พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดกรอบเวลาเกิดเหตุในคดีอาญา: ฟ้องระบุช่วงวัน, เหตุเกิดภายในช่วงนั้น แม้ไม่ตรงวันเป๊ะ ศาลไม่ยกฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยปล่อยช้างเข้าไปในเรือกสวนไร่นาของผู้เสียหาย ฯลฯ เมื่อระหว่างวันที่ 18 และ 19 เวลากลางวันและ กลางคืน แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าเหตุเกิดเมื่อคืนวันขึ้น 15 ค่ำ จนเช้าวันแรม 1 ค่ำ ซึ่งตรงกับวันที่ 17 - 18 ก็ ปรากฎว่า ตรงกับฟ้องของโจทก์ส่วนหนึ่งแล้ว จะฟังว่าข้อเท็จจริงต่างกับคำฟ้องอันจะเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุด ห้ามฎีกา
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ ถือเป็นที่สุดตามกฎหมาย ไม่สามารถฎีกาได้
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้น เมื่อ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่ สุดตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 236 คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนและการชำระหนี้เงินค่าหุ้น โดยประเด็นหลักอยู่ที่การชำระเงินครบถ้วนหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน10,000 บาทต่อมาสามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้และโจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้นจำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1,500 บาท ที่เหลือ 8,500 บาทขอผัดชำระวันหลังแล้วในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1,500 บาทจริงเพราะสำคัญผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อที่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือไม่ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงว่าจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้นข้อที่จำเลยต่อสู้ว่ายอมให้โจทก์ถอนหุ้นโดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้องพิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้โจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของหุ้นส่วน
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1,500 บาทจริงเพราะสำคัญผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อที่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือไม่ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงว่าจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้นข้อที่จำเลยต่อสู้ว่ายอมให้โจทก์ถอนหุ้นโดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้องพิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้โจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของหุ้นส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทหุ้นส่วนจำกัด: การชำระหนี้ค่าหุ้นและการถอนหุ้นโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนอื่น
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน 10000 บาท ต่อมาสามีดจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้ และดจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้น จำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1500 บาท ที่เหลือ 8500 บาท ขอผัดชำระวันหลังแล้ว ในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ.
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1500 บาทจริง เพราะสำคัญ ผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อท่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือ ไม่ ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้น ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า ยอมให้โจทก์ถอนหุ้น โดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้อง พิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้ดจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของ หุ้นส่วน./
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1500 บาทจริง เพราะสำคัญ ผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อท่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือ ไม่ ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้น ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า ยอมให้โจทก์ถอนหุ้น โดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้อง พิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้ดจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของ หุ้นส่วน./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องทำร้ายร่างกาย: ศาลใช้บทบัญญัติมาตรา 258 แม้ฟ้องไม่ระบุ หากพิจารณาได้ความจริง
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า "จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้า
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงตามมาตราที่ใช้ลงโทษ
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า 'จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1-2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสาหัสจำเลยที่ 3-4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1-2ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ' ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา254,256 นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258 ด้วย แม้ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรโดยมีข้อแลกเปลี่ยนเงินตรา ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา จึงไม่สามารถเพิกถอนได้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตร แต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่น บุตร จึงหา เงินตามจำนวนั้นให้มารดาไป แต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้มารดาจึงทำโอนยกที่นา นั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปี มารดาก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย แก่บุตรเลย ดังนี้ ไม่เป็นการกู้จริงจัง วินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณ ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินโดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนเงิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาจึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นการเพิกถอนการให้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตรแต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่นบุตร จึงหาเงินตามจำนวนนั้นให้มารดาไปแต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้ มารดาจึงทำโอนยกที่นานั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปีมารดาก็ไ่ได้ให้ดอกเบี้ยแก่บุตรเลย ดังนี้ไม่เป็นการกู้จริงจังวินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรโดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายด้วยความสมัครใจ ไม่อ้างป้องกันหรือยั่วโทสะได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่ได้./