คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับเปิดทาง ต้องแสดงการกระทำที่ทำให้ทางเสียหายหรือถูกปิดกั้น หากไม่มีประเด็นนี้ ศาลไม่ต้องวินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ ในคำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใด ๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ติดใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลต้อววินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับทางสาธารณะต้องแสดงการกระทำที่เป็นละเมิด มิเช่นนั้นขาดประเด็นให้วินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ แต่คำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใดๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ตั้งใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาในพินัยกรรม: กำหนดการเผื่อตายและวิธีการให้เป็นผลสมบูรณ์ รวมถึงการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ข้อความในพินัยกรรมมีว่า 'เมื่อฉันตายไปแล้วก็ขอให้ทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่เด็กหลานของฉันตามที่กล่าวมาแล้วผู้ใดอื่นหรือนายกระจ่างซึ่งเป็นบุตรของฉันจะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาดฯลฯ' นี้เป็นอันถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายไว้โดยพินัยกรรมแล้ว
ในพินัยกรรมที่มีข้อความต่อไปว่า 'และขอให้นางช่วยซึ่งเป็นน้องขอฉัน เป็นผู้แทนฉันจัดการยื่นคำร้องต่ออำเภอมอบกรรมสิทธิ์ทรัพย์ให้' นั้นเป็นการกำหนดวิธีการที่จะให้เป็นผลสมบูรณ์ตามพินัยกรรม เนื่องจากทรัพย์ที่ยกให้บางอย่างเป็นที่ดิน ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมขาดลักษณะของการเป็นพินัยกรรมไม่
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมนั้น ไม่จำต้องระบุเขียนลงไว้ว่า ได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อได้ความว่า เจ้ามรดกกดพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน ก็เป็นการใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 45 พ.ศ.2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาในพินัยกรรม, การกำหนดวิธีการให้พินัยกรรมสมบูรณ์, และการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ข้อความในพินัยกรรมว่า "เมื่อฉัยตายไปแล้วก็ขอให้ทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เก็กหลานของฉันตามที่กล่าวมาแล้ว ผู้ใดอื่นหรือนายกระจ่างซึ่งเป็นบุตรของฉันจะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาด ฯลฯ" นี้เป็นอันถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายไว้โดยพินัยกรรมแล้ว
ในพินัยกรรมที่มีข้อความต่อไปว่า "และขอให้นางช่วยซึ่งเป็นน้องของฉัน เป็นผู้แทนฉันจัดการยื่นคำร้องต่ออำเภอมอบกรรมสิทธิทรัพย์ให้" นั้น เป็นการกำหนดวิธีการที่จะให้เป็นผลสมบูรณ์ตามพินัยกรรม เนื่องจากทรัพย์ที่ยกให้บางอย่างเป็นที่ดิน ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมขาดลักษณะของการเป็นพินัยกรรมไม่
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมนั้น ไม่จำต้องระบุเขียนลงไว้ว่า ได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อได้ความว่า เจ้ามฤดกกดพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน ก็เป็นการใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 45 พ.ศ.2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะเพื่อการค้าและการควบคุมค่าเช่า: การพิจารณาว่าการเช่าอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายควบคุมค่าเช่าหรือไม่
ในสัญญาเช่าเคหะ จำเลยจะต้องชำระเงินค่ากินเปล่างวดที่ 3 ใน วันที่ 1 สิงหาคม 2488 ซึ่งเป็นเวลาที่ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2)2488 ใช้บังคับอยู่ ต้องพิจารณาว่า จำเลยได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่หรือไม่ หากจำเลยมิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่2)2488ก็มิควบคุมถึง
ถ้าหากในเวลาถึงกำหนดชำระเงินกินเปล่างวดที่ 3 การเช่ามิได้ตกอยู่ในควบคุมแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2)2488และจำเลยกระทำผิดสัญญาจนโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ดังนี้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 ซึ่งออกมาภายหลังย่อมไม่มีผลย้อนหลังไปใช้บังคับแก่กรณีระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งไม่มีการเช่ากันนั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าเคหะ เพื่อการค้าและผิดสัญญาไม่ชำระเงินกินเปล่า จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริง แต่ต่อสู้ว่ามิได้ผิดสัญญาในเรื่องชำระเงินกินเปล่า ดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะเพื่อค้าและการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การพิจารณาว่าการเช่าตกอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายหรือไม่
ในสัญญาเช่าเคหะ จำเลยจะต้องชำระเงินค่ากินเปล่างวดที่ 3 ในวันที่ 1 สิงหาคม 2488 ซึ่งเป็นเวลาที่พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉะบับที่ 2) 2488 ใช้บังคับอยู่ ต้องพิจารณาว่า จำเลยได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่หรือไม่ ถ้าจำเลยมิไ้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) 2488 ก็มิควบคุมถึง
ถ้าหากในเวลาถึงกำหนดชำระเงินกินเปล่างวดที่ 3 การเช่ามิได้ตกอยู่ในควบคุมแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) 2488 และจำเลยกระทำผิดสัญญาจนโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ดังนี้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 ซึ่งออกมาภายหลังย่อมไม่มีผลย้อนหลังไปใช้บังคับแก่กรณีระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งไม่มีการเช่ากันนั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าเคหะ เพื่อการค้า และผิดสัญญาไม่ชำระเงินกินเปล่า จำเลยให้การรับว่า ได้ทำสัญญากับโจท์จริง แต่ต่อสู้ว่ามิได้ผิดสัญญาในเรื่องชำระเงินกินเปล่า ดังนี้ จำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิดของผู้จัดให้มีการเล่นพนันที่ได้รับอนุญาต กรณีเล่นผิดเงื่อนไข
ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว จะมีผิดแต่ในกรณีที่เล่นพลิกแพลง ส่วนการเล่นผิด พระราชบัญญัติก็ดี ผิดกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาตก็ดี คงมีผิดแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันหากินถึงผู้ได้รับอนุญาตจัดให้มีการเล่นแต่มิได้เข้าเล่นด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดให้มีการพนันผิดเงื่อนไขใบอนุญาต ไม่มีความผิด หากไม่ได้เข้าเล่นเอง ความผิดอยู่ที่ผู้เล่น
ผู้จัดให้มีการเล่นการพะนันซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว จะมีผิดก็ในกรณีที่เล่นพลิกแพลง ส่วนการเล่นผิด พ.ร.บ.ก็ดี ผิดกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาติก็ดี คงมีผิดแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพะนัน หากินถึงผู้ได้รับอนุญาตจัดให้มีการเล่นแต่มิได้เข้าเล่นด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้ จะถือว่าจำเลยหลบหนีหายซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูก
ควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสีย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่
of 172