คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลบังคับของประกาศทางปกครองหลังข้าราชการผู้ลงนามย้าย: ประกาศยังใช้บังคับได้
แม้ข้าหลวงประจำจังหวัดผู้ลงชื่อในประกาศควบคุมฯ จะย้ายไปรับราชการที่อื่น ประกาศนั้นก็ไม่ยกเลิก ยังใช้บังคับได้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของตัวแทนช่วง และอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่ใช้บังคับตามกฎหมาย
ตัวการมอบอำนาจให้ตัวแทนทำการแทนในกิจการต่างๆ รวมทั้งให้ฟ้องคดีได้ และให้ตั้งตัวแทนช่วงได้ ตัวแทนตั้งตัวแทนช่วงต่อไปให้มีอำนาจกระทำเหมือนอย่างที่ตัวแทนได้รับมอบอำนาจมา แม้จะไม่ระบุว่าให้ฟ้องคดีได้ตัวแทนช่วงก็ฟ้องคดีแทนตัวการได้
อัตราแลกเปลี่ยนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 196 หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนเสรี ซึ่งอาจไม่ตรงกับอัตราของรัฐบาลก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการผัดชำระหนี้: ประเด็นการยกเหตุไม่ชัดเจนและผลของการสงวนสิทธิค่าเสียหาย
ในคำให้การจำเลยต่อสู้ว่ากรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนบริษัทโจทก์และสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ แต่ไม่ได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างว่าไม่มีอำนาจฟ้องแทน และสัญญาไม่ผูกพันนั้นเพราะเหตุใด ดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบ
เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ส่งแร่ตามที่ตกลงขอผัดส่งกันในเดือนมีนาคมแล้ว อีก 4-5 เดือนต่อมาโจทก์มีหนังสือเตือนให้จำเลยส่งภายใน 7 วันและกล่าวว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่เดือนมีนาคมแม้จำเลยจะขอผัดต่อไปอีกกี่ครั้งก็ตามเมื่อโจทก์ได้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคมตลอดมาทุกครั้งดังนี้ต้องถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่นั้นมา และค่าเสียหายจะต้องคำนวณตามราคาแร่ในเดือนนั้นเป็นหลัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและผลของการผ่อนเวลาชำระหนี้: การสงวนสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายย่อมไม่ถือเป็นการผ่อนเวลา
ในคำให้การจำเลยต่อสู้ว่ากรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนบริษัทโจทก์และสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ แต่ไม่ได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างว่าไม่มีอำนาจฟ้องแทน และสัญญาไม่ผูกพันนั้นเพราะเหตุใดดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบ
เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ส่งแร่ตามที่ตกลงขอผัดส่งกันในเดือนมีนาคมแล้วอีก 4-5 เดือนต่อมาโจทก์มีหนังสือเดือนให้จำเลยส่งภายใน 7 วันและกล่าวว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่เดือนมีนาคม แม้จำเลยจะขอผัดต่อไปอีกกี่ครั้งก็ตามเมื่อโจทก์ได้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคมตลอดมาทุกครั้งดังนี้ต้องถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่นั้นมาและค่าเสียหายจะต้องคำนวนตามราคาแร่ในเดือนนั้นเป็นหลัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่เจ้าพนักงานประเมินภาษีโรงค้า, สถานะสถานีบ่มใบยา, การยึดทรัพย์โดยไม่มีอำนาจ
เข้าของสถานีบ่มใบยาถูกเจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีร้านค้าตามประมวลรัษฎากรได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามลำดับเจ้าพนักงานคงยืนยันว่าเป็นร้านค้าและได้ทำการยึดทรัพย์เพื่อเสียภาษีเจ้าของสถานีบ่อใบยาจึงเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าพนักงานขอให้ถอนการยึดและขอให้ศาลแสดงว่าโรงบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้า ดังนี้ คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาเป็นร้านค้าใช่หรือไม่ ศาลจะสั่งงดสืบพะยานแล้ววินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'โรงบ่มใบยา' เป็น 'ร้านค้า' ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่? ศาลต้องพิจารณาเพื่อตัดสินการยึดทรัพย์
เจ้าของสถานีบ่มใบยาถูกเจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีร้านค้าตามประมวลรัษฎากร ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามลำดับ เจ้าพนักงานคงยืนยันว่าเป็นร้านค้าและได้ทำการยึดทรัพย์เพื่อเสียภาษี เจ้าของสถานีบ่มใบยาจึงเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าพนักงานขอให้ถอนการยึดและขอให้ศาลแสดงว่าโรงบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้า ดังนี้ คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาเป็นร้านค้าใช่หรือไม่ ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: ความผิดฐานสมคบกันทำร้ายร่างกายโดยไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้เริ่ม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสองฝ่ายแต่ละฝ่ายได้สมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จำเลยทุกคนรับตามฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยทุกคนเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ปรากฎว่า ใครทำใครความผิดจำเลยจึงต้องด้วยกฎหมายอาญา ม.258

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: ความผิดตามมาตรา 258 อาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสองฝ่ายแต่ละฝ่ายได้สมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จำเลยทุกคนรับตามฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยทุกคนเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ปรากฏว่า ใครทำใครความผิดจำเลยจึงต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะใบเหยียบย่ำ
โจทก์ฟ้องว่า ผู้มีชื่อได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำทับที่ของโจทก์ และผู้นั้นได้ขายที่ให้แก่จำเลย จึงขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายและแสดงว่าที่เป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลจะวินิจฉัยแต่เพียงว่าโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีนับแต่เจ้าหน้าที่ออกใบเหยียบย่ำ หาชอบไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะใบเหยียบย่ำ
โจทก์ฟ้องว่า ผู้มีชื่อได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำทับที่ของโจทก์และผู้นับได้ขายที่ให้แก่จำเลย จึงขอให้เพิกถอนสัญญา ซื้อขายและแสดงว่าที่เป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลจะวินิจฉัยแต่เพียงว่าโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้าหน้าที่ออกใบเหยียบย่ำ หาชอบไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆ
of 172