พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฝากดูแลทรัพย์สินและการชดใช้ค่าซ่อมแซม เมื่อผู้รับฝากซ่อมแซมทรัพย์สินนั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทโดยอ้างว่าฝากไว้ให้จำเลยอยู่อาศัยดูแลแทน
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ขายเรือนพิพาทแก่จำเลยแล้วขอให้โจทก์แก้ทะเบียนเรือนเป็นของจำเลย ถ้าไม่โอนขอให้คืนเงินค่าซื้อเรือนและค่าซ่อมแซมบ้านที่จำเลยซ่อมแซมไว้ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาฟังว่าโจทก์ฝากเรือนไว้กับจำเลยและจำเลยได้ซ่อมแซมเรือนนี้จริงศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ใช้เงินค่าซ่อมแซมแก่จำเลยและให้จำเลยออกจากเรือนพิพาทได้
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ขายเรือนพิพาทแก่จำเลยแล้วขอให้โจทก์แก้ทะเบียนเรือนเป็นของจำเลย ถ้าไม่โอนขอให้คืนเงินค่าซื้อเรือนและค่าซ่อมแซมบ้านที่จำเลยซ่อมแซมไว้ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาฟังว่าโจทก์ฝากเรือนไว้กับจำเลยและจำเลยได้ซ่อมแซมเรือนนี้จริงศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ใช้เงินค่าซ่อมแซมแก่จำเลยและให้จำเลยออกจากเรือนพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันวิ่งราวทรัพย์: พฤติการณ์ใกล้ชิดและการหลบหนีร่วมกันเป็นหลักฐานการสมคบ
พฤตติการณ์ที่ถือว่าสมคบกันวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันวิ่งราวทรัพย์: การพิสูจน์ความร่วมมือจากพฤติการณ์ใกล้ชิด
พฤติการณ์ที่ถือว่าสมคบกันวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาของตัวการร่วมกันทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 256 จำคุกคนละ 2 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 254 จำคุก 1 ปี 6 เดือน และ 1 ปีดังนี้ เป็นการแก้ไขมาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสแม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ก็ถือได้ว่าเป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 63,256
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสแม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ก็ถือได้ว่าเป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 63,256
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันในคดีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส และการเป็นตัวการ
ศาลชั้นต้นพิพากษษลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.256 จำคุกคนละ 2 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 254 จำคุก 1 ปี 6 เดือน และ 1 ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขมา โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ ก็ถือได้ว่า เป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม ก.ม.อาญา ม.63 - 256
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ ก็ถือได้ว่า เป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม ก.ม.อาญา ม.63 - 256
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีเดิม จำเป็นต้องมีหลักฐานยืนยันการรับโทษในคดีนั้นก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีดำนั้น เมื่อไม่มีหลักฐานว่าจำเลยต้องรับโทษอยู่ในคดีที่ขอ+นั้นหรือไม่แล้ว ศาลจะให้นับโทษต่อมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีเดิม ต้องมีหลักฐานแสดงว่าจำเลยเคยได้รับโทษในคดีนั้นแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีดำนั้น เมื่อไม่มีหลักฐานว่าจำเลยต้องรับโทษอยู่ในคดีที่ขอต่อนั้นหรือไม่แล้วศาลจะให้นับโทษต่อมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการส่งตัวผู้ต้องโทษไปกักกัน พิจารณาจากระยะห่างของโทษและความร้ายแรงของโทษปัจจุบัน
ในคดีที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกักกัน ตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8-9 นั้น เมื่อปรากฏต้องโทษครั้งที่หนึ่งจำเลยต้องจำคุก 3 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2466 โทษครั้งที่ 2 ต้องจำคุก 8 ปี พ้นโทษ พ.ศ.2475 โทษครั้งที่ 3 ต้องจำคุก 8 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2479 ดังนี้เป็นการต้องโทษระยะห่าง ๆ กัน และเมื่อต้องโทษครั้งที่ฟ้องนี้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ส่งตัวจำเลยไปกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือน+ไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้+โทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือน+ไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้+โทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการส่งตัวผู้ต้องโทษไปกักกัน พิจารณาจากระยะห่างของการต้องโทษและความร้ายแรงของโทษ
ในคดีนี้ที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันตาม พระราชบัญญัติกักกันฯลฯ มาตรา 8-9 นั้น เมื่อปรากฏว่าโทษครั้งที่หนึ่งจำเลยต้องจำคุก 3 เดือนพ้นโทษ พ.ศ.2466 โทษครั้งที่ 2 ต้องจำคุก 8 ปี พ้นโทษ พ.ศ.2475 โทษครั้งที่ 3 ต้องจำคุก 8 เดือนพ้นโทษ พ.ศ.2479 ดังนี้ เป็นการต้องโทษระยะห่างๆ กันและเมื่อต้องโทษครั้งที่ฟ้องนี้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจไม่ส่งตัวจำเลยไปกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือนส่งไปกักกัน 3 ปีศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือนส่งไปกักกัน 3 ปีศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อกฎหมายใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นฎีกานั้นจะต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้