คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1600

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 415 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.ค.) เป็นทรัพย์สินในกองมรดก ผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใดก็ได้ แม้จะระบุไว้ในสมุดประวัติก่อนหน้า
เมื่อปรากฎว่าเงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.+.) ของผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟ เป็นเงินที่เก็บจากผู้ปฎิบัติงานร้อยละ 5 ของเงินเดือนทุกเดือน และการรถไฟจ่ายสมทบอีกมีจำนวนร้อยละ 10 ถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องออกจากงาน นอกจากถูกไล่ออกก็ให้จ่ายให้แก่ผู้ปฏิบัติงานรวมทั้งดอกเบี้ยและกองทุนจ่ายเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ากันนั้น เห็นได้ว่าเงินทุนสงเคราะห์นี้เป็นเงินที่ผู้ปฎิบัติงานมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หากผู้นั้นตายลงก็ย่อมตกเป็นมรดก
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินทุนสงเคราะห์ ท.ส.ค. เป็นทรัพย์มรดก ผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ผู้อื่นได้ แม้ระบุผู้รับไว้ก่อน
เมื่อปรากฏว่าเงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.ค.) ของผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟ เป็นเงินที่เก็บจากผู้ปฏิบัติงานร้อยละ 5 ของเงินเดือนทุกเดือน และการรถไฟจ่ายสมทบอีกมีจำนวนร้อยละ 10 ถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องออกจากงานรวมทั้งดอกเบี้ยและกองทุนจ่ายเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ากันนั้น เห็นได้ว่าเงินทุนสงเคราะห์นี้เป็นเงินที่ผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หากผู้นั้นตายลงก็ย่อมตกเป็นมรดก
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค.) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินก่อนสมรส & ค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยา: ไม่ถือเป็นสิทธิในกองมรดก
จำเลยเป็นภรรยาของเจ้ามรดกโดยมิได้จดทะเบียนสมรสเจ้ามรดกมีที่ไร่มาก่อนได้จำเลยเป็นภรรยา การที่จำเลยช่วยเจ้ามรดกทำไร่และต่อมาดัดแปลงเป็นนา จะถือว่าเจ้ามรดกให้จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วยไม่ได้นานี้ยังต้องถือว่าเป็นทรัพย์เดิมของเจ้ามรดก เมื่อเจ้ามรดกตายแล้วจำเลยไม่มีส่วนได้ด้วย
จำเลยอยู่กินกับเจ้ามรดกฉันสามีภรรยา หากจำเลยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเจ้ามรดกเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายนั้นย่อมไม่ใช่หนี้ที่เจ้ามรดกหรือกองมรดกจะต้องชดใช้ให้
เมื่อจำเลยไม่ใช่ภรรยายโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่จัดการทำศพของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1649 ถ้าจำเลยออกเงินของจำเลยทำศพเจ้ามรดกไป ก็จะขอให้หักทรัพย์มรดกชดใช้ให้ในคดีที่ทายาทฟ้องเรียกทรัพย์มรดกจากจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินเดิมของสามีเมื่ออยู่กินฉันสามีภรรยา และสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและทำศพ
จำเลยเป็นภรรยาของเจ้ามรดกโดยมิได้จดทะเบียนสมรส เจ้ามรดกมีที่ไร่มาก่อนได้จำเลยเป็นภรรยา การที่จำเลยช่วยเจ้ามรดกทำไร่และต่อมาดัดแปลงเป็นนา จะถือว่าเจ้ามรดกให้จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วยไม่ได้ นานี้ยังต้องถือว่าเป็นทรัพย์เดิมของเจ้ามรดก เมื่อเจ้ามรดกตายแล้วจำเลยไม่มีส่วนได้ด้วย
จำเลยอยู่กินกับเจ้ามรดกฉันสามีภรรยา หากจำเลยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเจ้ามรดกเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายนั้นย่อมไม่ใช่หนี้ที่เจ้ามรดกหรือกองมรดกจะต้องชดใช้ให้
เมื่อจำเลยไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผู้มีอำนาจและหน้าที่จัดการทำศพของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1649 ถ้าจำเลยออกเงินของจำเลยทำศพเจ้ามรดกไป ก็จะขอให้หักทรัพย์มรดกชดใช้ให้ในคดีที่ทายาทฟ้องเรียกทรัพย์มรดกจากจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: บันทึกถอนคำคัดค้านมรดกมีผลผูกพันตามกฎหมาย
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่ดินของพี่ชาย ณ หอทะเบียนโจทก์ซึ่งเป็นน้องต่างบิดาคัดค้านภายหลังโจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยยอมแบ่งที่บ้านให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่นาโจทก์ไม่เกี่ยวข้องดังนี้ การที่โจทก์ลงชื่อขอถอนคำคัดค้านโดยเจ้าพนักงานที่ดิน บันทึกไว้ว่าโจทก์ไม่ติดใจเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้จำเลยรับมรดกไปได้ผู้เดียวนั้นบันทึกดังกล่าว แม้โจทก์จะทำกับเจ้าพนักงานผู้ไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบก็ตามก็ย่อมถือว่าเป็นหลักฐานของสัญญาประนีประนอมยอมความอันมีผลบังคับได้อย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: บันทึกถอนคำคัดค้านมรดกมีผลผูกพัน
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่ดินของพี่ชาย ณ หอทะเบียน โจทก์ซึ่งเป็นน้องต่างบิดาคัดค้านภายหลังโจทก์จำเลยตกลงกัน โดยจำเลยยอมแบ่งที่บ้านให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่นาโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การที่โจทก์ลงชื่อขอถอนคำคัดค้านโดยเจ้าพนักงานที่ดินบันทึกไว้ว่าโจทก์ไม่ติดใจเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้จำเลยรับมรดกไปได้ผู้เดียวนั้น บันทึกดังกล่าว แม้โจทก์จะทำกับเจ้าพนักงานผู้ไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบก็ตาม ก็ย่อมถือว่าเป็นหลักฐานของสัญญาประนีประนอมยอมความอันมีผลบังคับได้อย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่และการโอนประทานบัตรตามกฎหมายเหมืองแร่ สัญญาผูกพันระหว่างเจ้าของที่ดินและผู้รับประทานบัตร
บ.ผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินของบ. ได้โอนตกมาเป็นของบริษัทโจทก์ รวมทั้งประทานบัตรรายนี้ด้วย การที่คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทโจทก์ถือประทานบัตรสืบเนื่องจาก บ. ก็เพราะ พ.ร.บ. การทำเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 46 บัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะอนุญาตในกรณีเข้าถือประทานบัตรสืบเนื่องจากเจ้าของเดิมผู้ถึงแก่กรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ยื่นเรื่องราวขอประทานบัตรขึ้นมาใหม่เป็นคนละรายต่างหาก บ.โจทก์จึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ผ. ทำสัญญาให้ไว้แก่ บ. ยอมให้ บ. ทำเหมืองแร่ในที่ดินของ ผ. ได้ตามเรื่องราวที่ขอประทานบัตร ต่อมา บ. ถึงแก่กรรมและบริษัทโจทก์ถือประทานบัตรนี้สืบเนื่องจาก บ. ตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวแล้ว ฝ่ายผ. ก็ถึงแก่กรรมและที่ดินของ ผ. ก็เป็นมรดกตกทอดแก่จำเลย โจทก์จำเลยย่อมรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้บริษัทโจทก์เข้าทำเหมืองแร่ในที่ดินนี้ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องร้องบังคับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่ตามกฎหมาย และผลผูกพันตามสัญญาต่อทายาท
บ.ผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินของบ. ได้โอนตกมาเป็นของบริษัทโจทก์รวมทั้งประทานบัตรรายนี้ด้วยการที่คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทโจทก์ถือประทานบัตรสืบเนื่องจาก บ. ก็เพราะ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ พ.ศ.2461 มาตรา 46 บัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะอนุญาตในกรณีเข้าถือประทานบัตรสืบเนื่องจากเจ้าของเดิมผู้ถึงแก่กรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ยื่นเรื่องราวขอประทานบัตรขึ้นใหม่เป็นคนละรายต่างหากโจทก์จึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ผ. ทำสัญญาให้ไว้แก่ บ. ยอมให้บ. ทำเหมืองแร่ในที่ดินของ ผ. ได้ตามเรื่องราวที่ขอประทานบัตร ต่อมาบ. ถึงแก่กรรม และบริษัทโจทก์ถือประทานบัตรนี้สืบเนื่องจากบ. ตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวแล้ว ฝ่ายผ. ก็ถึงแก่กรรมและที่ดินของ ผ. ก็เป็นมรดกตกทอดแก่จำเลย โจทก์จำเลยย่อมรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้บริษัทโจทก์เข้าทำเหมืองแร่ในที่ดินนี้. โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องร้องบังคับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในลูกสุกรเกิดหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต: ดอกผลของทรัพย์มรดกและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู
ลูกสุกรเกิดจากสุกรพ่อและสุกรแม่ซึ่งเลี้ยงไว้ในระหว่างเจ้ามรดกยังมีชีวิตอยู่แต่เกิดเมื่อเจ้ามรดกตายแล้วลูกสุกรและเงินที่ขายลูกสุกรได้ก็เป็นสินสมรสระหว่างเจ้ามรดกกับภรรยาส่วนของเจ้ามรดกตกเป็นมรดก ทายาทมีส่วนแบ่งในสุกรพ่อและสุกรแม่อย่างไรก็มีส่วนแบ่งในลูกสุกรหรือเงินที่ขายได้อย่างนั้น
แม้จะขายลูกสุกรเหล่านี้ไปหลังจากเจ้ามรดกตาย 2 ปีเศษทายาทก็มีสิทธิขอแบ่งมรดกตามราคาที่ขายได้ (ไม่ใช่ตามราคาของลูกสุกรเมื่อแรกเกิด) ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุกรจนกระทั่งขายไปนั้น ทายาทผู้เป็นเจ้าของรวมต้องช่วยกันออกตามส่วนของตน ในเวลาแบ่งเจ้าของรวมผู้เป็นเจ้าหนี้จะเรียกให้เอาส่วนซึ่งจะได้แก่ลูกหนี้ชำระหนี้เสียก่อนก็ได้ ทายาทที่อ้างว่าตนออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุกรคนเดียว เมื่อถูกทายาทอื่นฟ้องขอแบ่งมรดกเงินค่าขายสุกรชอบที่จะขอหักค่าใช้จ่ายนี้มาในคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มรดกจากลูกสุกร: สิทธิทายาทในดอกผลของสินสมรสหลังเจ้ามรดกเสียชีวิตและการแบ่งค่าใช้จ่าย
ลูกสุกรเกิดจากสุกรพ่อและสุกรแม่ซึ่งเลี้ยงไว้ในระหว่างเจ้ามรดกยังมีชีวิตอยู่ แต่เกิดเมื่อเจ้ามรดกตายแล้ว ลูกสุกรและเงินที่ขายลูกสุกรได้ก็เป็นสินสมรสระหว่างเจ้ามรดกกับภรรยา ส่วนของเจ้ามรดกตกเป็นมรดก ทายาทมีส่วนแบ่งในสุกรพ่อและสุกรแม่อย่างไร ก็มีส่วนแบ่งในลูกสุกรหรือเงินที่ขายได้อย่างนั้น
แม้จะขายลูกสุกรเหล่านี้ไปหลังจากเจ้ามรดกตาย 2 ปีเศษ ทายาทก็มีสิทธิขอแบ่งมรดกตามราคาที่ขายได้ (ไม่ใช่ตามราคาของลูกสุกรเมื่อแรกเกิด) ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุกรจนกระทั่งขายไปนั้น ทายาทผู้เป็นเข้าของรวมต้องช่วยกันออกตามส่วนของตน ในเวลาแบ่งเจ้าของรวมผู้เป็นเจ้าหนี้จะเรียกให้เอาส่วนซึ่งจะได้แก่าลูกหนี้ชำระหนี้เสียก่อนก็ได้ ทายาทที่อ้างว่าตนออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุกรคนเดียว เมื่อถูกทายาทอื่นฟ้องขอแบ่งมรดกเงินค่าขายสุกร ชอบที่จะขอหักค่าใช้จ่ายนี้มาในคำให้การ
of 42