พบผลลัพธ์ทั้งหมด 415 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีแต่งตั้ง/ถอดถอนผู้จัดการมรดก เมื่อจำเลยถึงแก่กรรม และไม่มีประโยชน์ในการพิจารณาต่อไป
คดีที่ร้องขอแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้จัดการมรดก ไม่เป็นคดีที่ทายาทจะรับมรดกความของคู่ความที่ถึงแก่กรรมได้เพราะไม่เป็นมรดก
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนจำเลยผู้จัดการมรดก เมื่อจำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนจำเลยผู้จัดการมรดก เมื่อจำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรม และหลักการมรดกความ
คดีที่ร้องขอแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้จัดการมรดก ไม่เป็นคดีที่ทายาทจะรับมรดกความของคู่ความที่ถึงแก่กรรมได้ เพราะไม่เป็นมรดก
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนจำเลยผู้จัดการมรดก เมื่อจำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนจำเลยผู้จัดการมรดก เมื่อจำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งเงินมรดกที่ไม่มีอยู่จริง: สัญญาไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่น
สัญญายอมความที่จำเลยตกลงแบ่งเงินของเจ้ามรดกในธนาคารให้โจทก์โดยเฉพาะนั้น เมื่อเงินไม่มีอยู่ในธนาคารโดยไม่ใช่ความผิดของจำเลยแล้ว สัญญาแบ่งเงินนั้นก็ไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่นของจำเลย ฉะนั้น โจทก์จะขอให้ยึดทรัพย์จำเลยมาใช้เงินตามสัญญานั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งเงินมรดก: ผลผูกพันเมื่อเงินไม่มี – ยึดทรัพย์อื่นไม่ได้
สัญญายอมความที่จำเลยตกลงแบ่งเงินของเจ้ามรดกในธนาคารให้โจทก์โดยเฉพาะนั้น เมื่อเงินไม่มีอยู่ในธนาคารโดยไม่ใช่ความผิดของจำเลยแล้ว สัญญาแบ่งเงินนั้นก็ไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่นของจำเลย ฉะนั้นโจทก์จะขอให้ยึดทรัพย์จำเลยมาใช้เงินตามสัญญานั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ทรัพย์ตกเป็นของอีกฝ่ายเมื่อตาย พินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้อื่นเป็นโมฆะ
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ผู้มีชื่อคนหนึ่งกับจำเลยตกลงเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทร่วมกัน ใครตายก่อนให้ตกเป็นของอีกคนหนึ่งนั้น เป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดหนี้โดยมีเงื่อนไขและเป็นสัญยาต่างตอบแทน ฉะนั้น เมื่อผู้มีชื่อตายทรัพย์พิพาทย่อมตกเป็นของจำเลย ผู้มีชื่อที่ตายจะทำพินัยกรรมทรัพย์นั้นให้คนอื่นอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเหนือพินัยกรรมเมื่อสัญญาระบุการตกเป็นเจ้าของทรัพย์หลังตาย
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ผู้มีชื่อคนหนึ่งกับจำเลยตกลงเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทร่วมกันใครตายก่อนให้ตกเป็นของอีกคนหนึ่งนั้นเป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดหนี้โดยมีเงื่อนไขและเป็นสัญญาต่างตอบแทนฉะนั้น เมื่อผู้มีชื่อตาย ทรัพย์พิพาทย่อมตกเป็นของจำเลย ผู้มีชื่อที่ตายจะไปทำพินัยกรรมยกทรัพย์นั้นให้คนอื่นอีกไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในบำนาญตกทอดภาคภรรยา แม้มีสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว โจทก์ยังฟ้องยืนยันสิทธิได้ หากมิใช่การเรียกร้องจากกองมรดก
โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นภริยาของขุนนิทเทสสุขกิจ โดยได้สมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ฝ่ายจำเลยก็อ้างว่าจำเลยเป็นภริยาขุนนิทเทสฯโดยจดทะเบียนสมรส โจทก์มิใช่ภริยา หลังจากขุนนิทเทสฯตายแล้ว จำเลยร้องขอจัดการมรดก โจทก์คัดค้าน ในที่สุดโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งทรัพย์มรดกกัน เงินบำนาญตกทอดในภาคภรรยาตกลงกันให้ตกแก่โจทก์ครั้นเมื่อโจทก์ขอรับเงินนี้ จำเลยก็ไปยื่นขอรับบำนาญตกทอดทั้งภาคภริยาและภาคบุตรอีก โดยแสดงทะเบียนสมรส กระทรวงการคลังจึงงดจ่ายเงินไว้จนกว่าศาลจะได้วินิจฉัยว่าใครเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะมีว่าโจทก์จะไม่เรียกร้องทรัพย์สินสิทธิอย่างใดๆ จากกองมรดกของขุนนิเทสฯ นอกจากที่ได้ตกลงกันแล้วนั้นอีก โจทก์ก็ยังมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิที่จะได้รับบำนาญตกทอดในภาคภรรยาแต่ผู้เดียวได้ เพราะไม่ใช่เป็นกรณีฟ้องเรียกทรัพย์สินกองมรดกหรือสิทธิในกองมรดก เพราะบำนาญตกทอดไม่ใช่เป็นมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับสิทธิรับบำนาญ: การฟ้องขอสถานะภรรยาไม่ขัดต่อสัญญา
โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นภริยาของขุนนิทเทศฯ โดยได้สมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ฝ่ายจำเลยก็อ้างว่าจำเลยเป็นภริยาขุนนิทเทสฯ โดยจดทะเบียนสมรส โจทก์มิใช่ภริยา หลังจากขุนนิทเทสฯ ตายแล้ว จำเลยร้องขอจัดการมรดก โจทก์คัดค้าน ในที่สุดโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งทรัพย์มรดกกัน เงินบำนาญตกทอดในภาคภรรยาตกลงกันให้ตกแก่โจทก์ ครั้นเมื่อโจทก์ขอรับเงินนี้ จำเลยก็ไปยื่นขอรับบำนาญตกทอดทั้งภาคภริยาและภาคบุตรอีก โดยแสดงทะเบียนสมรส กระทรวงการคลังจึงงดจ่ายเงินไว้จนกว่าศาลจะได้วินิจฉัยว่าใครเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมีว่าโจทก์จะไม่เรียกร้องทรัพย์สินสิทธิอย่างใดๆ จากกองมรดกของขุนนิทเทสฯ นอกจากที่ได้ตกลงกันแล้วนั้นอีก โจทก์ก็ยังมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิที่จะได้รับบำนาญตกทอดในภาพภรรยาแต่ผู้เดียวได้ เพราะไม่ใช่เป็นกรณีฟ้องเรียกทรัพย์สินกองมรดกหรือสิทธิในกองมรดกเพราะบำนาญตกทอดไม่ใช่เป็นมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าเสียชีวิต สิทธิสิ้นสุดลง ทายาทไม่มีอำนาจฟ้อง
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตายสิทธิการเช่าก็ย่อมสิ้นสุดลง จะรับมรดกกันไม่ได้
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิสิ้นสุดลง ทายาทไม่สามารถรับมรดกได้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิการเช่าก็ย่อมสิ้นสุดลง จะรับมรดกกันไม่ได้
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสรวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสรวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก