พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นศาลยกฟ้อง
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ป.พ.พ. ม.1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า "ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ" ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.1529(4).
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า "ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ" ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.1529(4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขฟ้องไม่รับ
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า 'ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ 'ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา1529(4)
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า 'ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ 'ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา1529(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันภัยรถยนต์: การซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ ผู้รับประกันต้องรับรถและชำระค่าสินไหมทดแทน
รับประกันภัยรถยนต์แบบประกันสิ้นเชิง โดยตีราคาไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งเมื่อรถยนต์ประสพอุปัทวเหตุเสียหายยับเยินไม่อาจซ่อมให้คืนใช้การได้ดีดังเดิมผู้รับประกันต้องรับเอารถไว้ และใช้ราคาตามจำนวนเงินที่เอาประกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์: การกระทำเข้าข่ายทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ แม้จะมีการต่อสู้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปทำเจ้าทุกข์แล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไปเจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วยมีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยใช้สาตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์และการทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปหาเจ้าทุกแล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไป เจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วย มีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยให้ศา-ตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการบังคับคดีต้องยื่นคำร้องก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น หากเลยกำหนดสิทธิขาด
คำร้องขอให้ยกเลิกเพิกถอนกระบวนวิธีการบังคับคดีที่ดำเนินการฝ่าฝืนกฎหมายตาม มาตรา 296 วรรคสอง นั้นจะต้องยื่นเสียก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงหาใช่ก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงตลอดทั้งคดีไม่
เมื่อการดำเนินการบังคับคดีเสร็จไปแล้วตั้งแต่ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้มิได้ยื่นคำร้องไว้ก่อนแต่จะมาร้องขอให้ยกเลิกเพิกถอนหลังการบังคับคดีหาได้ไม่
เมื่อการดำเนินการบังคับคดีเสร็จไปแล้วตั้งแต่ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้มิได้ยื่นคำร้องไว้ก่อนแต่จะมาร้องขอให้ยกเลิกเพิกถอนหลังการบังคับคดีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะ จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดและขออนุญาตหรือไม่
การฟ้องขอให้ลงโทษตามก.ม.อาญา ม.336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม.มิฉนันย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะและการพิสูจน์ความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเป็นต้องบรรยายฟ้องและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
การฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายมิฉะนั้นย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา - พยานหลักฐานไม่ชัดเจน
จำเลยเป็นผู้แทงผู้ตาย แต่จับอาวุธที่จำเลยใช้แทงไม่ได้ พยานโจทก์ก็ไม่สามารถแลเห็นได้ว่าที่ปลายไม้ที่จำเลยใช้แทงผู้ตายนั้นเป็นอะไร คงเห็นแต่ไม้ยาวสามศอกเศษจำเลยแทงทีเดียวแล้ววิ่งหนี พยานโจทก์ส่งไฟมาทางจำเลย ๆ ก็แทงไปดังนี้แสงไฟที่สองมาที่จำเลยนั้นไม่ทำให้จำเลยเห็นตัวผู้ตายถนัดเพื่อเลือกแทงที่สำคัญ ๆ เพราะผู้ตายห่างจำเลยไปเกือบวา ลักษณะการแทงของจำเลยดังนี้เป็นแต่ขอให้ถูกผู้ตายเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหมายแห่งใดแห่งหนึ่ง จึงเห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ม.251 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปี
โจทก์อุทธรณ์ชอให้ลงโทษตาม ม.249
จำเลยอุทธรณ์ ชอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยผิดตาม ม.249 ให้จำคุกจำเลยไว้ 15 ปี ให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ทำผิด
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้แทงผู้ตาย ส่วนจำเลยจะแทงด้วยเจตนาหรือไม่นั้นเห็นว่าคดีนี้จับศาตราวุธที่จำเลยใช้แทงไม่ได้ พยานโจทก์ไม่สามารถแลเห็นได้ว่าที่ปลายไม้ที่จำเลยให้แทงผู้ตายนั้นเป็นอะไร คงเห็นแต่ไม้ยาวสามศอกเศษ จำเลยแทงทีเดียวแล้ววิ่งหนี พยานโจทก์ส่องไฟมาทางจำเลย ๆ ก็แทงไป แสงไฟที่ส่องมาที่จำเลยนั้นไม่ทำให้จำเลยเห็นตัวผู้ตายถนันเพื่อเลือกแทงที่สำคัญเพราะผู้ตายห่างจำเลยไปเกือบวา ลัษณะการแทงจำเลยดังนี้เป็นแต่ขอให้ถูกผู้ตายเท่านั้น ไม่มุ่งหมายแห่งใดแห่งหนึ่ง จึงเห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามก.ม.อาญา ม.251 ให้จำคุก 7 ปี
โจทก์อุทธรณ์ชอให้ลงโทษตาม ม.249
จำเลยอุทธรณ์ ชอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยผิดตาม ม.249 ให้จำคุกจำเลยไว้ 15 ปี ให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ทำผิด
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้แทงผู้ตาย ส่วนจำเลยจะแทงด้วยเจตนาหรือไม่นั้นเห็นว่าคดีนี้จับศาตราวุธที่จำเลยใช้แทงไม่ได้ พยานโจทก์ไม่สามารถแลเห็นได้ว่าที่ปลายไม้ที่จำเลยให้แทงผู้ตายนั้นเป็นอะไร คงเห็นแต่ไม้ยาวสามศอกเศษ จำเลยแทงทีเดียวแล้ววิ่งหนี พยานโจทก์ส่องไฟมาทางจำเลย ๆ ก็แทงไป แสงไฟที่ส่องมาที่จำเลยนั้นไม่ทำให้จำเลยเห็นตัวผู้ตายถนันเพื่อเลือกแทงที่สำคัญเพราะผู้ตายห่างจำเลยไปเกือบวา ลัษณะการแทงจำเลยดังนี้เป็นแต่ขอให้ถูกผู้ตายเท่านั้น ไม่มุ่งหมายแห่งใดแห่งหนึ่ง จึงเห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามก.ม.อาญา ม.251 ให้จำคุก 7 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย: พฤติการณ์และหลักฐานที่ไม่ชัดเจนบ่งชี้ถึงความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเป็นผู้แทงผู้ตาย แต่จับอาวุธที่จำเลยใช้แทงไม่ได้พยานโจทก์ก็ไม่สามารถแลเห็นได้ว่าที่ปลายไม้ที่จำเลยใช้แทงผู้ตายนั้นเป็นอะไร คงเห็นแต่ไม้ยาวสามศอกเศษจำเลยแทงทีเดียวแล้ววิ่งหนีพยานโจทก์ส่องไปมาทางจำเลยๆ ก็แทงไปดังนี้แสงไฟที่ส่องมาที่จำเลยนั้นไม่ทำให้จำเลยเห็นตัวผู้ตายถนัดเพื่อเลือกแทงที่สำคัญๆเพราะผู้ตายห่างจำเลยไปเกือบวา ลักษณะการแทงของจำเลยดังนี้เป็นแต่ขอให้ถูกผู้ตายเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหมายแห่งใดแห่งหนึ่งจึงเห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม มาตรา251