำเลยได้ทำการจับบุหรี่ซิกาแรตซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ มิได้เสียค่าภาษีศุลกากรจากผู้กระทำผิด จำเลยได้บังคับให้ผู้กระทำผิดให้บุหรี่และธนบัตร์แก่จำเลย เมื่อเจ้าทรัพย์จะติดตามไป จำเลยยังพูดขู่ไม่ให้ตามไป ถ้าตามไปจะจับ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยใช้อำนาจหน้าที่ไปขู่เอาทรัพย์เขามา จำเลยไม่ได้ทำการจับกุมยึดทรัพย์ตามหน้าที่ ควรลงโทษจำเลยตามมาตรา 136 การบังคับเอาทรัพย์ตามมาตรา 136 ไม่สั่งคืนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การซื้อขายโดยสุจริต และผลกระทบต่อเจ้าของเดิม
เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์สินร่วมกันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริต
เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้ เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้