พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระหว่างคู่ความมีผลผูกพัน & การท้าประเด็นต้องทำต่อหน้าศาล
การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า'การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ'มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า'การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ'มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายขณะวิวาท ไม่ถึงเจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
เมื่อเป็นกรณีที่ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปโดยถูกยั่วโทษะหาได้ไม่
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้ง จำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้ง จำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายระหว่างวิวาท: การพิจารณาเจตนาและฐานความผิด
เมื่อเป็นกรณีที่ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปโดยถูกยั่วโทษะหาได้ไม่
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้งจำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตายจำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้งจำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตายจำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม แม้เลยกำหนด หากมิได้จงใจ และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ทนายจำเลยเข้าใจว่า ได้ยื่นบัญชีระบุพยานแล้ว แต่ความจริงยังไม่ได้ยื่น เพราะหลงลืมไปมิได้ตั้งใจจะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายดังนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมรับบัญชีระบุพยานจำเลยซึ่งยื่นภายหลังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และการทำยอมความของผู้ถูกฟ้อง ย่อมไม่ผูกมัดสิทธิของบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย,ก่อนจำเลยให้การนายไสวร้องขอเช่าเป็นผู้ร้องสอดอ้างว่านายไสวเป็นผู้เช่าห้องพิพาท นายเม้ง++บริวารโจทก์คัดค้าน ต่อมานายเม้งขอทำยอมออกจากห้องพิพาท ดังนี้คดีระหว่างโจทก์กับนายเม้งยุติแล้วและที่นายไสวอ้างว่าเป็นผู้เช่าและผู้ครอบครอง นายเม้งเป็นบริวารแต่นายไสวไม่ได้อยู่ในห้องพิพาทนั้น คำพิพากษาก็บังคับนายเม้งจำเลยโดยเฉพาะเท่านั้นไม่เกี่ยวถึงนายไสวเลย จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำร้องสอด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และการยอมความ ย่อมไม่ผูกมัดสิทธิของบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยก่อนจำเลยให้การนายไสวร้องขอเข้าเป็นผู้ร้องสอดอ้างว่านายไสวเป็นผู้เช่าห้องพิพาทนายเม้งจำเลยเป็นบริวารโจทก์คัดค้านต่อมานายเม้งขอทำยอมออกจากห้องพิพาทดังนี้คดีระหว่างโจทก์กับนายเม้งยุติแล้วและที่นายไสวอ้างว่าเป็นผู้เช่าและผู้ครอบครอง นายเม้งเป็นบริวารแต่นายไสวไม่ได้อยู่ในห้องพิพาทนั้นคำพิพากษาก็บังคับนายเม้งจำเลยโดยเฉพาะเท่านั้นไม่เกี่ยวถึงนายไสวเลย จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำร้องสอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าใช้เป็นที่อยู่อาศัยและสำนักงานทนายความ คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเพื่ออยู่อาศัยและเป็นที่ทำการทนายความด้วยนั้นย่อมถือว่าเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าใช้เป็นที่อยู่อาศัยและสำนักงานทนายความ คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเพื่ออยู่อาศัยและเป็นที่ทำการทนายความด้วยนั้นย่อมถือว่าเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้: หน้าที่ผู้ซื้อก่อนส่งมอบ และผลของการผิดสัญญา
ในสัญญาบ่งว่าก่อนที่จำเลยจะส่งไม้ลงเรือเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องไปทำการรังวัดตรวจไม้กำหนดเครื่องหมายก่อน.เมื่อโจทก์ไม่อาจพิสูจน์ว่าตนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วและจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่กลับปรากฏว่าจำเลยเตรียมเลื่อยไม้ไว้ตามสัญญาแล้วหากโจทก์ไม่ส่งคนไปวัดไม้จนกระทั่งจำเลยได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำแล้วโจทก์ยังมีหนังสือขอความเห็นใจให้จำเลยผ่อนผันยืดอายุสัญญาต่อไปอีกเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเองจำเลยจึงไม่ชำระหนี้ เป็นพฤติการณืที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหาตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
ม.204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม ม.387.
ม.204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม ม.387.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายไม้: หน้าที่ของคู่สัญญาและการพิสูจน์การปฏิบัติตามสัญญา
ในสัญญาบ่งว่าก่อนที่จำเลยจะส่งไม้ลงเรือเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องไปทำการวัดตรวจไม้กำหนดเครื่องหมายก่อนเมื่อโจทก์ไม่อาจพิสูจน์ว่าตนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วและจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่กลับปรากฏว่าจำเลยเตรียมเลื่อยไม้ไว้ตามสัญญาแล้วหากโจทก์ไม่ส่งคนไปวัดไม้จนกระทั่งจำเลยได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำแล้วโจทก์ยังมีหนังสือขอความเห็นใจให้จำเลยผ่อนผันยืดอายุสัญญาต่อไปอีกเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเองจำเลยจึงไม่ชำระหนี้ เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหาตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387