คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาคำสั่งศาลและการยื่นอุทธรณ์: คำสั่งที่ยังไม่ได้อ่านมีผลเมื่อใด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย เขียนคำสั่งลงวันที่ 8 มิ.ย. 42 แต่ไม่ปรากฎว่าศาลได้นำคำสั่งนั้นออกอ่านหรือเพื่ออ่าน และไม่ปรากฎว่าได้มีการจดแจ้งว่าได้มีการอ่านคำสั่งนั้นในรายงานใด ๆ ในวันที่ 8 นั้นเลย จำเลยเพิ่งเซ็นทราบคำสั่งนั้นในวันที่ 9 ดังนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมือ่วันที่ 9.
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ป.ม.วิ.แพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้น จำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยืนอุทธรณ์ภายใน 10 วัน หาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามป.ม.วิ.แพ่งม.236

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม: การใช้คูเก็บเรือ ไม่ใช่ทางสัญจร จึงไม่เข้าข่ายภาระจำยอมตามกฎหมาย
โจทย์จำเลยปีที่ดินอยู่ติดคลองด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสะดวก แต่โจทย์ใช้คูซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็ฯที่เก็บเรือของโจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหน แม้จะมีการเอาเรือเข้าออกคู ก็หาใช่เป็ฯการไปมาไม่ เพราะเป็ฯเรื่องเอาเรือเข้าเก็บและเอออก-ใช้ จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภาระจำยอมตามที่บัญญัติไว้ใน ป.ม. แพ่งฯ มาตรา 1387 เจ้าของคูย่อมปิดกั้นคูนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมทางน้ำ: การใช้คูเก็บเรือ ไม่ถือเป็นทางสัญจร จึงไม่เข้าข่ายภารจำยอม
โจทก์จำเลยมีที่ดินอยู่ติดคลองด้วยกันทั้งสองฝ่ายซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสดวกแต่โจทก์ใช้คูซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็นที่เก็บเรือของโจทก์ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหนแม้จะมีการเอาเรือเข้าออกคู ก็หาใช่เป็นการไปมาไม่ เพราะเป็นเรื่องเอาเรือเข้าเก็บ และเอาออกใช้ จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภารจำยอมตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1387 เจ้าของคูย่อมปิดกั้นคูนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนาย: การถอนทนายความไม่ปลดเปลื้องภาระการจ่ายค่าจ้าง
จำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความว่าคดีให้จำเลย ครั้นคดีอยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ดังนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนทนายไม่ปลดเปลื้องความผูกพันตามสัญญาจ้างว่าความ ค่าจ้างยังคงมีผล
จำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความว่าคดีให้จำเลย ครั้นคดีอยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ดังนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาอาญา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเป็นสำคัญ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 บัญญัติให้ฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ฉะนั้นเมื่อตัวจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้โจทก์และทนายจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วทนายจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาอาญา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเป็นสำคัญ
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 216 บัญญัติให้ฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ฉะนั้นเมื่อตัวจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้โจทก์และทนายจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว หมายจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกจากรอการลงอาญาเป็นไม่รอการลงอาญาโดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก จำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ในรอการลงอาญาไว้ภายใน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ดังนี้ เป็นการแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษจำคุกและผลของการไม่รอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ให้รอการลงอาญาไว้ภายใน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนโดยไม่รอการลงอาญา ดังนี้ เป็นการแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อจับกุมและป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต ศาลยกเว้นโทษฐานฆ่าคนตาย
มีคนเอาปืนยิงมารดาของเพื่อน จึงจะเข้าจับคนร้าย แต่คนร้ายกลับชักมีดทำร้ายผู้จับ ผู้จับจึงกอดปล้ำต่อสู้เมื่อแย่งมีดได้ก็แทงผู้ร้ายไป 1 ที ผู้ร้ายล้มลงก็เอาเชือกมัด ดังนี้ แม้ผู้ร้ายจะถึงตายก็ถือได้ว่ากระทำการจับกุมผู้ร้ายและป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 50
of 172