คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสำเนาอุทธรณ์ล่าช้า: ศาลต้องกำหนดเวลาชัดเจน มิฉะนั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า "รับอุทธรณ์โจทก์" ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใด เมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วัน เช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ป.วิ.แพ่ง ม.174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือน ม.174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร
ฎีกาที่ 798/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: การเก็บของที่ตกหล่นโดยไม่มีเจตนาครอบครองมิใช่ความผิดฐานรับของโจร
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าไก่ของกลางของผู้เสียหายได้หายไป ต่อมาจับได้จากจำเลย จำเลยได้ไก่นี้มาโดยขณะที่กลับจากไร่ส่องไฟเห็นผู้ร้ายอุ้มไก่คนร้ายตกใจทิ้งไก่จำเลยเก็บไก่นั้นมาเลี้ยงไว้โดยเพื่อประโยชน์ของเจ้าของเอง ดังนี้จำเลยขาดเถยยจิตเป็นโจร ทั้งไม่ต้องด้วยความหมายของคำว่า "รับไว้ด้วยประการใด ๆ " ตาม ม.321 (2) ยังไม่เป็นผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจของจำเลย
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชน โดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนหัวเบนกลับไปบนกลางถนนลาดยาง ชนรถยนต์ทางล้อหน้า ของผู้เสียหายขับสวนทางมาก การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้ว่าความประมาทของ จำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแก้วกะดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา ม.158(5).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่จำเลยเข้าใจได้เพียงพอต่อการรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชนโดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนเบนหัวกลับไปบนกลางถนนลาดยางชนรถยนต์ทางล้อหน้าของผู้เสียหายขับสวนทางมา การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้แล้วว่าความประมาทของจำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแล้วกระดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหายจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบการพิสูจน์ความผิดอาญา: พยานบอกเล่า, พยานผู้เห็นเหตุการณ์, และการรับฟังคำให้การของผู้ตาย
คำให้การพยานชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่าเมื่อไม่ได้ตัวผู้ให้การมาเบิกความที่ศาล เพราะตายเสียก่อน ก็อาจใช้ได้แต่มีน้ำหนักน้อย และใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของเครื่องหมายการค้าและการละเมิดสิทธิ แม้มิได้เป็นผู้ผลิต
เมื่อโจทก์จดทะเบียนเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าไว้ก็ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายที่จดสำหรับสินค้าชนิดนั้น หากจำเลยสั่งสินค้าซึ่งมีเครื่องหมายอย่างเดียวกันเข้ามาจำหน่าย ย่อมถือว่าละเมิดสิทธิของโจทก์
ผู้ที่ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้นั้นหาจำต้องเป็นผู้ผลิตสินค้าที่จะขอจดนั้นด้วยตนเองไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของเครื่องหมายการค้า: แม้ไม่ได้ผลิตเองก็คุ้มครองได้
เมื่อโจทก์ได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าไว้ก็ย่อมเป็นเจ้าของมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายที่จดสำหรับสินค้าชนิดนั้นหากจำเลยสั่งสินค้าซึ่งมีเครื่องหมายอย่างเดียวกันเข้ามาจำหน่ายย่อมถือว่าละเมิดสิทธิของโจทก์
ผู้ที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้นั้นหาจำต้องเป็นผู้ผลิตสินค้าที่จะขอจดนั้นด้วยตนเองไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อบัตรภาพยนตร์ ศาลจำกัดเฉพาะค่าเสียหายที่พิสูจน์ได้จริง ไม่รวมความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ
โจทก์จองบัตรที่นั่งดูภาพยนตร์แล้วแต่ไม่สามารถมานั่งตามที่ ๆ จองไว้เพราะจำเลยกลับขายบัตรสำหรับที่นั่งนั้นให้แก่ผู้อื่นไปอีกย่อมถือว่าจำเลยยกเอาเหตุที่มีคนดูภาพยนต์มากเป็นพิเศษมาเป็นเหตุสุดวิสัยเพื่อแก้ตัวไม่ได้
จำเลยผิดสัญญาโจทก์จะเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแก่การนั้นได้ตาม ป.พ.พ. ม.215
ในเรื่องค่าเสียหายโจทก์จะเรียกเอาจากจำเลยได้เพียงไร นอกจากค่าเสียหายที่ได้จ่ายเป็นตัวเงินจริง ๆ แล้ว สำหรับความขวยเขินที่ไม่ได้นั่งดูภาพยนต์ในที่ ๆ จองไว้ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ โจทก์จะถือเหตุเหล่านี้มาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้เพราะความรู้สึกในทางจิตใจนั้นไม่ใช่ความเสียหายที่จะพึงเรียกร้องกันได้ในกรณีเช่นนี้จะว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษตามวรรค 2 แห่ง ป.พ.พ. ม.222 ก็ไม่ได้
การกำหนดค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามธรรมดาศาลย่อมกำหนดเพื่อชดเชยแก่การที่โจทก์ต้องเสียไป มิใช่กำหนดเพื่อเป็นการลงโทษจำเลย ดังนั้นหากโจทก์จะมีความเสียหายอย่างไรอีก ความเสียหายนั้นจะพึงคำนวนเป็นราคาเงินเท่าใดก็ต้องคำนวนมาด้วย มิฉะนั้นโจทก์จะได้รับแต่เพียงค่าเสียหายเท่าที่คำนวนเป็นเงินไว้เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาจองที่นั่งชมภาพยนตร์ ค่าเสียหายจำกัดเฉพาะเงินที่เสียไป ความเสียหายทางจิตใจไม่อาจเรียกร้องได้
โจทก์จองบัตรที่นั่งดูภาพยนต์แล้วแต่ไม่สามารถมานั่งตามที่ๆจองไว้เพราะจำเลยกลับขายบัตรสำหรับที่นั่งนั้นให้แก่ผู้อื่นไปอีกย่อมถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยจะยกเอาเหตุที่มีคนดูภาพยนต์มากเป็นพิเศษมาเป็นเหตุสุดวิสัยเพื่อแก้ตัวไม่ได้
จำเลยผิดสัญญาโจทก์จะเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแก่การนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา215
ในเรื่องค่าเสียหายโจทก์จะเรียกเอาจากจำเลยได้เพียงไรนอกจากค่าเสียหายที่ได้จ่ายเป็นตัวเงินจริงๆ แล้วสำหรับความขวยเขินที่ไม่ได้นั่งดูภาพยนต์ในที่ๆ จองไว้ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจโจทก์จะถือเหตุเหล่านี้มาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้เพราะความรู้สึกในทางจิตใจนั้นไม่ใช่ความเสียหายที่จะพึงเรียกร้องกันได้ในกรณีเช่นนี้จะว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษตามวรรคสองแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 ก็ไม่ได้
การกำหนดค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามธรรมดาศาลย่อมกำหนดเพื่อชดเชยการที่โจทก์ต้องเสียไป มิใช่กำหนดเพื่อเป็นการลงโทษจำเลยดังนั้นหากโจทก์จะมีความเสียหายอย่างไรอีกความเสียหายนั้นจะพึงคำนวณเป็นราคาเงินเท่าใดก็ต้องคำนวณมาด้วยมิฉะนั้นโจทก์จะได้รับแต่เพียงค่าเสียหายเท่าที่คำนวณเป็นเงินไว้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยในฐานะบุคคลธรรมดา โดยไม่ได้ฟ้องบริษัท แม้จะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของบริษัท
เทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพฯ เรื่องควบคุมการค้าซึ่งเป็นที่น่ารังเกียจ ฯ (ฉบับที่ 3) 2494 ลงวันที่ 18 ม.ค.2494 ข้อ 4,5
หน้าฟ้องโจทก์ระบุชื่อจำเลยไม่ได้ระบุชื่อบริษัท ในคำบรรยายฟ้องกล่าวถึงบริษัทอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแสดงให้ทราบว่าจำเลยผู้ที่ถูกฟ้องนั้นเป็นผู้จัดการบริษัทจึงเป็นอันว่าจากหน้าฟ้องก็ตาม จากคำบรรยายฟ้องก็ตาม โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวของจำเลย และฟ้องไม่ได้หาว่าจำเลยจัดคนให้เลื่อยไม้ เมื่อคำพยานไม่มีเลยว่าจำเลยเป็นผู้เลื่อยไม้ เช่นนี้ลงโทษจำเลยไม่ได้.
of 172