พบผลลัพธ์ทั้งหมด 415 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3695/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมรดกสิทธิเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำที่ดิน
บิดาโจทก์เช่าที่ดินวัดมาปลูกบ้าน แม้ต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอันมีผลให้สัญญาเช่าที่ดินระงับลงก็ตาม แต่โจทก์เป็นทายาทผู้รับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงต้องรับโอนมาซึ่งสิทธิหน้าที่ และความรับผิดต่างๆ ที่บิดาโจทก์มีต่อวัดผู้ให้เช่า เมื่อโจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจากวัดแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินที่เช่าทั้งแปลงติดต่อมาตั้งแต่บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ต่อเติมอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์เช่าได้โดยวัดผู้ให้เช่าไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้โจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทผู้จัดการมรดกมีหน้าที่คืนที่ดินให้เจ้าของเดิม แม้มิได้ฟ้องภายใน 1 ปีหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต
จำเลยเป็นบุตรและเป็นผู้จัดการดูแลเก็บผลประโยชน์จากอาคารตลาดซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้ามรดก จึงอยู่ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกและเป็นผู้ได้เข้าไปจัดการมรดกด้วย จำเลยต้องรับทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดในกองมรดกของเจ้ามรดกนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทที่ให้เจ้ามรดกอาศัยปลูกสร้างอาคารตลาดประสงค์จะเอาที่พิพาทของตนคืน ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการคืนที่ดินให้เจ้าของเดิม
จำเลยเป็นบุตรและเป็นผู้จัดการดูแลเก็บผลประโยชน์จากอาคารตลาดซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้ามรดก จึงอยู่ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกและเป็นผู้ได้เข้าไปจัดการมรดกด้วย จำเลยต้องรับทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดในกองมรดกของเจ้ามรดกนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทที่ให้เจ้ามรดกอาศัยปลูกสร้างอาคารตลาดประสงค์จะเอาที่พิพาทของตนคืน ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3252/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งภาษีหลังผู้เสียภาษีเสียชีวิต: อำนาจฟ้องของกรมสรรพากรและการดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้ต้องเสียภาษีอากรตาย มรดกของผู้ตายอันประกอบด้วยทรัพย์สินตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ก็ตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600 ทายาทย่อมเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย
ประมวลรัษฎากร มาตรา 19 และมาตรา 20 ซึ่งว่าด้วยการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมมิได้บัญญัติไว้ว่าในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรถึงแก่ความตายเสียก่อน ให้เจ้าพนักงานประเมินปฏิบัติอย่างไร แต่ถึงอย่างไรเจ้าพนักงานประเมินก็จะแจ้งไปยังผู้ต้องเสียภาษีอากรซึ่งถึงแก่ความตายแล้วหาได้ไม่ เพราะผู้ตายสิ้นสภาพบุคคลแล้วไม่อาจรับทราบการแจ้งได้ การแจ้งจึงไม่มีผล แม้ต่อมาหัวหน้าเขตจะมีหนังสือเร่งรัดภาษีไปยังจำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่ง หัวหน้าเขตก็มิใช่เจ้าพนักงานประเมิน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมเมื่อเจ้าพนักงานประเมินยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรโดยครบถ้วน กรมสรรพากรโจทก์ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
ประมวลรัษฎากร มาตรา 19 และมาตรา 20 ซึ่งว่าด้วยการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมมิได้บัญญัติไว้ว่าในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรถึงแก่ความตายเสียก่อน ให้เจ้าพนักงานประเมินปฏิบัติอย่างไร แต่ถึงอย่างไรเจ้าพนักงานประเมินก็จะแจ้งไปยังผู้ต้องเสียภาษีอากรซึ่งถึงแก่ความตายแล้วหาได้ไม่ เพราะผู้ตายสิ้นสภาพบุคคลแล้วไม่อาจรับทราบการแจ้งได้ การแจ้งจึงไม่มีผล แม้ต่อมาหัวหน้าเขตจะมีหนังสือเร่งรัดภาษีไปยังจำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่ง หัวหน้าเขตก็มิใช่เจ้าพนักงานประเมิน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมเมื่อเจ้าพนักงานประเมินยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรโดยครบถ้วน กรมสรรพากรโจทก์ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3252/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งภาษีหลังผู้เสียภาษีเสียชีวิต เจ้าพนักงานต้องแจ้งทายาท และการฟ้องขาดอายุความ
ผู้ต้องเสียภาษีอากรตาย มรดกของผู้ตายอันประกอบด้วยทรัพย์สินตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ก็ตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600 ทายาทย่อมเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย
ประมวลรัษฎากร มาตรา 19 และมาตรา 20 ซึ่งว่าด้วยการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมมิได้บัญญัติไว้ว่าในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรถึงแก่ความตายเสียก่อน ให้เจ้าพนักงานประเมินปฏิบัติอย่างไร แต่ถึงอย่างไรเจ้าพนักงานประเมินก็จะแจ้งไปยังผู้ต้องเสียภาษีอากรซึ่งถึงแก่ความตายแล้วหาได้ไม่ เพราะผู้ตายสิ้นสภาพบุคคลแล้วไม่อาจรับทราบการแจ้งได้ การแจ้งจึงไม่มีผล แม้ต่อมาหัวหน้าเขตจะมีหนังสือเร่งรัดภาษีไปยังจำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่ง หัวหน้าเขตก็มิใช่เจ้าพนักงานประเมิน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมเมื่อเจ้าพนักงานประเมินยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรโดยครบถ้วน กรมสรรพากรโจทก์ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
ประมวลรัษฎากร มาตรา 19 และมาตรา 20 ซึ่งว่าด้วยการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมมิได้บัญญัติไว้ว่าในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรถึงแก่ความตายเสียก่อน ให้เจ้าพนักงานประเมินปฏิบัติอย่างไร แต่ถึงอย่างไรเจ้าพนักงานประเมินก็จะแจ้งไปยังผู้ต้องเสียภาษีอากรซึ่งถึงแก่ความตายแล้วหาได้ไม่ เพราะผู้ตายสิ้นสภาพบุคคลแล้วไม่อาจรับทราบการแจ้งได้ การแจ้งจึงไม่มีผล แม้ต่อมาหัวหน้าเขตจะมีหนังสือเร่งรัดภาษีไปยังจำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่ง หัวหน้าเขตก็มิใช่เจ้าพนักงานประเมิน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งจำนวนภาษีอากรที่ประเมินเพิ่มเติมเมื่อเจ้าพนักงานประเมินยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรโดยครบถ้วน กรมสรรพากรโจทก์ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเฉพาะตัว: สัญญาเช่าธรรมดาจะระงับเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต ไม่ตกทอดไปยังทายาท
สัญญาเช่าธรรมดาที่มิใช่เป็นสัญญาต่างตอบแทน (ชนิดพิเศษ)เป็นสัญญาเฉพาะตัวสำหรับผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตายสัญญาเช่าย่อมระงับไปไม่ตกทอดไปยังทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยยังมิได้จดทะเบียน: สิทธิในมรดก
การที่เจ้าของที่ดินได้มายื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อทางอำเภอยกที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ดินประสงค์จะยกที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยการทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาใช่เป็นกรณีเจตนาสละการครอบครองไม่ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 และประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 มาตรา 4ทวิ เมื่อการให้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เนื่องจากเจ้าของที่ดินถึงแก่กรรมเสียก่อนนิติกรรมการให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายที่ดินดังกล่าวจึงยังเป็นมรดกของเจ้าของที่ดินอยู่ โจทก์จึงมีสิทธิขอแบ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้ทรงเช็คเมื่อผู้สั่งจ่ายเสียชีวิต และการโต้แย้งหนี้โดยผู้จัดการมรดก
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 992 ได้บัญญัติถึงหน้าที่และอำนาจของธนาคารซึ่งจะใช้เงินตามเช็คอันเบิกแก่ตนนั้นว่าเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อรู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย เมื่อ ส. ผู้สั่งจ่ายตายโจทก์ในฐานะผู้ทรงซึ่งทราบอำนาจหน้าที่ของธนาคารตามข้อกฎหมายดังกล่าว จึงไม่จำต้องนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเสียก่อนกรณีไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 990เมื่อ ส. ตายบรรดาทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ย่อมตกได้แก่ทายาทตามมาตรา1599,1600 จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. ได้รับการบอกกล่าวให้ชำระหนี้เงินตามเช็คที่ ส. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์แล้วเพิกเฉยถือได้ว่าสิทธิของโจทก์ในมูลหนี้เงินดังกล่าวได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2532/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีต่อทายาทหลังจำเลยเสียชีวิต และสิทธิในการบังคับคดีภายในกำหนดเวลา
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรับเงินและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้แก่โจทก์ จำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างการบังคับคดี หน้าที่และความรับผิดย่อมตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 14999, 1600 ไม่ใช่เป็นเรื่องคดีค้างพิจารณาอันจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42, 44 ดังนั้น ศาลชั้นต้นจึงอาจออกคำบังคับแก่ผู้จัดการมรดกของจำเลยได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียกหรือมีคำสั่งให้ผู้จัดการมรดกของจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยเสียก่อนแต่อย่างใด
การที่โจทก์ขอให้บังคับคดีหลังจากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว 7 ปีเศษ เป็นการขอให้บังคับคดีภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยขอปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ก่อนโจทก์แถลงขอให้ออกคำบังคับ โจทก์ย่อมมีสิทธิกระทำได้โดยไม่ต้องให้ผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยแก่จำเลยเพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้น
การที่โจทก์ขอให้บังคับคดีหลังจากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว 7 ปีเศษ เป็นการขอให้บังคับคดีภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยขอปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ก่อนโจทก์แถลงขอให้ออกคำบังคับ โจทก์ย่อมมีสิทธิกระทำได้โดยไม่ต้องให้ผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยแก่จำเลยเพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2532/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหลังจำเลยเสียชีวิต ทายาทรับผิดชอบหนี้ตามคำพิพากษา และสิทธิโจทก์ในการบังคับคดีภายในกำหนด
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรับเงินและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมด้วย ตึกแถวให้แก่โจทก์ จำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างการบังคับคดี หน้าที่และ ความรับผิดย่อมตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599,1600ไม่ใช่เป็นเรื่องคดีค้างพิจารณาอันจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42,44 ดังนั้นศาลชั้นต้น จึงอาจออกคำบังคับแก่ผู้จัดการมรดกของจำเลยได้โดยไม่ต้อง ออกหมายเรียกหรือมีคำสั่งให้ผู้จัดการมรดกของจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยเสียก่อนแต่อย่างใด
การที่โจทก์ขอให้บังคับคดีหลังจากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว 7 ปีเศษ เป็นการขอให้บังคับคดีภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยขอปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ก่อนโจทก์แถลงขอให้ออกคำบังคับ โจทก์ย่อมมีสิทธิกระทำได้โดยไม่ต้องให้ผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยแก่จำเลยเพราะคำพิพากษามิได้ กล่าวไว้เช่นนั้น
การที่โจทก์ขอให้บังคับคดีหลังจากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว 7 ปีเศษ เป็นการขอให้บังคับคดีภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยขอปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ก่อนโจทก์แถลงขอให้ออกคำบังคับ โจทก์ย่อมมีสิทธิกระทำได้โดยไม่ต้องให้ผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยแก่จำเลยเพราะคำพิพากษามิได้ กล่าวไว้เช่นนั้น