พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสัญชาติไทยต้องเกิดจากเจตนาสมัครใจ การรับใบสำคัญคนต่างด้าวเพราะความกลัวผิดกฎหมาย ไม่ถือเป็นการสละสัญชาติ
ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวนั้นเมื่อจำเลยรับมาเพราะกลัวความผิดตามประกาศของอำเภอจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมาด้วยความสมัครใจ จำเลยจึงไม่มีเจตนาจะสละสัญชาติไทย
เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีคนต่างด้าว ตาม ก.ม. จำเลยจึงไม่จำต้องไปจดทะเบียนรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามประกาศของอำเภอจำเลยยังคงเป็นคนมีสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2456 ดังนี้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับตามพฤติการณ์ดังกล่าวจะใช้บังคับแก่จำเลยให้ขาดจากสัญชาติไทยไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่จะต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับมานั้น
อนึ่งการที่จะขาดจากสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับที่ 2) ม.5 พ.ศ. 2496 จะต้องเป็นไปด้วยใจสมัครจึงจะถูกต้องตามความประสงค์ของมาตรานี้.
เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีคนต่างด้าว ตาม ก.ม. จำเลยจึงไม่จำต้องไปจดทะเบียนรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามประกาศของอำเภอจำเลยยังคงเป็นคนมีสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2456 ดังนี้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับตามพฤติการณ์ดังกล่าวจะใช้บังคับแก่จำเลยให้ขาดจากสัญชาติไทยไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่จะต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับมานั้น
อนึ่งการที่จะขาดจากสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับที่ 2) ม.5 พ.ศ. 2496 จะต้องเป็นไปด้วยใจสมัครจึงจะถูกต้องตามความประสงค์ของมาตรานี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสัญชาติไทยต้องเกิดจากเจตนาสมัครใจ การได้รับใบสำคัญคนต่างด้าวภายใต้ความกลัวผิดกฎหมาย ไม่ถือเป็นการสละสัญชาติ
ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวนั้นเมื่อจำเลยรับมาเพราะกลัวความผิดตามประกาศของอำเภอจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมาด้วยความสมัครใจ จำเลยจึงไม่มีเจตนาจะสละสัญชาติไทย
เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีคนต่างด้าว ตามกฎหมาย จำเลยจึงไม่จำต้องไปจดทะเบียนรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามประกาศของอำเภอ จำเลยยังคงเป็นคนมีสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 ดังนี้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับตามพฤติการณ์ดังกล่าวจะใช้บังคับแก่จำเลยให้ขาดจากสัญชาติไทยไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่จะต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับมานั้น
อนึ่งการที่จะขาดจากสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2496 มาตรา 5 จะต้องเป็นไปด้วยใจสมัครจึงจะถูกต้องตามความประสงค์ของมาตรานี้
เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีคนต่างด้าว ตามกฎหมาย จำเลยจึงไม่จำต้องไปจดทะเบียนรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามประกาศของอำเภอ จำเลยยังคงเป็นคนมีสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 ดังนี้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับตามพฤติการณ์ดังกล่าวจะใช้บังคับแก่จำเลยให้ขาดจากสัญชาติไทยไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่จะต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่จำเลยได้รับมานั้น
อนึ่งการที่จะขาดจากสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2496 มาตรา 5 จะต้องเป็นไปด้วยใจสมัครจึงจะถูกต้องตามความประสงค์ของมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: การเสนอและสนองสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ
เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ธนาคารได้เปิดเพื่อชำระราคาสินค้าของลูกค้าของธนาคารนั้นย่อมถือว่าเป็นคำเสนอ เมื่อได้มีการส่งสินค้ามาตามที่ระบุไว้ในเลตเตอร์ออฟเครดิตแล้วก็ย่อมถือได้ว่ามีคำสนองก่อให้เกิดสัญญาขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: คำเสนอและคำสนองที่ก่อให้เกิดสัญญาซื้อขาย
เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ธนาคารได้เปิดเพื่อชำระราคาสินค้าของลูกค้าของธนาคารนั้นย่อมถือว่าเป็นคำเสนอเมื่อได้มีการส่งสินค้ามาตามที่ระบุไว้ในเลตเตอร์ออฟเครดิตแล้วก็ย่อมถือได้ว่ามีคำสนองก่อให้เกิดสัญญาขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าเสียหายจากลักทรัพย์ (โค) ที่ยังไม่มีราคาแน่นอน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักโคเป็นและขอให้ใช้ราคา ได้ความว่าจำเลยลักโคที่ตายแล้ว ราคาโคจึงยังไม่แน่นอน ศาลย่อมให้เจ้าทรัพย์ไปฟ้องเรียกราคาโคตายเป็นคดีขึ้นใหม่ต่างหากจากคดีอาญา ที่ได้พิจารณาพิพากษาแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดราคาสินค้าที่ตายแล้วในคดีอาญา: ราคาไม่แน่นอนต้องฟ้องแยกต่างหาก
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักโคเป็นและขอให้ใช้ราคาได้ความว่าจำเลยลักโคที่ตายแล้ว ราคาโคจึงยังไม่แน่นอน ศาลย่อมให้เจ้าทรัพย์ไปฟ้อง เรียกราคาโคตายเป็นคดีขึ้นใหม่ต่างหากจากคดีอาญา ที่ได้พิจารณาพิพากษาแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุจากภริยาจำเลย และการพิจารณาหนี้สิน
ทนายจำเลยขอเลื่อนคดี โดยอ้างแต่เพียงว่า ได้แจ้งวันนัดสืบพยานให้จำเลยทราบแล้ว ภริยาจำเลยแจ้งว่า จำเลยไปกิจธุระที่ต่างจังหวัดเสีย มาศาลไม่ได้ในวันนั้น เมื่อทนายมิได้พบจำเลยเอง การที่แถลงว่า จำเลยไปกิจธุระต่างจังหวัดนั้น เป็นคำบอกเล่าที่ได้รับจากภริยาจำเลย และกิจธุระอะไรก็ไม่ปรากฏ จะถือเป็นเหตุจำเป็นที่จะต้องเลื่อนคดียังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิในที่ดินและการชดใช้ค่าเสียหาย แม้ไม่ได้เสียหายจากเงินมัดจำที่ถูกริบ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการแบ่งแยกที่ดินทำให้โจทก์แบ่งขายที่ดินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ด้เงินไปชำระราคาที่ดินซึ่งโจทก์วางมัดจำซื้อไว้เป็นเหตุให้โจทก์ถูกริบเงินมัดจำแม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่จะถือว่าเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดไม่ได้
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ.
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขัดขวางการแบ่งขายที่ดิน ทำให้โจทก์ถูกริบมัดจำ ศาลพิจารณาค่าเสียหายจากการละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการแบ่งแยกที่ดินทำให้โจทก์แบ่งขายที่ดินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้เงินไปชำระราคาที่ดินซึ่งโจทก์วางมัดจำซื้อไว้เป็นเหตุให้โจทก์ถูกริบเงินมัดจำ แม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่จะถือว่าเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดไม่ได้
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก