พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์ใบมอบอำนาจ: การพิจารณาประเภทเอกสารเพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนนั้น แม้จะเป็นการมอบอำนาจให้ทำแทนในกิจการมากกว่าครั้งเดียวก็มิได้กระทำในลักษณะเป็นรูปตราสารสัญญาหากเป็นเพียงเอกสารที่ทำแต่ลำพังผู้มอบอำนาจฝ่ายเดียว จึงต้องเสียอากรแสตมป์ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 7 (ข) อันกำหนดไว้ 5 บาท หาใช่การมอบอำนาจทั่วไปในเรื่องตัวแทนตามข้อ 21 (ข) ซึ่งกำหนดให้ปิด 10 บาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว สิ้นสุดเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต ไม่ตกทอด
การเช่าทรัพย์สินนั้น ปกติฝ่ายผู้ให้เช่าย่อมเพ่งเล็งถึงคุณสมบัติของผู้เช่าว่าจะสมควรได้รับความไว้วางใจในการใช้ทรัพย์ที่เช่าและในการดูแลรักษาทรัพย์ที่เช่าหรือไม่ ฉะนั้นสิทธิของผู้เช่าจึงมีสภาพเป็นการเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สัญญาเช่าก็เป็นอันระงับ ไม่ตกทอดไปยังทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระงับเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต สิทธิไม่ตกทอดไปยังทายาท
การเช่าทรัพย์สินนั้น ปกติฝ่ายผู้ให้เช่าย่อมเพ่งเล็งถึงคุณสมบัติของผู้เช่าว่าจะสมควรได้รับความไว้วางใจในการใช้ทรัพย์ที่เช่าและในการดูแลรักษาทรัพย์ที่เช่าหรือไม่ ฉะนั้นสิทธิของผู้เช่าจึงมีสภาพเป็นการเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สัญญาเช่าก็เป็นอันระงับ ไม่ตกทอดไปยังทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่ค้าขายและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิ
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากฟ้องเช่าของโจทก์ โดยอ้างว่าห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
และจำเลยยังแถลงรับอีกว่าการเช่าไม่มีหนังสือสัญญาต่อกันห้องเช่าอยู่ในทำเลยการค้าขายจำเลยอยู่อาศัยและค้าขายของชำตลอดมา ดังนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่า จำเลยมีเหตุอันควรได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อย่างไร ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดีได้ ศาลต้องพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์
(อ้างฎีกาที่ 420/2494)
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
และจำเลยยังแถลงรับอีกว่าการเช่าไม่มีหนังสือสัญญาต่อกันห้องเช่าอยู่ในทำเลยการค้าขายจำเลยอยู่อาศัยและค้าขายของชำตลอดมา ดังนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่า จำเลยมีเหตุอันควรได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อย่างไร ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดีได้ ศาลต้องพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์
(อ้างฎีกาที่ 420/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์สถานะผู้เช่า - การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ โดยอ้างว่าห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
และจำเลยยังแถลงรับอีกว่าการเช่าไม่มีหนังสือสัญญาต่อกัน ห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าขายจำเลยอยู่อาศัยและค้าขายของชำตลอดมา ดังนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่า จำเลยมีเหตุอันควรได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ อย่างไร ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน จำเลยไม่มีทางชนะคดีได้ ศาลต้องพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ (อ้างฎีกาที่ 420/2494)
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
และจำเลยยังแถลงรับอีกว่าการเช่าไม่มีหนังสือสัญญาต่อกัน ห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าขายจำเลยอยู่อาศัยและค้าขายของชำตลอดมา ดังนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่า จำเลยมีเหตุอันควรได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ อย่างไร ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน จำเลยไม่มีทางชนะคดีได้ ศาลต้องพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ (อ้างฎีกาที่ 420/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในประเด็นที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้ว ถือเป็นการโต้แย้งคำพิพากษาเดิม
ศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่โจทก์จำเลยและพี่น้องอีก 2 คน คนละ 1 ส่วนเท่าเท่ากัน โดยฟังว่า ที่แปลงนั้นเป็นมรดกของบิดาโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์เห็นว่าจำเลยได้รับมรดกมากเกินไป เป็นเหตุให้โจทก์ขาดเงินไปจำนวนหนึ่ง โจทก์จึงมาฟ้องให้จำเลยใช้เงินจำนวนนั้นแก่โจทก์โดยอ้างว่าที่ดินมรดกแปลงที่กล่าวแล้วเป็นสินสมรสของบิดาและมารดา จำเลยได้รับส่วนแบ่งมรดกเกินไป ดังนี้ เป็นการฟ้องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ซึ่งเท่ากับเป็นการโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาในคดีก่อนนั้นเองว่าพิพากษาไม่ถูก การฟ้องใหม่จึงเท่ากับขอให้ลบล้างแก้ไขคำพิพากษาของศาลในคดีเดิม จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การโต้แย้งคำพิพากษาเดิมในประเด็นส่วนแบ่งมรดก ถือเป็นการขอให้ลบล้างแก้ไขคำพิพากษาเดิม จึงต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่โจทก์จำเลยและพี่น้องอีก 2 คน ๆ ละ 1 ส่วนเท่าเท่ากันโดยฟังว่า ที่แปลงนั้นเป็นมรดกของบิดาโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์เห็นว่าจำเลยได้รับมรดกมากเกินไปเป็นเหตุให้โจทก์ขาดเงินไปจำนวนหนึ่ง โจทก์จึงมาฟ้องให้จำเลยใช้เงินจำนวนนั้นแก่โจทก์โดยอ้างว่าที่ดินมรดกแปลงที่กล่าวแล้วเป็นสินสมรสของบิดาและมารดา จำเลยได้รับส่วนแบ่งมรดกเกินไป ดังนี้ เป็นการฟ้องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ซึ่งเท่ากับเป็นการโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาในคดีก่อนนั้นเองว่าพิพากษาไม่ถูกการฟ้องใหม่จึงเท่ากับขอให้ลบล้างแก้ไขคำพิพากษาของศาลในคดีเดิม จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการโดยเจ้าพนักงาน กรณีออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเท็จ
ปลัดอำเภอทำหนังสือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวในหน้าที่ราชการของตน ให้แก่คนต่างด้าวผู้ไม่มีสิทธิจะอยู่ในเมืองไทยได้ โดยจดข้อความเท็จลงในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวนั้น เพื่อให้เห็นว่า มีสิทธิอยู่ในเมืองไทยได้ ดังนี้ปลัดอำเภอผู้นั้นย่อมมีความผดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 230 แต่ไม่ผิดตามมาตรา 222,224,229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปลัดอำเภอออกเอกสารเท็จให้คนต่างด้าว ย่อมมีความผิดทางอาญา
ปลัดอำเภอทำหนังสือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวในหน้าที่ราชการของตน ให้แก่คนต่างด้าวผู้ไม่มีสิทธิจะอยู่ในเมืองไทยได้ โดยจดข้อความเท็จลงในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวนั้นเพื่อให้เห็นว่า มีสิทธิอยู่ในเมืองไทยได้ ดังนี้ปลัดอำเภอผู้นั้นย่อมมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 แต่ไม่ผิดตามมาตรา 222,224,229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363-1365/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกาศรัฐมนตรีเรื่องเขตควบคุมการแปรรูปไม้: ผลบังคับใช้และการคัดสำเนาประกาศ
ประกาศของรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องคัดสำเนาประกาศไว้ ณที่ต่างๆตามความในมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 นั้นเป็นประกาศซึ่งรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามบท แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้อันเป็นเรื่องที่จะให้มีผลบังคับแก่ประชาชนทั่วไป เช่นประกาศกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ เป็นต้น ส่วนประกาศยกเลิกประกาศนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ประกาศนั้นมีผลบังคับแก่ประชาชนต่อไป จึงหาจำต้องนำไปปิดในที่ต่างๆตามที่กำหนดไว้ไม่ ก็ย่อมมีผลใช้ได้
ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการมีข้อความยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไว้ แล้วมีข้อความกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ขึ้นใหม่ แต่ประกาศฉบับนี้หาได้มีการคัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกำนันหรือที่สาธารณะสถานในท้องที่ในเขตที่เกี่ยวข้องไม่ ดังนี้ ประกาศฉบับหลังนี้คงมีผลใช้ได้เฉพาะที่ให้ยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่ กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้เท่านั้น
ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการมีข้อความยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไว้ แล้วมีข้อความกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ขึ้นใหม่ แต่ประกาศฉบับนี้หาได้มีการคัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกำนันหรือที่สาธารณะสถานในท้องที่ในเขตที่เกี่ยวข้องไม่ ดังนี้ ประกาศฉบับหลังนี้คงมีผลใช้ได้เฉพาะที่ให้ยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่ กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้เท่านั้น