พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาทวิภาค: เอกสารกู้เงินไม่ใช่สัญญาขายฝาก ไม่เข้าข่ายฉ้อโกง
โจทก์ขายฝากนาไว้แก่จำเลย ภายหลังเอาเงินไปชำระแก่จำเลยขอไถ่นาคืนมา จำเลยรับเงินค่าไถ่ไว้แล้ว เอาหนังสือส่งให้โจทก์โดยกล่าวเท็จว่า เป็นกรมธรรม์สัญญาขายฝาก แต่ความจริงโจทก์ทราบภายหลังว่าหนังสือนั้นไม่ใช่กรมธรรม์สัญญาขายฝาก หากเป็นหนังสือกู้เงินกัน ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการฉ้อโกงและการแจ้งความเท็จ อำนาจฟ้องของผู้ถูกหลอกลวง
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยพนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกันโจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายและฐานความผิด
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลย พนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน โจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือกู้จากการพนันไม่สมบูรณ์ ไม่ถือเป็นหนังสือสำคัญทางกฎหมาย การทำลายจึงไม่ผิด
ทำหนังสือกู้ให้ไว้แทนเงินที่แพ้พะนันแก่เขานั้น ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 855 บัญญัติไว้ว่าหนังสือกู้เช่นนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นหนังสือกู้นี้จึงไม่มีผลเป็นสำคัญแก่การก่อตั้งกรรมสิทธิหรือหนี้สินตามกฎหมายอย่างไรเลย จึงขาดลักษณะการเป็นหนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 6 (20) ฉะนั้นถ้าหลอกลวงให้เขาส่งหนังสือเช่นว่านี้มาให้ตนแล้ว ฉีกทำลายเสีย ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือกู้จากการพนัน: ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นหนังสือสำคัญทางกฎหมายอาญา
ทำหนังสือกู้ให้ไว้แทนเงินที่แพ้พนันแก่เขานั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 855 บัญญัติไว้ว่าหนังสือกู้เช่นนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นหนังสือกู้นี้จึงไม่มีผลเป็นสำคัญแก่การก่อตั้งกรรมสิทธิหรือหนี้สินตามกฎหมายอย่างไรเลย จึงขาดลักษณะการเป็นหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 6(20) ฉะนั้นถ้าหลอกลวงให้เขาส่งหนังสือเช่นว่านี้มาให้ตนแล้ว ฉีกทำลายเสีย ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฉ้อโกง: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงเจตนาและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาทุจริตถ้าในฟ้องไม่บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตและไม่บรรยายด้วยข้อความอันรัดกุมเพียงพอให้ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตแล้ว ฟ้องนั้นก็ไม่เป็นฟ้องอันจะลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 304 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฉ้อโกง ฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่เป็น
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาทุจริต ถ้าในฟ้องไม่บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และไม่บรรยายด้วยข้อความอันรัดกุมเพียงพอให้ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตแล้ว ฟ้องนั้นก็ไม่เป็นฟ้องอันจะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในสัญญาซื้อขายและการกันไม่ให้ทายาทฟ้องแบ่งมรดก
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลยโดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้นแล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้วไม่ได้หักไว้ 2,000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกงและเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงเจตนาทุจริตและข้อเท็จจริงที่สำคัญ
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลย โดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้น แล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้ว ไม่ได้หักไว้ 2000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวง: คดีนอกฟ้องเกินอำนาจศาลหรือไม่ ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาได้หากบทที่ถูกอ้างถึงเป็นบทนอกฟ้อง
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดี ก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้