คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวัติ ปัตตพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขาย สิทธิของผู้ซื้อเดิม
สัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่น โดยสมยอมกันเพื่อจะไม่ขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้
ผู้ซื้อคนแรกมีสิทธิฟ้องผู้ขายและผู้ซื้อรายหลังขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายรายหลังเสีย และขอให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่และสิทธิของผู้เช่าช่วง: ผู้เช่าช่วงไม่อาจอ้างสิทธิจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินปลูกห้องแถวให้คนเช่า จนศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าที่ดินให้รื้อถอนห้องแถวออกไปจากที่ดินของเจ้าของที่ดินแล้ว ดังนี้ ผู้ซึ่งเช่าห้องแถวอยู่จากผู้เช่าที่ดิน ก็ย่อมเป็นบริวารของผู้เช่าที่ดิน คำพิพากษาและคำบังคับของศาลจึงใช้บังคับแก่ผู้เช่าห้องแถวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) เจ้าของที่ดินหาจำเป็นจะต้องไปฟ้องผู้เช่าห้องแถวเป็นคดีขึ้นอีกไม่ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมีอำนาจพิเศษอย่างไรก็ชอบที่จะแสดงให้ศาลเห็นได้ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมิได้แสดงอำนาจพิเศษอย่างใดแล้ว จะอ้างพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาใช้บังคับเจ้าของที่ดินไม่ได้ เพราะผู้เช่าห้องแถวมิใช่ผู้เช่า หรือผู้เช่าช่วงที่ดินจากเจ้าของที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อค้า แต่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย: ยังคงได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่าเพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้า เท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯอยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัยแม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อประกอบการค้า แต่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการอยู่อาศัย ยังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่า เพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้าเท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัย แม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การปฏิเสธของจำเลยต้องชัดเจน หากไม่ชัดเจนถือว่าโจทก์ไม่ต้องนำสืบประเด็นนั้น
ฟ้องของโจทก์ระบุแจ้งชัดว่าโจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยกล่าวในคำให้การว่า โจทก์จะเป็นนิติบุคคลหรือไม่จำเลยไม่รู้ และไม่รับรอง ดังนี้ ถือว่าคำให้การดังกล่าวนี้ ไม่ใช่เป็นคำให้การปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล จึงย่อมถือว่าไม่มีข้อต่อสู้ในคำให้การของจำเลย อันเป็นประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธข้อเท็จจริงเรื่องสถานะนิติบุคคลในคำให้การ ถือเป็นประเด็นที่โจทก์ต้องนำสืบ
ฟ้องของโจทก์ระบุมาแจ้งชัดว่าโจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยกล่าวในคำให้การว่า โจทก์จะเป็นนิติบุคคลหรือไม่จำเลยไม่รู้ และไม่รับรอง ดังนี้ ถือว่าคำให้การดังกล่าวนี้ ไม่ใช่เป็นคำให้การปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล จึงย่อมถือว่าไม่มีข้อต่อสู้ในคำให้การของจำเลย อันเป็นประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ถอนการขายฝากตกทอดแก่ทายาททันทีเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรม ไม่ต้องรอรับโอนมรดก
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้ตายย่อมตกทอดได้แก่ทายาททันที ฉะนั้นทายาทจึงมีสิทธิที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินที่ผู้ตายขายฝากไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้รับโอนมรดกก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ถอนทรัพย์สินของผู้ตายตกทอดแก่ทายาททันที
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้ตายย่อมตกทอดได้แก่ทายาททันที ฉะนั้นทายาทจึงมีสิทธิที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินที่ผู้ตายขายฝากไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้รับโอนมรดกก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุสามีมีภรรยาอื่นและทำร้ายร่างกายภรรยาใหม่
หญิงทำการสมรสกับชายโดยจดทะเบียนสมรสกันแล้วแม้ภายหลังจะปรากฎว่าในขณะสมรสกันนั้น ชายนั้นมีภรรยาอยู่แล้วก็ตาม หญิงเช่นนี้ก็ยังมีสิทธิฟ้องหย่าขาดจากสามีได้ เสมือนหนึ่งว่าการสมรสของหญิงชายนั้นชอบด้วยกฎหมาย
การที่สามีเอาภรรยาหลวงและบุตรที่เกิดจากภรรยาหลวงมาอยู่ร่วมกันกับภรรยน้อยในห้องเดียวกัน ทำให้อยู่ด้วยกันโดยไม่เป็นปรกติสุขมีเรื่องระหองระแหงทะเลาะกันเรื่อยมา จนเกิดทำร้ายกันโดยสามีภรรยาหลวง และบุตรภรรยาหลวงกลุ้มรุมทำร้ายภรรยาน้อยถึงคั่นภรรยาน้อยศรีษะแตก นับว่าภรรยาน้อยถูกสามีกับพวกทำร้ายถึงบาดเจ็บ และการที่สามีเอาภรรยาหลวงเข้ามากินอยู่ร่วมด้วย เป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ภริยาน้อยจะเป็นภริยาของชายต่อไปอย่างร้ายแรง เป็นเหตุพอที่จะให้ภริยาน้อยหย่าขาดจากการเป็นภรรยาชายได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องหย่าภริยาน้อย แม้การสมรสไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเหตุหย่าจากความรุนแรงในครอบครัว
หญิงทำการสมรสกับชายโดยจดทะเบียนสมรสกันแล้วแม้ภายหลังจะปรากฏว่าในขณะสมรสกันนั้น ชายนั้นมีภรรยาอยู่แล้วก็ตาม หญิงเช่นนี้ก็ยังมีสิทธิฟ้องหย่าขาดจากสามีได้ เสมือนหนึ่งว่าการสมรสของหญิงชายนั้นชอบด้วยกฎหมาย
การที่สามีเอาภรรยาหลวงและบุตรที่เกิดจากภรรยาหลวงมาอยู่ร่วมกันกับภรรยาน้อยในห้องเดียวกัน ทำให้อยู่ด้วยกัน โดยไม่เป็นปกติสุขมีเรื่องระหองระแหงทะเลาะกันเรื่อยมา จนเกิดทำร้ายกันโดยสามี ภรรยาหลวง และบุตรภรรยาหลวงกลุ้มรุมทำร้ายภรรยาน้อยถึงขั้นภรรยาน้อยศีรษะแตก นับว่าภรรยาน้อยถูกสามีกับพวกทำร้ายถึงบาดเจ็บ และการที่สามีเอาภรรยาหลวงเข้ามากินอยู่ร่วมด้วย เป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ภริยาน้อยจะเป็นภริยาของชายต่อไปอย่างร้ายแรงเป็นเหตุพอที่จะให้ภริยาน้อยหย่าขาดจากการเป็นภรรยาชายได้ตามกฎหมาย
of 172