พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินโดยรู้ว่าผู้ขายไม่มีอำนาจ การครอบครองปรปักษ์ใช้ไม่ได้กับทายาทเจ้าของเดิม
ซื้อที่ดินซึ่งมีโฉนดตราจองจากผู้รับจำนอง โดยทำหนังสือกันเอง และรู้ก่อนซื้อว่าที่ดินนั้นเป็นของใคร ได้ชื่อว่าซื้อโดยรู้ว่าผู้ขายไม่มีอำนาจขาย และถือว่ารับโอนการครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิผู้จำนองผู้เป็นเจ้าของที่ดินนั้น หาใช่ได้รับโอนการครอบครองเพื่อตนเองไม่ฉะนั้น ถึงผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินมาเกินสิบปี ก็หาอาจยกอายุความครอบครองปรปักษ์ยันกับทายาทผู้จำนองได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินจากผู้ไม่มีอำนาจ และการครอบครองปรปักษ์ที่ไม่อาจใช้ยันทายาทเจ้าของเดิมได้
ซื้อที่ดินซึ่งมีโฉนดตราจองจากผู้รับจำนองโดยทำหนังสือกันเอง และรู้ก่อนซื้อว่าที่ดินนั้นเป็นของใครนั้น ได้ชื่อว่าซื้อโดยรู้ว่าผู้ขายไม่มีอำนาจขาย และถือว่ารับโอนการครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิผู้จำนองผู้เป็นเจ้าของที่ดินนั้น หาใช่ได้รับโอนการครอบครองเพื่อตนเองไม่ ฉะนั้น ถึงผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินมาเกินสิบปี ก็หาอาจยกอายุความครอบครองปรปักษ์ยันกับทายาทผู้จำนองได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก - การเพิกเลิกนิติกรรม - จำเลยเพทุบายหลีกเลี่ยง
ในกรณีทำสัญญาขายฝากต่อกันโจทก์ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่า โจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์ก่อนพ้นกำหนดเวลาจำเลยเพทุบายหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่ายไม่ให้ไถ่ โจทก์จึงไม่ได้ไถ่ ดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้นย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้วโจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้นย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้วโจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก - เพิกถอนนิติกรรม - จำเลยเพทุบาย - ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้
ในกรณีทำสัญญาขายฝากต่อกันโจทก์ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่า โจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์ก่อนพ้นกำหนดเวลา จำเลยเพทุบายหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่ายไม่ให้ไถ่ โจทก์จึงไม่ได้ไถ่ ดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้น ย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้น ย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์: ศาลต้องพิจารณาจากฟ้องของโจทก์เพื่อลงโทษฐานใดฐานหนึ่ง
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานและพยายามลักทรัพย์ด้วยดังนี้ จะลงโทษฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ได้หรือไม่ต้องพิจารณาฟ้องของโจทก์เป็นสำคัญว่า โจทก์มีความประสงค์จะขอให้ลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ฐานเดียวหรือฐานบุกรุกด้วย
อัตราโทษจำคุกอย่างสูงฐานบุกรุกตามมาตรา 365 ย่อมมีโทษหนักกว่าอัตราโทษอย่างสูงฐานพยายามลักทรัพย์ตามมาตรา 335 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 80
อัตราโทษจำคุกอย่างสูงฐานบุกรุกตามมาตรา 365 ย่อมมีโทษหนักกว่าอัตราโทษอย่างสูงฐานพยายามลักทรัพย์ตามมาตรา 335 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาลงโทษฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์: ศาลต้องพิจารณาจากฟ้องของโจทก์ว่าประสงค์จะลงโทษฐานใด
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานและพยายามลักทรัพย์ด้วย ดังนี้ จะลงโทษฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ได้หรือไม่ ต้องพิจารณาฟ้องของโจทก์เป็นสำคัญว่า โจทก์มีความประสงค์จะขอให้ลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ฐานเดียวหรือฐานบุกรุกด้วย.
อัตราโทษจำคุกอย่างสูงฐานบุกรุกตามมาตรา 365 ย่อมมีโทษหนักกว่าอัตราโทษอย่างสูงฐานพยายามลักทรัพย์ตามมาตรา 335 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 80.
อัตราโทษจำคุกอย่างสูงฐานบุกรุกตามมาตรา 365 ย่อมมีโทษหนักกว่าอัตราโทษอย่างสูงฐานพยายามลักทรัพย์ตามมาตรา 335 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 80.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281-286/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าที่ดินและการครอบครองก่อนเกิดเพลิงไหม้ ไม่ถือเป็นการบุกรุก
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยหรือบุกรุก เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเช่าที่ดินนั้นปลูกบ้าน เรือนอาศัยอยู่ คดีก็ต้องยกฟ้องโจทก์
จำเลยเช่าที่ดินปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ก่อนเพลิงไหม้ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบ้านเรือนในตอนหลังย่อมไม่เป็นการละเมิด
จำเลยเช่าที่ดินปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ก่อนเพลิงไหม้ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบ้านเรือนในตอนหลังย่อมไม่เป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281-286/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าที่ดินและการครอบครองต่อเนื่อง แม้เกิดเพลิงไหม้ ไม่ถือเป็นการบุกรุก
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยหรือบุกรุก เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเช่าที่ดินนั้นปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ คดีก็ต้องยกฟ้องโจทก์
จำเลยเช่าที่ดินปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ก่อนเพลิงไหม้การที่จำเลยเข้าไปปลูกบ้านเรือนในตอนหลังย่อมไม่เป็นการละเมิด
จำเลยเช่าที่ดินปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ก่อนเพลิงไหม้การที่จำเลยเข้าไปปลูกบ้านเรือนในตอนหลังย่อมไม่เป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับมรดกไม่ระงับ แม้มิได้ร้องสอดคดีก่อน และทายาทอื่นยังไม่สละสิทธิ
การที่โจทก์ไม่ร้องสอดขอแบ่งมรดกเข้ามาในคดีก่อนซึ่งจำเลยเป็นคู่ความเกี่ยวกับมรดกรายเดียวกันอยู่นั้นไม่เป็นเหตุตัดสิทธิโจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดกนั้นในคดีหลังภายในอายุความ
เมื่อปรากฏว่ายังมีทายาทที่มีสิทธิรับมรดกเช่นเดียวกับโจทก์อยู่อีกคนหนึ่งการที่ทายาทผู้นั้นนิ่งเฉยอยู่จะถือว่าทายาทผู้นั้นสละมรดกหาได้ไม่และจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทผู้นั้นไปให้แก่โจทก์ไม่ได้โจทก์คงได้ส่วนแบ่งแต่เฉพาะส่วนของตนเท่านั้น(อ้างฎีกาที่391/2499)
เมื่อปรากฏว่ายังมีทายาทที่มีสิทธิรับมรดกเช่นเดียวกับโจทก์อยู่อีกคนหนึ่งการที่ทายาทผู้นั้นนิ่งเฉยอยู่จะถือว่าทายาทผู้นั้นสละมรดกหาได้ไม่และจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทผู้นั้นไปให้แก่โจทก์ไม่ได้โจทก์คงได้ส่วนแบ่งแต่เฉพาะส่วนของตนเท่านั้น(อ้างฎีกาที่391/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับมรดกไม่ระงับแม้ไม่ร้องสอดคดีก่อน และสิทธิทายาทอื่นย่อมมีผล
การที่โจทก์ไม่ร้องสอดขอแบ่งมรดกเข้ามาในคดีก่อนซึ่งจำเลยเป็นคู่ความเกี่ยวกับมรดกรายเดียวกันอยู่นั้น ไม่เป็นเหตุตัดสิทธิโจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดกนั้นในคดีหลังภายในอายุความ
เมื่อปรากฎว่ายังมีทายาทที่มีสิทธิรับมรดกเช่นเดียวกับโจทก์อยู่อีกคนหนึ่ง การที่ทายาทผู้นั้นนิ่งเฉยอยู่ จะถือว่าทายาทผู้นั้นสละมรดกหาได้ไม่ และจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทผู้นั้นไปให้แก่โจทก์ไม่ได้ โจทก์คงได้ส่วนแบ่งแต่เฉพาะส่วนของตนเท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 391/2499)
เมื่อปรากฎว่ายังมีทายาทที่มีสิทธิรับมรดกเช่นเดียวกับโจทก์อยู่อีกคนหนึ่ง การที่ทายาทผู้นั้นนิ่งเฉยอยู่ จะถือว่าทายาทผู้นั้นสละมรดกหาได้ไม่ และจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทผู้นั้นไปให้แก่โจทก์ไม่ได้ โจทก์คงได้ส่วนแบ่งแต่เฉพาะส่วนของตนเท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 391/2499)