พบผลลัพธ์ทั้งหมด 232 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายเครื่องหมายทะเบียนปืน ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 369 ที่คุ้มครองเอกสารประกาศหรือโฆษณาของเจ้าพนักงาน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุด ฉีก หรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใด ๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้นผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 หากไม่ใช่ประกาศหรือเอกสารโฆษณา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุดฉีกหรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใดๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้น ผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนมีทะเบียน: แม้มีอนุญาตก็ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371
การที่ผู้ใดพาปืนไปโดยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 แม้ปืนของกลางจะเป็นปืนมีทะเบียน โดยจำเลยได้รับอนุญาตให้มีไว้ในความครอบครองก็ดี ศาลก็ยังมีอำนาจริบได้ตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนของศาล แม้มีทะเบียนและอนุญาต
การที่ผู้ใดพาปืนไปโดยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 แม้ปืนของกลางจะเป็นปืนมีทะเบียนโดยจำเลยได้รับอนุญาตให้มีไว้ในความครอบครองก็ดี ศาลก็ยังมีอำนาจริบได้ตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากถูกข่มเหงและสบประมาทเป็นเหตุให้ฆ่า: ศาลลดโทษตามมาตรา 72 และรอการลงโทษ
การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในถนนสาธารณก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงฆ่าเขาตายนั้น ต้องมีความผิดตามมาตรา 371 กระทงหนึ่งด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ได้ ไม่ใช่มาตรา 90
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงทางจิตใจและการพรากภรรยา ศาลลดโทษอาญา
การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในถนนสาธารณะก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงฆ่าเขาตายนั้น ต้องมีความผิดตามมาตรา 371 กระทงหนึ่งด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ได้ไม่ใช่มาตรา 90
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกันจำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่า "เป็นหน้าตัวเมียผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้ และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกันจำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่า "เป็นหน้าตัวเมียผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้ และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้