คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2477 ม. 4

โจทก์จำเลยเป็นคนนับถือศาสนาอิสลาม ได้ฟ้องขอแบ่งมรดกตามกฎหมายอิสลาม เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าได้มีการแบ่งมรดกกัน และโจทก์ได้รับส่วนแบ่งไปเสร็จแล้วคดีไม่จำต้องวินิจฉัยว่า การแบ่งมรดกนั้นชอบด้วยกฎหมายอิสลามหรือไม่

คดีมรดกอันจะต้องบังคับตามกฎหมายอิสลามในเขต 4 จังหวัดนั้นจะต้องมีดะโต๊ะยุติธรรม 1 นายนั่งพิจารณาพร้อมด้วยผู้พิพากษา โดยผู้พิพากษาวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ความอย่างไรแล้ว ให้ดะโต๊ะยุติธรรมวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามและลงลายมือชื่อในคำพิพากษาด้วย

สมรสกันก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ 5 การแบ่งสินสมรสต้องแบ่งตามกฎหมายลักษณะผัวเมียเดิม

สมรสกันก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5
การแบ่งสินสมรสต้องแบ่งตามกฎหมายลักษณะผัวเมียเดิม

สามีบวช 19 พรรษา ถือว่ามีเจตนาสละภรรยาและบุตรจึงขาดสิทธิในทรัพย์สิน ภรรยาจึงมีสิทธิแบ่งทรัพย์ให้บุตรได้ตามลำพัง

สามีบวช 19 พรรษา ถือว่ามีเจตนาสละภรรยาและบุตร จึงขาดสิทธิในทรัพย์สิน ภรรยาจึงมีสิทธิแบ่งทรัพย์ให้บุตรตามลำพัง.

บุตร์บุญธรรมก่อนใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ซึ่งผู้รับบุตร์บุญธรรมมิได้จดทะเบียนตาม ม.1585 ไม่มีสิทธิได้รับมฤดกของผู้รับบุตร์บุญธรรม อ้างฎีกาที่ 1148/2481

บุตร์บุญธรรมก่อนใช้ประมวลแพ่ง ฯ บรรพ 5 ซึ่งผู้รับบุตร์บุญธรรมมิได้จดทะเบียนเป็นบุตร์บุญธรรมตามมาตรา 1585 แห่งประมวลแพ่ง ฯ ไม่มีสิทธิได้รับมฤดกของผู้รับบุตร์บุญธรรมซึ่งถึงแก่ความตายภายหลังที่ใช้บรรพ 5 แล้ว

ภรรยาได้รับมอบหมายโดยพินัยกรรมให้เป็นผู้รักษาทรัพย์ไว้แทนผู้เยาว์ โดยสามีได้ร่วมรู้เห็นด้วยต้องถือว่าสามีอนุญาตให้ภรรยาทำการอันเป็นการผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีภรรยาจะต้องร่วมกันรับผิดใช้หนี้จากสินบริคณห์
การที่ภรรยาได้รับมอบหมายโดยพินัยกรรมให้จัดการทรัพย์สินโดยสามีได้รู้เห็นยินยอมด้วยนี้ ไม่ใช่หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกันหรือหนี้สามีภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งให้สัตยาบันตามประมวลแพ่งฯ ม.1482 (3)(4)

เหตุอย่าที่เกิดมีขึ้นก่อนวันใช้ประมวลแพ่ง ฯบรรพ 5 นั้นต้องตกอยู่ในบังคับแห่งกฎหมายลักษณผัวเมียบทที่ 55 แม้ถึงว่าจะได้ฟ้องร้องคดีกันภายหลังเมื่อใช้บรรพ 5 แล้วก็ตาม อายุความ