พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องคืนสิทธิ การครอบครองระหว่างดำเนินคดีไม่ถือเป็นการครอบครองเพื่อตน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องละเมิดบุกรุกที่ดินของโจทก์แปลงอื่น จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย ในการทำแผนที่พิพาทจำเลยได้นำชี้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งคือแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ว่าเป็นที่ดินของจำเลยด้วยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ด้วย ในชั้นอุทธรณ์จำเลยขอทุเลาการบังคับคดีและศาลอุทธรณ์อนุญาต ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาว่าการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเลยไปถึงที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์จึงมาฟ้องใหม่เป็นคดีนี้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทในคดีนี้ในระหว่างคดีก่อนเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปี โจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองในที่พิพาทแล้วหาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยครอบครองที่พิพาทในระหว่างคดีเรื่องก่อนตั้งแต่วันฟ้องคดีจนถึงวันที่ศาลฎีกาพิพากษานั้น เป็นการครอบครองที่อยู่ในระหว่างที่โจทก์กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ทั้งจำเลยได้ขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์อนุญาต จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกคืนที่ดินเนื่องจากระยะเวลาเกินกำหนด
เดิมมารดาโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทและเป็นผู้แจ้งการครอบครองโจทก์จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต่อมาได้เลิกร้างแล้วต่างไปมีภรรยาและสามีใหม่ แต่จำเลยและบุตรทำกินในที่พิพาท เมื่อมารดาโจทก์ตายแล้วจำเลยยังทำกินต่อมาและแจ้งเสียภาษีบำรุงท้องที่อ้างว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย การที่โจทก์แจ้งความหาว่าสามีใหม่จำเลยบุกรุกที่พิพาทและจำเลยอ้างต่อตำรวจว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยแสดงให้เห็นว่าโจทก์ทราบดีว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองที่พิพาทตั้งแต่โจทก์แจ้งความแล้ว โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 1 ปีโจทก์จึงขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงฐานการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยให้การว่า จำเลยกับสามีเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ มาตรา 1375 แต่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก. บุตรโจทก์เบิกความว่า ขณะจำเลยปลูกบ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โจทก์ไปทวงค่าที่ดิน จำเลยไม่ยอมให้และท้าให้โจทก์ไปฟ้อง เห็นชัดว่าจำเลยโต้เถียงสิทธิครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตนตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวร โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี คดีขาดอายุความ ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยต่อสู้คดีว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทมาแต่ต้นจนเกิน 1 ปี แล้ว แต่จำเลยอุทธรณ์เป็นทำนองว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวรในที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์เป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวในศาลชั้นต้น
จำเลยให้การว่า จำเลยกับสามีเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ มาตรา 1375แต่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก. บุตรโจทก์เบิกความว่า ขณะจำเลยปลูกบ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โจทก์ไปทวงค่าที่ดินจำเลยไม่ยอมให้และท้าให้โจทก์ไปฟ้อง เห็นชัดว่าจำเลยโต้เถียงสิทธิครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตนตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวร โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีคดีขาดอายุความดังนี้ ตามคำให้การจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยต่อสู้คดีว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทมาแต่ต้นจนเกิน 1 ปีแล้วแต่จำเลยอุทธรณ์เป็นทำนองว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวรในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากโมฆะ การครอบครองทำกิน และสิทธิครอบครองที่ดิน
โจทก์ขายฝากที่พิพาทไว้กับจำเลย และมอบให้จำเลยครอบครองทำกินในที่พิพาท โดยทำสัญญาขายฝากกันเองมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน สัญญาขายฝากจึงตกเป็นโมฆะกำหนดเวลาไถ่เขียนขึ้นภายหลังโดยโจทก์ไม่รู้เห็น การที่จำเลยเคยบอกให้โจทก์ซื้อคืน แต่โจทก์ก็ไม่ซื้อและโจทก์ไม่เคยมาพูดถึงเรื่องที่พิพาทเลย ก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ แม้จำเลยจะทำกินนานเพียงใด หรือเป็นผู้เสียภาษีสำหรับที่พิพาทก็หาได้สิทธิครอบครองไม่ เพราะถือว่าเป็นการกระทำแทนโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขายและการติดตามเอาทรัพย์สินคืน: กรรมสิทธิ์ยังไม่ระงับแม้ครอบครองนาน
จำเลยได้รับมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ไว้ในความครอบครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจะซื้อขายอันเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้จะครอบครองเป็นเวลาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน เป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่ เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใด โจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน เป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่ เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใด โจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขายและการคืนทรัพย์สิน: กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ขายจนกว่าจะชำระเงินครบถ้วน แม้จำเลยครอบครองเป็นเวลานานก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
จำเลยได้รับมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ไว้ในความครอบครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจะซื้อขายอันเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้จะครอบครองเป็นเวลาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใดโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใดโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงเจตนาในการครอบครองที่ดิน การครอบครองแทนกับสิทธิครอบครอง
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า โจทก์ครอบครองนาพิพาทแทนซ. มาโดยตลอดแต่การที่โจทก์โต้แย้งว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนที่ ซ. จะขายนาพิพาทให้แก่จำเลยและเมื่อ ซ. ขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว โจทก์ได้มาคัดค้านการขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อีก ย่อมถือได้ว่าโจทก์โจทก์เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือนาพิพาทจากเจตนายึดถือแทน ซ. มาเป็นยึดถือเพื่อตน โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองนาพิพาทนั้น
เมื่อ ซ.และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจากซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 กของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง
เมื่อ ซ.และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจากซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 กของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเจตนายึดถือครอบครองที่ดินจากแทนผู้อื่นเป็นของตนเอง และผลกระทบต่อสิทธิในที่ดิน
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า โจทก์ครอบครองนาพิพาทแทน ซ. มาโดยตลอดแต่การที่โจทก์โต้แย้งว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนที่ ซ. จะขายนาพิพาทให้แก่จำเลยและเมื่อ ซ. ขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว โจทก์ได้มาคัดค้านการขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อีก ย่อมถือได้ว่าโจทก์โจทก์เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือนาพิพาทจากเจตนายึดถือแทน ซ. มาเป็นยึดถือเพื่อตน โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองนาพิพาทนั้น
เมื่อ ซ. และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจาก ซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 ก ของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง
เมื่อ ซ. และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจาก ซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 ก ของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ซื้อตามสัญญาจะซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ความตายของผู้ขายไม่เป็นเหตุให้ทายาทปฏิเสธสัญญา
เมื่อผู้จะขายได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่จำเลย และจำเลยได้เข้าครอบครองที่พิพาทตลอดมาตามสัญญาจะซื้อขาย แม้สิทธิครอบครองจะยังไม่โอนมาเป็นของจำเลยเพราะคู่สัญญาประสงค์จะให้มีการโอนทางทะเบียน แต่การที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตามสัญญาโดยความยินยอมของผู้จะขายนั้นหาเป็นการละเมิดหรือผิดสัญญาไม่ ทั้งยังมีสิทธิยึดหน่วงอันมีผลให้ยึดหน่วงที่ดินนั้นไว้จนกว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ด้วย ดังนี้ ความตายของผู้จะขายไม่เป็นเหตุให้ทายาทผู้รับมรดกปฏิเสธ ไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญา (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 253/2497)