คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 118

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานแจ้งความเท็จในการเบิกจ่ายค่าพาหนะเดินทางของข้าราชการ โดยข้าหลวงประจำจังหวัดมีหน้าที่พิจารณาอนุมัติ
ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จะพิจารณาและสั่งอนุญาตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าพาหนะเดินทางของข้าราชการ เมื่อจำเลยทำใบสำคัญเท็จมาแสดง เพื่อขอเบิกเงินตามใบสำคัญนั้น ก็อาจทำให้ข้าหลวงประจำจังหวัด หรือรัฐบาลเสียหายได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118,

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการประทับฟ้องและการลงโทษตามบทแจ้งความเท็จ: มาตรา 118 และ 158
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 118,158,268,270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา 118 ขึ้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการรับฟ้องและลงโทษอาญา: การรับฟ้องตามมาตรา 118 รวมถึงมาตรา 158 และการลงโทษตามบทที่มีอัตราโทษหนัก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118,158,268, 270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา118 ขึ้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการฉ้อโกงและการแจ้งความเท็จ อำนาจฟ้องของผู้ถูกหลอกลวง
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยพนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกันโจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายและฐานความผิด
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลย พนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน โจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ/แจ้งความเท็จ: การกล่าวอ้างวันผิดพลาดไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า โจทก์กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษา ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 5 แต่ปรากฎว่าวันที่ 5 นั้นศาลปิด หยุดราชการ ดังนี้ เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษาให้จำเลยฟังจริง แต่เป็นวันอื่นไม่ใช่วันที่ 5 ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างวันผิดไป มิใช่มูลเหตุหรือสาระสำคัญแห่งเนื้อเรี่องที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จหรือแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนวันกล่าวคำหมิ่นประมาท ไม่ใช่สาระสำคัญแห่งความเท็จ
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า โจทก์กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษา ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 5 แต่ปรากฏว่าวันที่ 5 นั้นศาลปิดหยุดราชการ ดังนี้ เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษาให้จำเลยฟังจริง แต่เป็นวันอื่นไม่ใช่วันที่ 5 ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างวันผิดไป มิใช่มูลเหตุหรือสาระสำคัญแห่งเนื้อเรื่องที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จหรือแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทมาตราผิดในคำฟ้องอาญา: ศาลลงโทษตามบทที่ถูกต้องได้
ฟ้องของโจทก์บรรยายความหาว่าจำเลยได้นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นฟ้องตรงตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 เมื่อนำพยานสืบก็สืบตามฟ้อง แต่ในคำขอท้ายฟ้องอ้างมาตรา 155 ถึงมาตรา 158 ไม่ได้อ้างมาตรา 118 ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นเรื่องอ้างบทผิด ไม่ใช่ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลย ศาลจึงอาจลงโทษจำเลยในบทที่ถูกต้องคือตามมาตรา 118 ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาโดยอ้างบทผิด ศาลอาจลงโทษตามบทที่ถูกต้องได้
ฟ้องของโจทก์บรรยายความหาว่าจำเลยได้นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นฟ้องตรงตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 เมื่อนำพยานสืบก็สืบตามฟ้อง แต่ในคำขอท้ายฟ้องอ้างมาตรา 155 ถึง มาตรา 158 ไม่ได้อ้างมาตรา 118 ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นเรื่องอ้างบทผิด ไม่ใช่ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลย ศาลจึงอาจลงโทษจำเลยในบทที่ถูกต้องคือตามมาตรา 118 ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องแจ้งความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุเจตนา แต่แสดงชัดในเนื้อหา
คำฟ้องที่กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้นแม้จะไม่ได้บรรยายระบุคำว่า 'จำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ' แต่เมื่อข้อความที่บรรยายในฟ้องนั้นได้ความแสดงชัดอยู่ในตัวแล้วว่า จำเลยรู้อยู่ว่าข้อความที่แจ้งมานั้นเป็นความเท็จ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ครบองค์ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 แล้ว
of 13