คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 320

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5235/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพาผู้อื่นออกนอกประเทศด้วยกลอุบายหลอกลวง แม้ไม่มีองค์ประกอบครบถ้วนตามที่กล่าวอ้าง ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 320 วรรคแรกนั้น ผู้กระทำเพียงใช้อุบาย หลอกลวงหรือขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด อย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวมา พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักรก็ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 วรรคแรก แล้วหาจำต้องกระทำการทุกอย่างพร้อมกันในคราวเดียวกันไม่
การที่จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่า มีงานให้ทำที่ประเทศสิงคโปร์และส่งผู้เสียหายออกไปนอกราชอาณาจักรการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 วรรคแรกแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5235/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพาคนออกนอกประเทศด้วยอุบายหลอกลวง หรือข่มขืนใจ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320
การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 วรรคแรกนั้นผู้กระทำเพียงใช้อุบาย หลอกลวงหรือ อ. ขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจ ด้วย ประการอื่นใด อย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวมาพาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักรก็ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 วรรคแรกแล้ว หาจำต้องกระทำการทุกอย่างพร้อมกันในคราวเดียวกันไม่
การที่จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่า มีงานให้ทำที่ประเทศสิงคโปร์และส่งผู้เสียหายออกไปนอกราชอาณาจักร การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320วรรคแรกแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดฐานค้ามนุษย์โดยการหลอกลวงและข่มขืนกระทำชำเราถือเป็นกรรมเดียว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 283 วรรคแรก กระทงหนึ่งจำคุกคนละ 3 ปี ผิดตามมาตรา 320 วรรคแรก อีกกระทงหนึ่ง จำคุกคนละ 2 ปีจำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 283,86 กระทงหนึ่ง จำคุก 2 ปีและผิดตามมาตรา 320,86 อีก กระทงหนึ่ง จำคุก 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 283วรรคแรก และมาตรา 320 วรรคสอง ลงโทษตามมาตรา 283 วรรคแรกซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 3 ปี จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 283 วรรคสุดท้าย 320 วรรคสอง และมาตรา 86 ลงโทษตามมาตรา 283 วรรคแรก ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 3 ปี จำเลยที่ 4 สองปี ดังนี้ศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษาแก้บท ทั้งโทษที่ลงก็จำคุกไม่เกิน 5 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จำเลย จะฎีกา โต้เถียงว่าไม่ได้กระทำผิดมิได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (อ้าง คำพิพากษาฎีกาที่ 1588/2492 และ 2177/2520)
จำเลยใช้อุบายกล่าวหาโจทก์ร่วมว่ายักยอกทรัพย์เพื่อให้ โจทก์ร่วมจำนนต่อคดีในทางอาญาแล้วจูงใจให้โจทก์ร่วมไปทำงาน ที่ฮ่องกงเพื่อให้มีรายได้และให้พ้นคดีอาญาครั้นโจทก์ร่วมยอมไป ถึงฮ่องกง ก็มีผู้ชายมารับที่สนามบินไปควบคุมตัวไว้ไม่ให้หนี แล้วมีผู้ชายมารับโจทก์ร่วมไปข่มขืนกระทำชำเราตามโรงแรม ต่าง ๆ หลายครั้งดังนี้ เห็นเจตนาของจำเลย ได้ว่า หาได้จัด ส่งโจทก์ร่วมออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อการอย่างอื่นไม่เจตนา แท้จริงก็เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นประการเดียว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน: โจทก์ถอนฟ้องได้ก่อนศาลชั้นต้นเท่านั้น
คดีอาญาแผ่นดิน โจทก์ถอนฟ้องได้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาจะขอถอนฟ้องในชั้นศาลฎีกาไม่ได้ ได้แต่ขอถอนฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: เงินของสุขศาลา ยักยอกโดยเสมียน, คณะกรมการอำเภอเป็นผู้เสียหาย
เงินที่นายอำเภอมอบให้จำเลยเป็นเงินของสุขศาลาซึ่งอยู่ในความควบคุมของคณะกรมการอำเภอ จึงถือว่าคณะกรมการอำเภอเป็นผู้เสียหายในเงินที่จำเลยรับมอบและยักยอกนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ในคดีฉ้อโกง: ผู้จัดการแผนกสินค้ามีอำนาจแทนบริษัท
ผู้จัดการแผนกสินค้าของบริษัทมีอำนาจร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกงที่เกี่ยวกับทรัพย์ในแผนกนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งคืนของกลาง: กรณีโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในคดีอาญา
ในคดีที่อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยต่อสู้ว่าของกลางเป็นของจำเลยเมื่อศาลไม่ฟังว่าจำเลยมีความผิด แต่ฟังว่าของกลางเป็นของเจ้าทรัพย์ก็สั่งคืนของกลางให้เจ้าทรัพย์ได้
อ้างฎีกาที่ 647/2478,
ที่ 1102/2481
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.48 วรรค 3 เป็นเรื่องโต้แย้งระหว่างผู้อื่น ไม่เกี่ยวกับจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาประเภทความผิดส่วนตัว จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์จากผู้เสียหาย จึงจะนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
ความผิดฐานยักยอกตาม ม.314 นั้นถ้าไม่ปรากฎว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานแล้ว อัยยการโจทก์หามีอำนาจนำคดีขึ้นว่ากล่าวโดยลำพังไม่ แลคดีเช่นนี้เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกฟ้องได้ มาตรา 320 หาใช่เป็นเพียงบทบัญญัติในวิธีปฏิบัติของเจ้าพนักงานเท่านั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐาน: ศาลรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานอื่นได้ แม้ขัดแย้งกับคำให้การบางส่วน
ปัญหาข้อกฎหมาย
ปัญหาที่ว่าศาลล่างฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือจากคำพะยานหรือไม่เปนปัญหาข้อกฎหมาย