พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา: การกำหนดโทษและบทบาทของผู้กระทำ
ฟ้องว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามที่พิจารณาได้ความนั้นได้
จำเลยที่ 2 เอาไม้ตีนายหล่า และจำเลยที่ 2 กับที่ 3 เข้าจับแขนนายหล่าไว้คนละข้างแล้วจำเลยที่1เอามีดเข้าแทงนายหล่า นายหล่าอยู่ได้ 2 คืนก็ตายเพราะแผลนั้น เหตุเกิดจากการทะเลาะกัน เช่นนี้ถือว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 สมคบกับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แต่กำหนดโทษควรให้ลดหลั่นกัน
จำเลยที่ 2 เอาไม้ตีนายหล่า และจำเลยที่ 2 กับที่ 3 เข้าจับแขนนายหล่าไว้คนละข้างแล้วจำเลยที่1เอามีดเข้าแทงนายหล่า นายหล่าอยู่ได้ 2 คืนก็ตายเพราะแผลนั้น เหตุเกิดจากการทะเลาะกัน เช่นนี้ถือว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 สมคบกับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แต่กำหนดโทษควรให้ลดหลั่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะ แม้มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ หากพิจารณาได้จากพฤติการณ์
การที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลยก่อน จำเลยจึงวิ่งไปเอาหอกในเรือนห่างเพียง 1 วาเข้าทำร้ายผู้ตาย ในทันใดนั้น ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงบันดาลโทสะขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษฐานบันดาลโทสะ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้
การที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลยก่อน จำเลยจึงวิ่งไปเอาหอกในเรือนห่างเพียง 1 วาเข้าทำร้ายผู้ตาย ในทันใดนั้น ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงบันดาลโทษะขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาประกันเมื่อจำเลยหลบหนีหลังฟังคำพิพากษา ศาลถือว่าสัญญาประกันสิ้นสุดโดยปริยาย
นายประกันตัวจำเลยซึ่งส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาตามนัด
จำเลยมาฟังคำพิพากษาจบ และเซ็นนามในหน้าสำนวนแล้วหลบหนีไปในระหว่างที่ผู้พิพากษายังอยู่บนบัลลังก์ ดังนี้ถือว่าสัญญาประกันเดิมสิ้นสุดนายประกันพ้นความรับผิด
จำเลยมาฟังคำพิพากษาจบ และเซ็นนามในหน้าสำนวนแล้วหลบหนีไปในระหว่างที่ผู้พิพากษายังอยู่บนบัลลังก์ ดังนี้ถือว่าสัญญาประกันเดิมสิ้นสุดนายประกันพ้นความรับผิด