คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อจับกุมและป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต ศาลยกเว้นโทษฐานฆ่าคนตาย
มีคนเอาปืนยิงมารดาของเพื่อน จึงจะเข้าจับคนร้าย แต่คนร้ายกลับชักมีดทำร้ายผู้จับ ผู้จับจึงกอดปล้ำต่อสู้เมื่อแย่งมีดได้ก็แทงผู้ร้ายไป 1 ที ผู้ร้ายล้มลงก็เอาเชือกมัด ดังนี้ แม้ผู้ร้ายจะถึงตายก็ถือได้ว่ากระทำการจับกุมผู้ร้ายและป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างนอกเหนือหน้าที่ความรับผิด
ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งนายจ้างลงรับประทานอาหาร แล้วลูกจ้างขับรถยนต์นั้นไปที่อื่นโดยพลการมิได้รับความยินยอมจากนายจ้าง แล้วไปชนคนตาย ดังนี้นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่าและการสละเจตนาครอบครอง
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ซึ่งโจทก์ได้สิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากผู้มีชื่อ และโจทก์ได้เข้าครอบครองในที่นั้นแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยได้เข้าไปบุกร้างถางป่าตรงที่พิพาททำมรรคผล กับปลูกเรือนอยู่ และทำการล้อมรั้วเป็นเขตคันทั้ง 4 ด้าน มาจนบัดนี้เป็นเวลาประมาณ 30 ปีแล้วนั้น จะถือว่าคำให้การจำเลยเช่นนี้เป็นคำให้การที่ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนหาได้ไม่ เพราะมิได้แสดงไว้โดยชัดแจ้งในคำให้การจำเลยตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 ฉะนั้นจึงต้องถือว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า
ขายที่ดินมือเปล่าให้แก่เขาไปโดยรับเงินค่าที่ดินครบถ้วนแล้วและมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้วก็ย่อมถือได้ว่าผู้ขายเจตนาสละการครอบครอง และไม่ยึดถือที่ดินต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า การซื้อขายที่ดิน และสิทธิการครอบครอง
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ซึ่งโจทก์ได้สิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากผู้มีชื่อ และโจทก์ได้เข้าครอบครองในที่นั้นแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยได้เข้าไปบุกร้างถางป่า ตรงที่พิพาททำมรรคผล กับปลูกเรือนอยู่ และทำการล้อมรั้วเป็นเขตต์คันทั้ง 4 ด้าน มาจนบัดนี้เป็นเวลาประมาณ 30 ปีแล้วนั้นจะถือว่าคำให้การจำเลยเช่นนี้เป็นคำให้การที่ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนหาได้ไม่ เพราะมิได้แสดงไว้โดยชัดแจ้งในคำให้การจำเลย ตามนัยแห่ง ป.วิ.แพ่ง มาตรา 177 ฉะนั้นจึงต้องถือว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า
ขายที่ดินมือเปล่าให้แก่เขาไปโดยรับเงินค่าที่ดินครบถ้วนแล้วและมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้วก็ย่อมถือได้ว่าผู้ขายเจตนาสละการครอบครอง และไม่ยึดถือที่ดินต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการรักษาเงินต้องรับผิดเมื่อมีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อเท่านั้น การเป็นกรรมการอย่างเดียวไม่เพียงพอ
เทศมนตรีและปลัดเทศบาลเป็นกรรมการรักษาเงินร่วมกับสมุหบัญชีเพียงเท่านี้ยังไม่ต้องรับผิดในการที่เงินขาดจำนวนไปเพราะสมุหบัญชียักยอก
สมุหบัญชีไม่ลงบัญชีเงิน ยักยอกไว้เสีย แม้กรรมการรักษาเงินจะดูบัญชีก็ไม่เห็นอะไร การที่กรรมการไม่ดูบัญชี ไม่เป็นเหตุให้ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการรับฟ้องและลงโทษอาญา: การรับฟ้องตามมาตรา 118 รวมถึงมาตรา 158 และการลงโทษตามบทที่มีอัตราโทษหนัก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118,158,268, 270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา118 ขึ้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการประทับฟ้องและการลงโทษตามบทแจ้งความเท็จ: มาตรา 118 และ 158
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 118,158,268,270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา 118 ขึ้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญายอมความรื้ออาคาร: ไม่ผูกพันผู้เช่า, คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า, เจ้าหน้าที่ยังมีอำนาจตามกฎหมาย
การที่เจ้าของที่ดินและอาคารได้รับคำสั่งจากเทศบาลให้รื้อและเลิกใช้อาคาร และอัยการได้ฟ้องเจ้าของที่ดินเป็นคดีให้รื้อและเลิกใช้อาคาร เจ้าของที่ดินจึงทำยอมไว้ต่อศาลว่า ตนและบุคคลที่ได้รับสิทธิจากตนยอมรื้อและยอมเลิกใช้อาคาร ดังนี้ สัญญายอมความนี้ไม่ผูกพันผู้เช่าอาคารอยู่อาศัย ผู้เช่าอาคารอยู่อาศัยยังคงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯเป็นปกติ แต่ถ้าอาคารหมดอายุจะเป็นภัย เจ้าหน้าที่ก็ยังมีอำนาจตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5-6/96)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญายอมความรื้ออาคารไม่ผูกพันผู้เช่าที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การที่เจ้าของที่ดินและอาคารได้รับคำสั่งจากเทศบาลให้รื้อและเลิกใช้อาคาร และอัยการได้ฟ้องเจ้าของที่ดินเป็นคดีให้รื้อและเลิกใช้อาคาร เจ้าของที่ดินทำยอมไว้ต่อศาลว่า ตนและบุคคลที่ได้รับสิทธิจากตนยอมรื้อและยอมเลิกใช้อาคาร ดังนี้สัญญายอมความนี้ไม่ผูกพันผู้เช่าอาคารอยู่อาศัย ผู้เช่าอาคารอยู่อาศัยยังคงได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เป็นปกติ แต่ถ้าอาคารหมดอายุจะเป็นภัย เจ้าหน้าที่ก็ยังมีอำนาจตามพ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194-1195/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับรองหลักทรัพย์ประกันตัว และการบังคับคดีเมื่อหลักทรัพย์ไม่เป็นความจริง
ศาลชั้นต้นให้ ด. รับรองว่านายประกันจำเลยมีทรัพย์จริงตามหลักทรัพย์ที่ยื่นต่อศาล ความรับผิดของ ด. มีอย่างไรศาลอาจชี้ขาดในคดีเดิมได้โดยไม่ต้องฟ้องใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ต่อเมื่อทรัพย์ของนายประกันไม่มีตามคำรับรองของ ด. จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งในเรื่องความรับผิดของด.ต่อไป ดังนี้ยังไม่มีข้อใดเสียหายแก่ ด.ด. ฎีกาไม่ได้
of 172