พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีอาญา: ใช้กฎหมายที่ใช้ ณ เวลาทำผิด และมาตรา 80 อยู่ในบังคับมาตรา 78
ถ้าอายุความฟ้องคดีอาญาขณะกระทำผิดแตกต่างกับขณะฟ้องต้องใช้อายุความที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดบังคับ
ความผิดอันยอมความได้ ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้นจะขาดอายุความ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แต่ก็ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 เพราะอายุความร้องทุกข์ต้องอยู่ในบังคับอายุความฟ้องคดี
ความผิดอันยอมความได้ ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้นจะขาดอายุความ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แต่ก็ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 เพราะอายุความร้องทุกข์ต้องอยู่ในบังคับอายุความฟ้องคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีอาญา: ใช้กฎหมายที่ใช้ขณะกระทำผิด และอายุความร้องทุกข์ต้องอยู่ในบังคับอายุความฟ้อง
ถ้าอายุความฟ้องคดีอาญาขณะกระทำผิดแตกต่างกับขณะฟ้อง ต้องใช้อายุความที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดบังคับ
ความผิดอันยอมความได้ ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้น ขาดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แต่ก็ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฏหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 เพราะอายุความร้องทุกข์ต้องอยู่ในบังคับอายุความฟ้องคดี
ความผิดอันยอมความได้ ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้น ขาดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แต่ก็ต้องฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฏหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 เพราะอายุความร้องทุกข์ต้องอยู่ในบังคับอายุความฟ้องคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้น และการร้องทุกข์ในคดีอาญาเกี่ยวกับเรือ
ข้อกฎหมายที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับแต่รู้เรื่องความผิดและตัวผู้กระทำผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าที่ดินเป็นของจำเลยจะจำนองโจทก์โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไป ครั้นต่อมาปรากฏว่าที่ดินมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของ จำเลยได้หลอกลวงว่าจะขออนุญาตศาลจำนอง ในคำร้องจำเลยอ้างว่าจะเอาเงินไปซื้อที่ดินใหม่และใช้จ่ายการศึกษาของบุตร แต่จำเลยรับกับเจ้าพนักงานศาลว่าเอาไปใช้หนี้ส่วนตัว ศาลจึงยกคำร้อง โจทก์จึงทราบชัดว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตฉ้อโกงโจทก์ เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ว่าที่ดินมีชื่อบุตรในโฉนด นับจากวันนั้นพ้นสามเดือนโจทก์จึงไปร้องทุกข์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและตัวผู้กระทำผิด แม้มีการผัดผ่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าที่ดินเป็นของจำเลยจะจำนองโจทก์โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไป ครั้นต่อมาปรากฏว่าที่ดินมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของ จำเลยได้หลอกลวงว่าจะขออนุญาตศาลจำนอง ในคำร้องจำเลยอ้างว่าจะเอาเงินไปซื้อที่ดินใหม่และใช้จ่ายการศึกษาของบุตร แต่จำเลยรับกับเจ้าพนักงานศาลว่าเอาไปใช้หนี้ส่วนตัว ศาลจึงยกคำร้อง โจทก์จึงทราบชัดว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตฉ้อโกงโจทก์ เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ว่าที่ดินมีชื่อบุตรในโฉนด นับจากวันนั้นพ้นสามเดือนโจทก์จึงไปร้องทุกข์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีฉ้อโกง แม้ขาดรายละเอียดวันเดือนปีที่ทราบถึงความผิด
ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น แม้ในฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดวันเดือนปีใด ก็ตาม เมื่อฟ้องข้ออื่นสมบูรณ์แล้วก็หาทำให้ฟ้องโจทก์ถึงกับเคลือบคลุมไม่ เพราะข้อที่โจทก์มิได้บรรยายนั้น เป็นเพียงแต่ข้อนำสืบต่อไปว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อใดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกง: ความสมบูรณ์ของฟ้อง แม้ขาดรายละเอียดวันเวลาที่ทราบการกระทำผิด
ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น แม้ในฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่าได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิด วันเดือนปีใด ก็ตาม เมื่อฟ้องข้ออื่นสมบูรณ์แล้ว ก็หาทำให้ฟ้องโจทก์ถึงกับเคลือบคลุมไม่ เพราะข้อที่โจทก์มิได้บรรยายนั้น เป็นเพียงแต่ข้อนำสืบต่อไปว่า ได้ทราบว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อใดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีทำลายทรัพย์สิน: การหยุดชะงักของอายุความและความรับผิดของผู้จ้างวาน
คดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์หาว่าบุกรุก แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยหาว่า กระทำให้เสียทรัพย์ โดยว่าจำเลยสับฟันถอนต้นผลอาสินของโจทก์ในที่แปลงเดียวกันนั้น ดังนี้ถือไม่ได้ว่าเวลาในระหว่างคดีก่อนนั้นเป็นเวลาหยุดอายุความตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 79 ยังต้องนับอายุความตามมาตรา 80 อยู่ ถ้าโจทก์ฟ้องเกิน 3 เดือน คดีก็ขาดอายุความ
ความผิดตามมาตรา 150 นั้นเป็นเรื่องทำลายทรัพย์ในการพิจารณาคดีใดๆ ของศาล และมีผู้แสดงทรัพย์นั้นให้ปรากฏแล้ว ถ้าเป็นการทำลายทรัพย์เสียก่อนไปฟ้องศาลแล้วคดีก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 150
ความผิดตามมาตรา 175,176 เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำ ถ้าผู้รับใช้กระทำความผิดไว้แล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ผิดตามมาตรา 175,176 แต่ผิดฐานสมคบในความผิดที่ทำขึ้น
ความผิดตามมาตรา 150 นั้นเป็นเรื่องทำลายทรัพย์ในการพิจารณาคดีใดๆ ของศาล และมีผู้แสดงทรัพย์นั้นให้ปรากฏแล้ว ถ้าเป็นการทำลายทรัพย์เสียก่อนไปฟ้องศาลแล้วคดีก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 150
ความผิดตามมาตรา 175,176 เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำ ถ้าผู้รับใช้กระทำความผิดไว้แล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ผิดตามมาตรา 175,176 แต่ผิดฐานสมคบในความผิดที่ทำขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีทำลายทรัพย์สินและการกระทำความผิดของผู้รับใช้
คดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์หาว่าบุกรุกแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยหาว่ากระทำให้เสียทรัพย์โดยว่าจำเลยสับฟันถอนต้นผลเอาสินของโจทก์ในที่แปลงเดียวกันนั้น ดังนี้ถือไม่ได้ว่าเวลาในระหว่างคดีก่อนนั้นเป็นเวลาหยุดอายุความตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 79 ยังต้องนับอายุความตามมาตรา 80 อยู่ ถ้าโจทก์ฟ้องเกิน 3 เดือนคดีก็ขาดอายุความ
ความผิดตามมาตรา 150 นั้นเป็นเรื่องทำลายทรัพย์ในการพิจารณาคดีใด ๆ ของศาล และมีผู้แสดงทรัพย์นั้นให้ปรากฎแล้วถ้าเป็นการทำลายทรัพย์เสียก่อนไปฟ้องศาลแล้ว คดีก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 150
ความผิดตามมาตรา 175, 176 เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำถ้าผู้รับใช้กระทำความผิดไว้แล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ผิดตามมาตรา 175, 176 แต่ผิดฐาน+ในความผิดที่ทำขึ้น
ความผิดตามมาตรา 150 นั้นเป็นเรื่องทำลายทรัพย์ในการพิจารณาคดีใด ๆ ของศาล และมีผู้แสดงทรัพย์นั้นให้ปรากฎแล้วถ้าเป็นการทำลายทรัพย์เสียก่อนไปฟ้องศาลแล้ว คดีก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 150
ความผิดตามมาตรา 175, 176 เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำถ้าผู้รับใช้กระทำความผิดไว้แล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ผิดตามมาตรา 175, 176 แต่ผิดฐาน+ในความผิดที่ทำขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในคดีอาญา: ยักยอกทรัพย์ - การนับระยะเวลาตั้งแต่กระทำความผิดจนถึงการร้องทุกข์
ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยยักยอกเมื่อเดือนมกราคม 2490 ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2490 เป็นเวลาล่วงเลย 3 เดือน คดีย่อมขาดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แล้ว