คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการลดโทษผู้กระทำผิดในฐานะเยาวชน
การวินิจฉัยว่า จำเลยผู้มีอายุ 19 ปี จะควรได้รับความปราณีฐานยังเป็นเด็กนั้น ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลเมื่อศาลเห็นไม่ควรลดโทษให้จำเลย ก็ไม่นำ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2494 มาใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลยพินิจศาลในการลดโทษผู้กระทำผิดในวัยเยาว์
การวินิจฉัยว่า จำเลยผู้มีอายุ 19 ปี จะควรได้รับความปราณีฐานยังเป็นเด็กนั้น ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาล
เมื่อศาลเห็นไม่ควรลดโทษให้จำเลย ก็ไม่นำ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา (ฉะบับที่ 14) พ.ศ. 2494
มาใช้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างสัญญาที่ทำระหว่างสามีภริยา และข้อยกเว้นเรื่องอายุความ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1461 ระบุไว้ว่าสัญญาใดที่สามีภริยาทำไว้ต่อกันในระหว่างเป็นสามีภริยานั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกล้างเสียก็ได้กฎหมายระบุคำว่าสัญญาที่ทำกันไว้ลอยๆ จึงย่อมมีความหมายว่าสัญญาใดๆ ที่ทำไว้ต่อกันไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่จะต้องปฏิบัติกันต่อไปอีกหรือไม่ ก็ย่อมอยู่ในขอบข่ายที่จะบอกล้างได้ตามความในมาตรา 1461 ได้ทั้งสิ้น
และตามมาตรา 1461 นี้ ระบุให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกล้างสัญญาที่ทำไว้ต่อกันได้ในเวลาใดๆ ในระหว่างที่เป็นสามีภรรยากันอยู่หรือภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันขาดจากสามีภริยากันฉะนั้นแม้จะทำสัญญายกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่กันเกิน 10 ปีแล้ว แต่มาบอกล้างสัญญานั้นเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างสัญญาที่ทำระหว่างสามีภริยาตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1461 ไม่จำกัดประเภทสัญญาและมีระยะเวลาฟ้องร้องได้ภายใน 1 ปีหลังการสิ้นสุดการสมรส
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1461 ระบุไว้ว่า สัญญาใดที่สามีภริยาทำไว้ต่อกันในระหว่างเป็นสามรีภริยานั้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
จะบอกล้างเสียก็ได้ กฎหมายระบุคำว่าสัญญาที่ทำกันไว้ลอย ๆ จึงย่อมมีความหมายว่า สัญญาใด ๆ ที่ทำไว้ต่อกันไม่ว่า
จะเป็นสัญญาที่จะต้องปฏิบัติกันต่อไปอีกหรือไม่ ก็ย่อมอยู่ในขอบข่ายที่จะบอกล้างได้ตามความในมาตรา 1461 ได้
ทั้งสิ้น.
และตามมาตรา 1461 นี้ ระบุให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกล้างสัญญาที่ทำไว้ต่อกันได้ในเวลาใด ๆ ในระหว่างที่เป็นสามีภรรยากันอยู่ หรือภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันขาดจากสามีภริยากัน ฉะนั้นแม้จะทำาสัญญา
ยกกรรมสิทธิที่ดินให้แก่กันเกิน 10 ปีแล้ว แต่มาบอกล้างสัญญานั้นเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันหย่าขาดจาก
การเป็นสามีภริยากัน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าคุ้มครองครอบครัวผู้เช่า แม้ผู้เช่ามีที่อยู่อื่น
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองผู้เช่าตลอดจนถึงครอบครัวของผู้เช่าด้วย.
เช่าห้องให้ภริยาและบุตรอยู่เป็นที่อาศัย แม้ผู้เช่าจะมีภริยาอีกและอยู่อีกบ้านหนึ่งก็ดี ภริยาและบุตรของผู้เช่าที่อยู่ ในห้องเช่า ก็ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะเป็นครอบครัวของผู้เช่า และอยู่ในนามของ ผู้เช่าและโดยภาระของผู้เช่าโดยตรง, ถือได้ว่าผู้เช่าได้อยู่ในห้อง รายนี้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คุ้มครองครอบครัวผู้เช่าภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้ผู้เช่ามีครอบครัวอื่น
พระราบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองผู้เช่าตลอดจนถึงครอบครัวของผู้เช่าด้วย
เช่าห้องให้ภริยาและบุตรอยู่เป็นที่อาศัยแม้ผู้เช่าจะมีภริยาอีกและอยู่อีกบ้านหนึ่งก็ดีภริยาและบุตรของผู้เช่าที่อยู่ในห้องเช่า ก็ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะเป็นครอบครัวของผู้เช่า และอยู่ในนามของผู้เช่าและโดยภาระของผู้เช่าโดยตรงถือได้ว่าผู้เช่าได้อยู่ในห้อง รายนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสุราผิดกฎหมาย: ศาลไม่ริบสุราเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือและผู้ซื้อไม่มีส่วนรู้เห็น
ขายสุราให้ผู้อื่นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 มาตรา
40 นั้น เมื่อปรากฎว่า สุราของกลางได้ขายและกรรมสิทธิตกเป็นของผู้ซื้อแล้ว ทั้งผู้ซื้อก็ไม่ได้รู้เห็นในการกระทำผิด
ของผู้ขายแล้ว ศาลก็ย่อมไม่ริบสุราของกลางนั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสุราผิดกฎหมาย และการไม่ริบสุราเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
ขายสุราให้ผู้อื่นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา 2493มาตรา 40 นั้นเมื่อปรากฏว่า สุราของกลางได้ขายและกรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อแล้ว ทั้งผู้ซื้อก็ไม่ได้รู้เห็นในการกระทำผิดของผู้ขายแล้วศาลก็ย่อมไม่ริบสุราของกลางนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีโรงแรมภัตตาคาร: การคำนวณจากค่าเช่าที่พัก และข้อยกเว้นการเก็บภาษีกรณีไม่คิดค่าเช่า
การจัดเก็บภาษีโรงแรมภัตตาคารและการชำระภาษีตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2489 นั้น ท่านให้เรียกเก็บหรือชำระจากค่าเช่าที่พักในอัตราร้อยละ 20 ของเงินที่โรงแรมภัตตาคารเรียกเก็บเป็นค่าเช่าที่พักแล้วปิดอากรแสตมป์เท่าจำนวนภาษีฉะนั้นการพักโดยมิได้เสียค่าเช่าที่พักก็ย่อมไม่มีจำนวนเงินที่จะออกใบรับและคำนวณค่าภาษีที่จะปิดอากรแสตมป์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีโรงแรมภัตตาคาร: การคำนวณจากค่าเช่าที่พัก และกรณีไม่เก็บค่าเช่า
การจัดเก็บภาษีโรงแรมภัตตาคารและการชำระภาษีตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2489 นั้น ท่านให้เรียกเก็บหรือชำระจากค่าเช่าที่พักในอัตราร้อยละ 20 ของเงินที่โรงแรมภัตตาคารเรียกเก็บเป็นค่าเช่าที่พักแล้วปิดอากรแสตมป์เท่าจำนวนภาษี ฉะนั้นการพักโดยมิได้เสียค่าเช่าที่พัก ก็ย่อมไม่มีจำนวนเงินที่จะออกใบรับและคำนวณค่าภาษีที่จะปิดอากรแสตมป์./
of 172