พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิผู้ให้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489มาตรา 16(6) นั้น หมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ให้เช่าเดิมด้วย(อ้างฎีกา 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนกรรมสิทธิมีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าเดิมได้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 มาตรา 16(6) นั้น หมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิจากผู้ให้เช่าเดิมด้วย
(อ้างฎีกา 845/2490)
(อ้างฎีกา 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่า: สัญญาผูกพันแม้เจ้าของทรัพย์ไม่ยินยอม, สัญญาเดิมยังใช้ได้แม้มีสัญญาใหม่
โจทก์ได้เช่าตึกแถวจากเจ้าของทรัพย์ แล้วโจทก์ทำสัญญาโอนการเช่าให้จำเลยดังนี้ โจทก์ต้องถูกผูกพันตามสัญญานั้น แม้เจ้าของทรัพย์ที่เช่าจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็หามีผลกระทบกระเทือนถึงสัญญาที่ผูกพันอยู่ระหว่างโจทก์จำเลยไม่ และแม้ต่อมาโจทก์จะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าทรัพย์ ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ต่อจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
ทำสัญญาโดยการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน
ทำสัญญาโดยการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาโอนการเช่ามีผลผูกพัน แม้เจ้าของทรัพย์ไม่ยินยอม ผู้โอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจทก์ได้เช่าตึกแถวจากเจ้าของทรัพย์ แล้วโจทก์ทำสัญญาโอนการเช่าให้จำเลย ดังนี้ โจทก์ต้องถูกผูกพันตามสัญญานั้น แม้เจ้าของทรัพย์ที่เช่าจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็หามีผลกระทบกระเทือนถึงสัญญาที่ผูกพันอยู่ระหว่างโจทก์จำเลยไม่ และแม้ต่อมาโจทก์จะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าของทรัพย์ ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ต่อจำเลยโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
ทำสัญญาโอนการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน
ทำสัญญาโอนการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือยนต์ที่ใช้ขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
เรือยนต์ที่ใช้ในการบรรทุกข้าวขนย้ายออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2)2489 มาตรา 13 ทวิ(2) บัญญัติให้ริบเสีย มิได้บัญญัติให้อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะริบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือยนต์ที่ใช้ขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
เรือยนต์ที่ใช้ในการบรรทุกข้าวขนย้ายออกนอกขตต์โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) 2489 มาตรา 13 ทวิ (2) บัญญัติให้ริบเสีย มิได้บัญญัติให้อยู่ในดุลยพินิจของศาลว่าจะริบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุปริมาณข้าวที่กักกันตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว การฟ้องต้องระบุจำนวนที่แน่นอนเกิน 1,000 กิโลกรัม
คำว่าปริมาณใน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 5 หมายถึงจำนวน
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1,260 กิโลกรัมคำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1,000 กิโลกรัมดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1,260 กิโลกรัมคำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1,000 กิโลกรัมดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปริมาณข้าวที่กักกันตาม พ.ร.บ.สำรวจข้าว: การระบุปริมาณที่แน่นอนในฟ้องคดี
คำว่าปริมาณใน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 5 หมายถึงจำนวน
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1260 กิโลกรัม คำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1000 กิโลกรัม ดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1260 กิโลกรัม คำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1000 กิโลกรัม ดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทกรรมสิทธิในชั้นฎีกา: ค่าธรรมเนียมและผลของการไม่ชำระ
ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมกับอัยยการฎีกาคัดค้านเรื่องกรรมสิทธิในทรัพย์ที่ถูกลักหรือรับของโจร จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในชั้นฎีกา เมื่อไม่ยอมเสีย ศาลไม่รับฎีกาไว้พิจารณา (กรณีเช่นนี้ศาลฎีกาทำเป็นคำสั่ง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: สิทธิทายาทและการกันส่วนมรดก
การแบ่งทรัพย์มรดก เมื่อเจ้ามรดกตายเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 แล้ว ต้องแบ่งตาม มาตรา 1635 และ 1636
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่