พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็มีผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพกพาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผิดประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4 (1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2501 มาตรา 3 บัญญัติว่า "อาวุธปืนหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแกส หรืออัดลม หรือเครื่องกลไกอย่างใดซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฏกระทรวง" มิได้บัญญัติว่าอาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้หรือจะเป็นอาวุธปืนและแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญ และได้ระบุไว้ในกฏกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนพกสั้นออโตเมติก ชนิดประกอบขึ้นเองขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้ปืนดังกล่าวไม่อาจใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 และปืนดังกล่าวเป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อจำเลยพาไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ด้วย (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายฉบับแก้ไข หากดำเนินการขออนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลาง ไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ในระหว่างนั้นได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับให้ผู้มีอาวุธปืนดังกล่าวนำไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนด 90 วันไม่ต้องรับโทษและขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครองนั้นยังอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะนำอาวุธปืนนั้น ไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายได้จึงต้องถือว่าในขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองนั้น กฎหมายยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตภายหลังกฎหมายยกเว้นโทษ ศาลยกฟ้องหากอยู่ในระยะเวลาที่ขออนุญาตได้
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลาง ไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ในระหว่างนั้นได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ ให้ผู้มีอาวุธปืนดังกล่าวนำไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนด 90 วันไม่ต้องรับโทษ และขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครองนั้นยังอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะนำอาวุธปืนนั้นไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ จึงต้องถือว่าในขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองนั้น กฎหมายยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนโดย พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 แม้ไม่ได้ฎีกาในความผิดฐานนั้น
จำเลยถูกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นและฐานมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ ซึ่งตาม มาตรา 3 ได้ยกเว้นโทษให้โอกาสผู้มีอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายนำอาวุธปืนไปขอรับอนุญาตได้ภายในเก้าสิบวันไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงได้รับยกเว้นโทษด้วย ถึงแม้โจทก์จำเลยจะมิได้ฎีกาในความผิดฐานมีอาวุธปืนนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195และกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนเถื่อนได้รับการนิรโทษกรรมตามกฎหมายฉบับแก้ไขใหม่
ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก่อนที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่6) พ.ศ.2518 ประกาศใช้บังคับ ในวันที่ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และวันที่จำเลยฎีกายังอยู่ภายใน 90 วัน ที่ มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัตินั้นให้โอกาสแก่ผู้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว นำไปขออนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงถือว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตาม มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2153/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และการครอบครองวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงประเด็นการลดโทษตามกฎหมาย
จำเลยเป็นพลตำรวจออกปฏิบัติการตามแผนกวาดล้างโจรผู้ร้ายในฤดูแล้ง ระหว่างปฏิบัติการ ผู้บังคับกองพบจำเลยกำลังเมาสุราพกปืนยืนขวางถนนอยู่จึงดึงตัวขึ้นรถเพราะเห็นว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะไปก่อเหตุ วุ่นวายเดือดร้อน ระหว่างทางจำเลยเอาลูกระเบิดที่มีอยู่ถอดสลักนิรภัยโยนเข้าไปใต้ที่นั่งของผู้บังคับกองแล้วจำเลยกระโดดหนี ลูกระเบิดได้ระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ผู้บังคับกองกับพวกบาดเจ็บ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่
จำเลยมีลูกระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และใช้ลูกระเบิดนั้นพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เป็นความผิดสองกระทง และเมื่อจำเลยได้ใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปเสียก่อนวันที่พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ซึ่งยกเว้นโทษแก่ผู้มีวัตถุระเบิดฯ ไว้ในความครอบครองที่นำไปมอบแก่นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีวัตถุระเบิดที่จะส่งมอบแก่นายทะเบียนได้ ย่อมไม่ได้รับยกเว้นโทษ
อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรง จำเลยรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ควรจะได้รับโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ลดโทษเลยนั้น พอเข้าใจได้ว่าโจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกหนักขึ้น
จำเลยมีลูกระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และใช้ลูกระเบิดนั้นพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เป็นความผิดสองกระทง และเมื่อจำเลยได้ใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปเสียก่อนวันที่พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ซึ่งยกเว้นโทษแก่ผู้มีวัตถุระเบิดฯ ไว้ในความครอบครองที่นำไปมอบแก่นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีวัตถุระเบิดที่จะส่งมอบแก่นายทะเบียนได้ ย่อมไม่ได้รับยกเว้นโทษ
อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรง จำเลยรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ควรจะได้รับโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ลดโทษเลยนั้น พอเข้าใจได้ว่าโจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกหนักขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'กระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' ตามกฎกระทรวงฯ กรณีปืนและกระสุนคนละแบบ
บรรยายฟ้องความว่า มีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง คือกระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. เมื่อกฎกระทรวง ฉบับที่ 7(พ.ศ.2501) ฯลฯ ได้กำหนดเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในข้อ(16) คือ "เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืน ชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาต" กฎกระทรวงดังกล่าวข้อ (3) ค.กำหนดว่า "ปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. และ 7.62 ม.ม."กระสุนปืนของกลางเป็นแบบ 87 ปืนในกฎกระทรวงข้อ (3) ค.เป็นแบบ 83ต่างแบบกัน. จะฟังว่ากระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87ขนาด7.62 ม.ม. ในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. ย่อมไม่ได้กระสุนปืนของกลางจึงไม่ใช่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นการเข้าใจผิดลงโทษจำเลย ฐานมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความกฎกระทรวงกำหนดกระสุนปืนใช้เฉพาะสงคราม: ความแตกต่างของแบบปืนและกระสุน
บรรยายฟ้องความว่า มีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง คือกระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. เมื่อกฎกระทรวง ฉบับที่ 7(พ.ศ.2501) ฯลฯ ได้กำหนดเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในข้อ(16) คือ "เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืน ชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาต" กฎกระทรวงดังกล่าวข้อ (3) ค. กำหนดว่า "ปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. และ 7.62 ม.ม." กระสุนปืนของกลางเป็นแบบ 87 ปืนในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. เป็นแบบ 83ต่างแบบกัน. จะฟังว่ากระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด7.62 ม.ม. ในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. ย่อมไม่ได้กระสุนปืนของกลางจึงไม่ใช่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นการเข้าใจผิด ลงโทษจำเลยฐานมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2279/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบอนุญาตอาวุธปืนครอบคลุมถึงเครื่องกระสุนปืน การมีกระสุนปืนไม่ผิดหากมีใบอนุญาตปืน
จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม.ไว้แล้ว จำเลยย่อมมีกระสุนปืนขนาด 11 มม. เพื่อใช้กับอาวุธปืนดังกล่าวได้โดยชอบ (แม้จะมีอยู่ถึง 1,000 นัด) เพราะการที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้น เป็นการอนุญาตให้มีและใช้กระสุนปืนไปด้วยในตัว
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 875/2494 และ 615/2515)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 875/2494 และ 615/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราวและการพกพาในที่สาธารณะ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ช. ถือดาบวิ่งเข้ามาจะทำร้ายจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ได้ยืมปืนจากม.ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มาดึงลำกล้องปืนขึ้นลำถือเตรียมไว้ เมื่อมีคนพาตัว ช. กลับไปแล้ว จำเลยที่ 2 ก็คืนปืนนั้นให้ ม.ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามความหมายในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490