คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 7

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้เจตนา: การฝากเก็บโดยผู้อื่นและการไม่มีเจตนาในการครอบครอง
การที่กระสุนปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของนำมาฝาก ธ.ไว้พร้อมด้วยถุงทะเลที่บรรจุสิ่งของต่าง ๆ และ ธ. ได้นำมาฝากจำเลยไว้อีกทอดหนึ่งเพราะ ธ. จะไปเที่ยวกลัวของจะหาย กระสุนปืนของกลางตั้งอยู่ที่โต๊ะจำเลยมิได้แตะต้องเคลื่อนย้ายเหตุที่ของกลางถูกเจ้าพนักงานพบเห็นเพราะ ธ. เที่ยวงานดึกแล้วไม่ได้มารับคืน พฤติการณ์ดังกล่าวไม่พอ ที่จะถือว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อส.รักษาดินแดนมีอาวุธประจำตัว ปืนของราชการ ไม่ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรงแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อส.มีอาวุธปืนประจำตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรง แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดคนละกรรม
การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เป็นความผิดคนละตอนแยกกันได้จำเลยมีกระสุนปืนจำนวน 51 นัดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้จำหน่ายกระสุนปืนดังกล่าวไปจำนวน 24 นัด ดังนี้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดคนละกรรม
การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เป็นความผิดคนละตอนแยกกันได้ จำเลยมีกระสุนปืนจำนวน 51 นัด ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้จำหน่ายกระสุนปืนดังกล่าวไปจำนวน 25 นัด ดังนี้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดหลายกระทงเกี่ยวกับอาวุธปืนและศุลกากร: การพิจารณาความผิดต่างกรรมหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรม การครอบครองอาวุธปืนและพยายามลักลอบออกนอกราชอาณาจักร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ใช่ต่างกรรมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนใบอนุญาตอาวุธปืนหลังถูกตัดสินลงโทษทางอาญา การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ศาลอาญาพิพากษาลงโทษปรับโจทก์ในความผิดฐานพกอาวุธปืนที่โจทก์มีใบอนุญาตให้มีและใช้ติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรโดยไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัว ยิงปืนในเมืองและในที่ชุมชน แต่สั่งให้คืนปืนของกลางแก่โจทก์ ก่อนคืนปืนของกลางจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นสารวัตรสถานีตำรวจได้ทำบันทึกถึงพฤติการณ์ของโจทก์ในขณะจับกุมและผลของคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวเสนอไปยังจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นนายทะเบียนอาวุธปืนพิจารณาแล้วสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้มี หรือใช้อาวุธปืนของโจทก์ ดังนี้การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำตาม อำนาจและหน้าที่อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ จำเลยทั้งสองไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษหลายกระทงและความสามารถในการรอการลงโทษเมื่อแต่ละกระทงมีโทษไม่เกิน 2 ปี
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฐานมีลูกระเบิดฐานพกพาอาวุธปืน และฐานยิงปืนในหมู่บ้าน แต่ละกระทงนั้นเป็นความผิดอยู่ในตัว ซึ่งโจทก์สามารถแยกฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นคดีละกระทงได้ เมื่อโทษจำคุกที่ศาลลงแก่จำเลยแต่ละกระทงไม่เกินกระทงละ 2 ปี จึงเท่ากับว่าศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเป็นคดีๆ ไปตามกระทงความผิดที่โจทก์รวมฟ้องมาไม่เกินคดีละ 2 ปี ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1594/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาเรื่องการลงโทษคดีอาวุธปืนและการขัดขวางเจ้าพนักงาน ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากจำเลยมีสิทธิฎีกาจำกัดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 2,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือนและปรับ 500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 ปี 8 เดือนและปรับ 3,250 บาทและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ภายในกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุก 3 เดือนฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน ปรับ 250 บาทโดยไม่รอการลงโทษ เป็นความผิด 4 กระทง แต่ละกระทง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6
of 35