พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อขายสวน: สิทธิในสัญญาเช่าระยะยาวเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าของ
ทำสัญญาเช่าสวนกันมีกำหนด 8 ปี 6 เดือน โดยทำเป็นหนังสือจดทะเบียนที่หอทะเบียนที่ดิน แล้วต่อมาได้ทำสัญญาเช่ากันอีก 1 ฉบับมีกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่วันหมดกำหนดอายุสัญญาเช่าฉบับแรกแต่สัญญาฉบับที่ 2 นี้ทำกันที่อำเภอ ดังนี้สัญญาเช่าฉบับที่ 2 นี้มีผลว่าถ้าครบกำหนดสัญญาเช่าเดิม ผู้ให้เช่าจะให้เช่าต่อไปอีก 2 ปี ฉะนั้นถ้าผู้ให้เช่าขายกรรมสิทธิ์สวนนั้นไปเมื่อก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเช่าฉบับแรก ผู้ให้เช่านั้นก็ไม่มีสิทธิที่จะให้เช่าตามสัญญาเช่าต่อ ที่ทำล่วงหน้าให้ไว้แล้วนั้นได้ต่อไป เพราะได้ขายกรรมสิทธิ์ไปเสียก่อนแล้วส่วนเจ้าของคนใหม่ก็ไม่มีภาระที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของเดิมทำล่วงหน้าไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกโดยวิธีประมูลราคาระหว่างเจ้าของรวมตามพินัยกรรมและสิทธิเรียกร้องให้แบ่งทรัพย์
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินบ้านเรือนให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกัน โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าต่อไปภายหน้าผู้ที่ได้รับที่ดินบ้านเรือนนี้คนใดไม่ต้องการที่ดินบ้านเรือนรายนี้ ต้องขายให้แก่บรรดาผู้ที่ยังคงต้องการ โดยกำหนดราคาไว้ ผู้ใดที่ไม่ต้องการ ก็ให้ได้รับเงินแทนค่าที่ดินบ้านเรือนไปตามส่วนที่ตีราคาไว้ในพินัยกรรมนี้ โดยให้ผู้ต้องการอยู่จ่ายเงินตามส่วนที่กำหนดไว้นี้ให้ไป ผู้ใดไม่ต้องการ จะเรียกร้องเอาราคาที่เกินกว่าที่กำหนดไว้นี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้แบ่งทรัพย์รายนี้โดยวิธีประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งถ้าไม่ตกลงกันก็ขายทอดตลาด เอาเงินมาแบ่งปันกันได้ เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ต้องการทรัพย์ที่ยกให้ตามพินัยกรรม อันจะต้องขายให้ผู้รับทรัพย์ร่วมกันตามข้อกำหนดในในพินัยกรรม แต่เป็นเรื่องที่โจทก์เรียกร้องให้แบ่งทรัพย์ที่โจทก์ได้รับมาแล้วร่วมกับจำเลยตามพินัยกรรม์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม: สิทธิเรียกร้องแบ่งทรัพย์เมื่อผู้รับมรดกไม่ต้องการ
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินบ้านเรือนให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกันโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าต่อไปภายหน้าผู้ที่ได้รับที่ดินบ้านเรือนนี้คนใดไม่ต้องการที่ดินบ้านเรือนรายนี้ ต้องขายให้แก่บรรดาผู้ที่ยังคงต้องการ โดยกำหนดราคาไว้ ผู้ใดที่ไม่ต้องการ ก็ให้ได้รับเงินแทนค่าที่ดินบ้านเรือนไปตามส่วนที่ตีราคาไว้ในพินัยกรรมนี้ โดยให้ผู้ต้องการอยู่จ่ายเงินตามส่วนที่กำหนดไว้นี้ให้ไปผู้ใดไม่ต้องการ จะเรียกร้องเอาราคาที่เกินกว่าที่กำหนดไว้นี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้แบ่งทรัพย์รายนี้โดยวิธีประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งถ้าไม่ตกลงกันก็ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งปันกันได้ เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ต้องการทรัพย์ที่ยกให้ตามพินัยกรรมอันจะต้องขายให้ผู้รับทรัพย์ร่วมกันตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแต่เป็นเรื่องที่โจทก์เรียกร้องให้แบ่งทรัพย์ที่โจทก์ได้รับมาแล้วร่วมกับจำเลยตามพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอนาจาร: การระบุอายุผู้ถูกกระทำอนาจารในฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำอนาจารแก่หญิง โดยระบุชื่อและว่าเป็นนางสาว กับอ้าง ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 246 เป็นบทขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้ แม้ในฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าจำเลยกระทำอนาจารแก่บุคคล ซึ่งมีอายุกว่า 13 ปีขึ้นไป ก็ตาม ก็ย่อมถือได้ว่า โจทก์ได้กล่าวในฟ้องชัดแจ้งว่า ผู้ถูกกระทำอนาจารมีอายุเป็นนางสาวแล้ว ทั้งยังขอให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่กระทำผิดต่อบุคคลอายุเกิน 13 ปีด้วย ฟ้องจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอนาจาร แม้ไม่ได้ระบุอายุผู้ถูกกระทำ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำอนาจารแก่หญิง โดยระบุชื่อและว่าเป็นนางสาว กับอ้างกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 246 เป็นบทขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้ แม้ในฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าจำเลยกระทำอนาจารแก่บุคคล ซึ่งมีอายุกว่า 13 ปีขึ้นไป ก็ตาม ก็ย่อมถือได้ว่า โจทก์ได้กล่าวในฟ้องชัดแจ้งว่า ผู้ถูกกระทำอนาจารมีอายุเป็นนางสาวแล้ว ทั้งยังขอให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่กระทำผิดต่อบุคคลอายุเกิน 13 ปีด้วย ฟ้องจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองมรดกโดยทายาทอื่นและการสละสิทธิรับมรดก
สามีของทายาทคนหนึ่งไถ่ถอนนามรดก ซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันมาจากเจ้าหนี้โดยตกลงกับทายาทอื่นว่า ตนต้องเข้าทำนาก่อน 3 ปี พ้น 3 ปีแล้วมีทายาทคนใดจะเข้าทำนา ต้องใช้เงินให้ตนจำนวนหนึ่ง ครั้นครบ 3 ปี แล้วทายาทอื่นต่างเอาเงินตามจำนวนที่ตกลงกันไว้มามอบให้สามีทายาทคนนั้น เพื่อจะเข้าทำนาตามที่ตกลงกัน แต่สามีของทายาทคนนั้น ไม่ยอมดังนี้ จะถือว่าการที่ทายาทอื่นยอมให้สามีของทายาทผู้ไถ่ถอนนา ครอบครองทำนาพิพาท นั้นทายาทอื่นได้สละสิทธิในการรับมรดกที่นาพิพาทไม่ได้ ทายาทอื่นยังคงมีสิทธิในที่นาพิพาทอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทำนาหลังไถ่ถอนมรดก: สิทธิในมรดกยังคงอยู่
สามีของทายาทคนหนึ่งไถ่ถอนนามรดก ซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันมาจากเจ้าหนี้ โดยตกลงกับทายาทอื่นว่า ตนต้องเข้าทำนาก่อน 3 ปี พ้น 3 ปีแล้วมีทายาทคนใดจะเข้าทำนา ต้องใช้เงินให้ตนจำนวนหนึ่ง ครั้นครบ 3 ปีแล้วทายาทอื่นต่างเอาเงินตามจำนวนที่ตกลงกันไว้มามอบให้สามีทายาทคนนั้น เพื่อจะเข้าทำนาตามที่ตกลงกัน แต่สามีของทายาทคนนั้นไม่ยอม ดังนี้ จะถือว่าการที่ทายาทอื่นยอมให้สามีของทายาทผู้ไถ่ถอนนา ครอบครองทำนาพิพาทนั้นทายาทอื่นได้สละสิทธิในการรับมรดกที่นาพิพาทไม่ได้ ทายาทอื่นยังคงมีสิทธิในที่นาพิพาทอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์ของผู้เยาว์: ผู้เยาว์อายุ 18 ปี สามารถร้องทุกข์ได้โดยไม่ต้องมีผู้แทนลงชื่อ
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 243 ได้กล่าวยืนยันมาด้วยว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่า กล่าวแล้ว จำเลยมิได้คัดค้านประการใด คงให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดตามฟ้องเท่านั้น ดังนี้ ปัญหาข้อที่ว่า การร้องทุกข์ถูกต้องตามแบบระเบียบหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น ไม่มีประเด็นที่คู่ความยกขึ้น กล่าวเลย ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึง
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรม ลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วย ก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 214/2494)
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรม ลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วย ก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 214/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์คดีข่มขืนของผู้เยาว์อายุ 18 ปี ไม่ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243 ได้กล่าวยืนยันมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว จำเลยมิได้คัดค้านประการใด คงให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดตามฟ้องเท่านั้น ดังนี้ ปัญหาข้อที่ว่าการร้องทุกข์ถูกต้องตามแบบระเบียบหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น ไม่มีประเด็นที่คู่ความยกขึ้นกล่าวเลย ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึง
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วยก็ใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 214/2494)
ผู้เยาว์อายุ 18 ปี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรมลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ด้วยก็ใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 214/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมขายส่วนของตนได้ แม้คนอื่นไม่ยินยอม แต่ห้ามจำหน่ายภาระติดพันโดยไม่ยินยอม
เจ้าของร่วมคนหนึ่งๆ ขายที่ดินให้ผู้อื่นโดยระบุส่วนสัดของตนบอกจำนวนเนื้อที่ไว้อย่างชัดแจ้ง มิได้เกินกว่าส่วนสิทธิของตนนั้น แม้เจ้าของร่วมคนอื่นจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยก็ตาม การซื้อขายนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1361 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรา 1361 วรรคสอง นั้น ท่านประสงค์ห้ามมิให้เจ้าของรวมคนหนึ่งๆ จำหน่ายจำนำหรือก่อให้เกิดภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์สินนั้น โดยมิได้รับความยินยอมแห่งเจ้าของร่วมทุกคน เพราะเป็นการทำลายสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นด้วย มิใช่แต่เฉพาะส่วนของตน (ฎีกาที่ 277/2493)