พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการรอการลงโทษจำคุกภายใต้กฎหมายลักษณะอาญาและการใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษภายหลัง
จำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 53 ซึ่งแก้ไขโดยม พ.ร.บ.ฝิ่น (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2494 อันมีกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงยี่สิบปี และปรับสินเท่าราคาฝิ่น แต่ต้องไม่น้อยกวา 500 บาท นั้นเมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ควรรับโทษจำคุกเกินกว่า 2 ปี แล้ว ศาลจะพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำคุกไว้ภายใน 5 ปี ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษจำคุกและรอการลงโทษในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 มาตรา 53 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติฝิ่น(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2494 อันมีกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงยี่สิบปี และปรับสิบเท่าราคาฝิ่น แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500 บาทนั้น เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ควรรับโทษจำคุกเกินกว่า 2 ปีแล้วศาลจะพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำคุกไว้ภายใน 5 ปี ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการเช่าอาคาร: สิทธิผู้เช่าเหนือพื้นที่ภายนอกและหลังคา
การเช่าอาคารนั้นตามปรกติวิสัย ก็ย่อมเป็นการเช่าอาคารนั้น เป็นการเช่ากันเฉพาะส่วนภายในของอาคาร เว้นแต่มีข้อสัญญาระบุไว้เป็นพิเศษ ฉะนั้นผู้ให้เช่าจึงไม่มีอำนาจที่จะเอาหลังคาตึกเช่านั้นไปให้ผู้อื่นเช่าติดป้ายโฆษณาอีก และถ้าขืนกระทำไป ผู้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายและให้รื้อป้ายโฆษณานั้นไปเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าอาคาร: การเช่าทั้งหลังคุ้มครองการใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งหมด
การเช่าอาคารนั้นตามปกติวิสัย ก็ย่อมเป็นการเช่าอาคารทั้งหลังมิใช่ว่าการเช่าอาคารนั้น เป็นการเช่ากันเฉพาะส่วนภายในของอาคารเว้นแต่จะมีข้อสัญญาระบุไว้เป็นพิเศษ ฉะนั้นผู้ให้เช่าจึงไม่มีอำนาจที่จะเอาหลังคาตึกเช่านั้นไปให้ผู้อื่นเช่าติดป้ายโฆษณาอีกและถ้าขืนกระทำไป ผู้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายและให้รื้อป้ายโฆษณานั้นไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีเช่านา: เจ้าของนามีสิทธิฟ้องบังคับได้ทันทีเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 แต่ผุ้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีก เช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 20 วันตาม พ.ร.บ.ควยคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของนาฟ้องคืนนาได้ทันที แม้ยังไม่ครบ 60 วัน เหตุเป็นคนละเรื่องกับคำสั่ง คณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 แต่ผู้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีกเช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 60 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่: กำหนดราคาสูงสุดเนื้อสุกรต้องเป็นคำสั่งของคณะกรรมการฯ เท่านั้น
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร แต่ตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น มีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการ อันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ
แทนคณะกรรมการเท่านั้น หามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไนเกินควรไป เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ "สั่งการ" ได้ตามที่เป็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)
(อ้างถึงฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้น ได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรี เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ ประกาศดังกล่าวจึงหาผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
แทนคณะกรรมการเท่านั้น หามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไนเกินควรไป เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ "สั่งการ" ได้ตามที่เป็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)
(อ้างถึงฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้น ได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรี เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ ประกาศดังกล่าวจึงหาผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร: กำหนดราคาสูงสุดได้หรือไม่
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นมีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการอันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ แทนคณะกรรมการเท่านั้นหามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรไม่ เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ'สั่งการ'ได้ตามที่เห็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)(อ้างฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรีเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ประกาศดังกล่าวจึงหามีผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรีเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ประกาศดังกล่าวจึงหามีผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูป จำเลยต้องพิสูจน์ที่มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยมีไม้เต็งรัง ไม้เหียง ไม้พลวง ไม้มะค่าแต้ และไม้แดง อันเป็นไม้แระเภทหวงห้าม ไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับ รวม 97896 ท่อน เป็นไม้ติดเปลือกยาว 120 เซ็นติเมตรถึง 300 เซ็นติเมตร โต-วัดโดยรอบประมาณ 20 - 30 เซ็นติเมตร ดังนี้ เป็นแต่ไม้ที่ตัดออกเป็นท่อนยังไม่ถึงขนาดเป็นไม้แปรรูป จึงเป็นหน้าที่จำเลยที่แสดงให้เห็นว่า ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายตามความหมายใน พ.ร.บ.ป่าไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้หวงห้ามไม่มีตราค่าภาคหลวง จำเลยต้องพิสูจน์ที่มาชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยมีไม้เต็งรังไม้เหียงไม้พลวงไม้มะค่าแต้ และไม้แดงอันเป็นไม้ประเภทหวงห้ามไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับรวม 97896 ท่อน เป็นไม้ติดเปลือกยาว 120 เซ็นติเมตรถึง300เซ็นติเมตร โตวัดโดยรอบประมาณ 20-30 เซ็นติเมตรดังนี้เป็นแต่ไม้ที่ตัดออกเป็นท่อนยังไม่ถึงขนาดเป็นไม้แปรรูปจึงเป็นหน้าที่จำเลยที่จะแสดงให้เห็นว่า ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายตามความหมายใน พระราชบัญญัติป่าไม้