พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของมีสิทธิฟ้องเรียกคืนได้โดยตรง
ยืมทรัพย์ของผู้อื่นไปจากผู้รับฝากทรัพย์นั้นไว้ โดยเจ้าของมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เจ้าของทรัพย์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนจากผู้ยืมได้โดยตรง
โจทก์ฟ้องเรียกกระดุมทองคำของโจทก์คืนจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง ดังนี้ ประเด็นฝ่ายจำเลยมีแต่เพียงนำสืบว่าไม่ได้ยืมกระดุมไปตามฟ้อง ไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทอง
โจทก์ฟ้องเรียกกระดุมทองคำของโจทก์คืนจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง ดังนี้ ประเด็นฝ่ายจำเลยมีแต่เพียงนำสืบว่าไม่ได้ยืมกระดุมไปตามฟ้อง ไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ทรัพย์แก่นิติบุคคลที่ยังไม่ได้จดทะเบียน: ความสมบูรณ์ของนิติกรรม
การให้ทรัพย์แก่สมาคมที่ตั้งขึ้นโดยมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายนั้นไม่สมบูรณ์ เพราะมีแต่ผู้ให้ ไม่มีบุคคลผู้รับ เนื่องจากสมาคมนั้นไม่ใช่นิติบุคคล ผู้ให้จึงฟ้องเรียกคืนเงินที่ให้ได้
โจทก์ฟ้องว่าได้มอบเงินให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมเพื่อนำไปฝากคลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เงินนั้น แต่ได้ความตามข้อเท็จจริงที่รับกันว่าโจทก์ได้ให้เงินจำนวนนั้นแก่สมาคมและรับกันต่อไปว่า สมาคมนั้นมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายดังนี้ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนจะเป็นการสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ และพิพากษาให้โจทก์เป็นเจ้าของเงินรายพิพาท จึงเป็นคำชี้ขาดในประเด็นและชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าได้มอบเงินให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมเพื่อนำไปฝากคลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เงินนั้น แต่ได้ความตามข้อเท็จจริงที่รับกันว่าโจทก์ได้ให้เงินจำนวนนั้นแก่สมาคมและรับกันต่อไปว่า สมาคมนั้นมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายดังนี้ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนจะเป็นการสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ และพิพากษาให้โจทก์เป็นเจ้าของเงินรายพิพาท จึงเป็นคำชี้ขาดในประเด็นและชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เงินแก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียน: สิทธิในทรัพย์สินยังคงอยู่ของผู้ให้
การให้ทรัพย์แก่สมาคมที่ตั้งขึ้นโดยมิได้จดทะเบียนตาม ก.ม. นั้นไม่สมบูรณ์ เพราะมีแต่ผู้ให้ ไม่มีบุคคลผู้รับเนื่องจากสมาคมนั้นไม่ใช่นิติบุคคลผู้ให้จึงฟ้องเรียกคืนเงินที่ให้ได้
โจทก์ฟ้องว่าได้มอบเงินให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมเพื่อนำไปฝากคลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิเงินนั้น แต่ได้ความตามข้อเท็จจจริงที่รับกันว่าโจทก์ได้ให้เงินจำนวนนั้นแก่สมาคมและรับกันต่อไปว่า สมาคมนั้นมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายดังนี้ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนจะเป็นการสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ และพิพากษาให้โจทก์เป็นเจ้าของเงินรายพิพาท จึงเป็นคำชี้ขาดในประเด็นและชอบด้วยกฎหมาย.
โจทก์ฟ้องว่าได้มอบเงินให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมเพื่อนำไปฝากคลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิเงินนั้น แต่ได้ความตามข้อเท็จจจริงที่รับกันว่าโจทก์ได้ให้เงินจำนวนนั้นแก่สมาคมและรับกันต่อไปว่า สมาคมนั้นมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายดังนี้ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนจะเป็นการสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ และพิพากษาให้โจทก์เป็นเจ้าของเงินรายพิพาท จึงเป็นคำชี้ขาดในประเด็นและชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง หากไม่ได้ถูกหลอกลวงโดยตรง
องค์สำคัญแห่งความผิดตาม ก.ม.อาญามาตรา 306 คือ การฉ้อโกงซึ่งตามมาตรา 304 ว่าต้องมีการหลอกลวง ฯลฯ ผู้ที่ถูกหลอกลวงตามมาตรา 306(4) ก็คือ ผู้ซื้อ ผู้รับทรัพย์ ไว้เป็นประกัน ผู้รับจำนำ ผู้รับจำหน่าย เจ้าของกรรมสิทธิในทรัพย์ หาได้ถูกหลอกลวงไม่ ฉะนั้นเจ้าของกรรมสิทธิจึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องผู้ฉ้อโกงเป็นคดีอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง หากไม่ได้ถูกหลอกลวงโดยตรง
องค์สำคัญแห่งความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306คือการฉ้อโกงซึ่งตามมาตรา 304 ว่าต้องมีการหลอกลวง ฯลฯผู้ที่ถูกหลอกลวงตามมาตรา 306(4) ก็คือ ผู้ซื้อ ผู้รับทรัพย์ไว้เป็นประกันผู้รับจำนำผู้รับจำหน่าย เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ หาได้ถูกหลอกลวงไม่ ฉะนั้นเจ้าของกรรมสิทธิ์จึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องผู้ฉ้อโกงเป็นคดีอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแพ่งเท็จไม่เป็นความผิดทางอาญาตาม ม.158, 159 หากไม่มีการขอลงโทษอาญา
ฟ้องกล่าวโทษหรือฟ้องว่าเกิดการกระทำผิดขึ้นตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158,159 นั้นเป็นเรื่องฟ้องว่ากระทำความผิดในทางอาญา
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จ ตาม มาตรา158-159
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จ ตาม มาตรา158-159
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแพ่งเท็จไม่เป็นความผิดตามมาตรา 158, 159 อาญา หากไม่มีคำขอให้ลงอาญา
ฟ้องกล่าวโทษหรือฟ้องว่าเกิดการกระทำผิดขึ้นตามความในกฎหมายอาญามาตรา 158, 159 นั้นเป็นเรื่องฟ้องว่ากระทำความผิดในทางอาญา
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเช่า: ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่เข้าอยู่แทนโดยได้รับอนุญาต
เช่าห้องเขามาแล้วไม่ได้อยู่เอง เมื่อมีผู้อื่นมาขออยู่ ตนสละสิทธิยอมให้ผู้อื่นเข้าอยู่ในห้องเช่า โดยผู้อยู่เสียค่าเช่าโดยตรงต่อเจ้าของห้องตลอดมา ดังนี้ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อยู่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเช่า: ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่เข้าอยู่อาศัยแทนเมื่อสละสิทธิแล้ว
เช่าห้องเช่าามาแล้วไม่ได้อยู่เอง เมื่อมีผู้อื่นมาขออยู่ ตนสละสิทธิยอมให้ผู้อื่นเข้าอยู่ในห้องเช่า โดยผู้อยู่เสียค่าเช่าโดยตรงต่อเจ้าของห้องตลอดมา ดังนี้ ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อยู่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ลงโทษไม่ได้ตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อคืนระหว่างวันที่ 11,12 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในคืนวันที่ 10 ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริง ที่บรรยายมาในฟ้องลงโทษจำเลยไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 192(2).