พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: การฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันรู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำละเมิด ทำให้คดีขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องบรรยายกล่าวว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวัง มิได้ปฏิบัติตามระเบียบหน้าที่และคำสั่ง อันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยยักยอกเงินของทางราชการไปทำให้โจทก์เสียหาย อันเป็นการแสดงชัดว่า โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420 ฉะนั้น เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยภายหลัง 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ละเมิดแล้ว ก็ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: การฟ้องคดีล่าช้าเกิน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำ
โจทย์ฟ้องบรรยายกล่าวว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวัง มิได้ปฏิบัติตามระเบียบหน้าที่และคำสั่ง อันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยยักยอกเงินของทางราชการไป ทำให้โจทก์เสียหาย อันเป็นการแสดงชัดว่า โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 420 ฉะนั้นเมื่อปรากฎว่าโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยภายหลัง 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ละเมิดแล้ว ก็ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายต่อเจ้าพนักงาน หากครอบครองเกิน 10 ปี
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงานแต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่มีการโอนตามกฎหมาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงาน แต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรและการกระทำพยานเท็จ แม้ไม่มีการปลอมแปลงเอกสาร
เช่าบ้านเขาอยู่โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันไว้ครั้นเจ้าของบ้านขายบ้านนั้นให้ผู้อื่นไปผู้ซื้อคนใหม่ให้ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าผู้เช่าก็ไม่ยอมออกผู้ซื้อจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้สมคบกับเจ้าของบ้านคนเดิมทำหนังสือสัญญาเช่าขึ้น 1 ฉบับแล้วผู้เช่าเอามาอ้างเป็นพยานต่อศาลดังนี้ ถือว่ายังไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือแต่เป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 157
(อ้างฎีกาที่ 654/2480)
(อ้างฎีกาที่ 654/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของกรรมการและผู้รับเงินค่าทำศพที่ขัดต่อข้อบังคับสมาคม
กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสั่งจ่ายเงินค่าทำศพให้แก่ทายาทของผู้ตายไป โดยฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมที่ว่าให้จ่ายเงินให้ผู้จัดการอันสมควรของสมาชิกผู้วายชนม์ ผู้จัดการศพของผู้วายชนม์จึงมาฟ้องสมาคมเรียกเงินค่าทำศพจนศาลพิพากษาให้สมาคมรับผิดจ่ายเงินค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของผู้วายชนม์ไปแล้ว สมาคมย่อมมีสิทธิฟ้องกรรมการที่เกี่ยวข้องในการสั่งจ่ายเงินค่าทำศพดังกล่าวแก่ทายาทไป และฟ้องผู้รับเงิน หรือทายาทของผู้รับเงินให้ร่วมกันรับผิดคืนเงินที่รับไปแก่สมาคมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสระหว่างสามีภริยาที่แยกกันอยู่: ที่ดินที่ได้มาระหว่างร้างกันไม่ใช่สินสมรส
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ5ทรัพย์ที่ภริยาได้มาระหว่างร้างกันแม้ได้มาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว ก็ไม่เป็นสินสมรส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาต้องหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญา จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทนายจำเลยจะยื่นฎีกา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการจ่ายเงินชดเชย แม้ผิดกำหนดออกจากที่เช่าก็ไม่กระทบสิทธิรับเงินตามสัญญา
สัญญามีว่า โจทก์ยอมออกจากที่เช่าภายใน 31 สิงหาคมจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 50,000 บาท โจทก์ออกจากที่เช่าช้ากว่า 31 สิงหาคม ดังนี้ ไม่เป็นเหตุให้จำเลยงดไม่จ่ายเงินตามสัญญาการออกจากที่เช่าผิดกำหนดอาจเป็นผิดสัญญาที่จะต้องยกขึ้นเป็นข้ออ้างอีกส่วนหนึ่งถ้าไม่มีประเด็นไปถึงข้อนี้ จำเลยต้องจ่ายเงินให้โจทก์ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาคำสั่งศาลและการยื่นอุทธรณ์: คำสั่งที่ยังไม่ได้อ่านมีผลเมื่อใด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย เขียนคำสั่งลงวันที่ 8 มิ.ย. 42 แต่ไม่ปรากฎว่าศาลได้นำคำสั่งนั้นออกอ่านหรือเพื่ออ่าน และไม่ปรากฎว่าได้มีการจดแจ้งว่าได้มีการอ่านคำสั่งนั้นในรายงานใด ๆ ในวันที่ 8 นั้นเลย จำเลยเพิ่งเซ็นทราบคำสั่งนั้นในวันที่ 9 ดังนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมือ่วันที่ 9.
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ป.ม.วิ.แพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้น จำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยืนอุทธรณ์ภายใน 10 วัน หาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามป.ม.วิ.แพ่งม.236
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ป.ม.วิ.แพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้น จำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยืนอุทธรณ์ภายใน 10 วัน หาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามป.ม.วิ.แพ่งม.236