พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้ถอนฟ้องและการผิดคำรับรอง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือแจ้งความเท็จ
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มรดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความต่อเนื่องแห่งการกระทำความผิดฉ้อโกง แม้ส่งมอบทรัพย์ในวันรุ่งขึ้น ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฏว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพยานปรากฏว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ถูกหลอกลวงมีอำนาจร้องทุกข์ฉ้อโกง แม้เงินที่จ่ายไม่ใช่ของตนเอง
ในคดีฉ้อโกงเงินนั้น เมื่อผู้ถูกหลอกลวงเชื่ออุบายจำเลยได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของผู้ถูกหลอกลวงเองหรือหยิบยืมมาจากใครจะทำเป็นหนังสืออย่างใดหรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ถูกหลอกลวงก่อนส่งทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายได้ คดีฉ้อโกงไม่ได้จำกัดเฉพาะการส่งมอบทรัพย์
ในคดีฉ้อโกง เพียงแต่ถูกหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ แม้ยังมิทันส่งทรัพย์ให้ ก็ถือว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายแล้ว
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่า จะเอาโคมาคืนให้ เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหาย และมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่า จะเอาโคมาคืนให้ เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหาย และมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกง: ผู้ถูกหลอกลวงแม้ยังไม่ส่งทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้
ในคดีฉ้อโกง เพียงแต่ถูกหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ แม้ยังมิทันส่งทรัพย์ให้ ก็ถือว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายแล้ว
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่าจะเอาโคมาคืนให้เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้ เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่าจะเอาโคมาคืนให้เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้ เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง: ต้องมีเจตนาหลอกลวง ผู้ถูกหลอกเชื่อ และส่งทรัพย์ให้
ความสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องปรากฏว่ามีเจตนาทุจจริตกล่าวเท็จหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อ และส่งทรัพย์ให้ฟ้องโจทก์เพียงว่า จำเลยกล่าวเท็จอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เป็นองค์ความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง: ต้องมีเจตนาหลอกลวง ผู้ถูกหลอกเชื่อ และส่งทรัพย์ให้
ความสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องปรากฏว่ามีเจตนาทุจริตกล่าวเท็จหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและส่งทรัพย์ให้ ฟ้องโจทก์ ปรากฏแต่เพียงว่าจำเลยกล่าวเท็จอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เป็นองค์ความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศมนตรีลักทรัพย์ของเทศบาล แม้คืนเงินก็ยังผิดฐานลักทรัพย์ ศาลพิพากษาแก้โทษจากทุจริตเป็นลักทรัพย์
เทศมนตรีไปที่โรงเก็บของของเทศบาลบอกแก่ผู้เก็บรักษาว่าจะเอาไปซ่อม แล้วเอาของนั้นไปโดยเจตนาทุจริตนั้นเป็นผิดฐานลักทรัพย์
เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปขายโดยเจตนาทุจริต แม้จะเอาเงินมาคืนให้เจ้าของบ้าง ก็คงเป็นผิดฐานลักทรัพย์
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเทศมนตรีเอาทรัพย์ของเทศบาลไปขายโดยเจตนาทุจริตอันเป็นผิดตามมาตรา 132 นั้น ถ้ามิได้ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่เกี่ยวกับของนั้นอย่างไรแล้ว จะลงโทษตาม มาตรา132 ไม่ได้
ในการกระทำอันเดียวกัน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์และฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ศาลชั้นต้นยกข้อหาฐานลักทรัพย์แต่ให้ลงโทษฐานทุจริตต่อหน้าที่จำเลยอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฝ่ายเดียวเมื่อศาลสูงเห็นว่าการกระทำนั้นไม่เป็นผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ แต่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ดังนี้ ก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้
เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปขายโดยเจตนาทุจริต แม้จะเอาเงินมาคืนให้เจ้าของบ้าง ก็คงเป็นผิดฐานลักทรัพย์
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเทศมนตรีเอาทรัพย์ของเทศบาลไปขายโดยเจตนาทุจริตอันเป็นผิดตามมาตรา 132 นั้น ถ้ามิได้ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่เกี่ยวกับของนั้นอย่างไรแล้ว จะลงโทษตาม มาตรา132 ไม่ได้
ในการกระทำอันเดียวกัน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์และฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ศาลชั้นต้นยกข้อหาฐานลักทรัพย์แต่ให้ลงโทษฐานทุจริตต่อหน้าที่จำเลยอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฝ่ายเดียวเมื่อศาลสูงเห็นว่าการกระทำนั้นไม่เป็นผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ แต่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ดังนี้ ก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีอาญาแล้ว สิทธิฟ้องร้องในความผิดเดิมย่อมระงับตามกฎหมาย
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ โดยวินิจฉัยว่า การกระทำตามฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ถือว่าเป็นการยกฟ้องตามมาตรา 185 เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว อัยการจะมาฟ้องจำเลยฐานยักยอกในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง หากไม่ได้ถูกหลอกลวงโดยตรง
องค์สำคัญแห่งความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306คือการฉ้อโกงซึ่งตามมาตรา 304 ว่าต้องมีการหลอกลวง ฯลฯผู้ที่ถูกหลอกลวงตามมาตรา 306(4) ก็คือ ผู้ซื้อ ผู้รับทรัพย์ไว้เป็นประกันผู้รับจำนำผู้รับจำหน่าย เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ หาได้ถูกหลอกลวงไม่ ฉะนั้นเจ้าของกรรมสิทธิ์จึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องผู้ฉ้อโกงเป็นคดีอาญา