พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของหมั้นยังไม่สมบูรณ์-สัญญาต่างตอบแทนไม่เป็นผลเมื่อไม่สมรส: สิทธิเรียกร้องที่นา
พ่อแม่ฝ่ายชายทำสัญญายกที่นา 10 ไร่ โดยแบ่งออกจากนาแปลงใหญ่มีโฉนดแล้วแต่ยังไม่ได้มอบหมายแบ่งแยกออกเป็นส่วนสัดให้เป็นของหมั้นแก่หญิง ต่อมาหญิงชายได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันที่บ้านชายไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน นาที่ยกให้ก็ยังไม่ได้มอบหมายให้กันอย่างแท้จริง ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่านา 10 ไร่นี้เป็นของหมั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1436 หญิงจะฟ้องเรียกนา 10 ไร่นี้ในฐานเป็นของหมั้นไม่ได้ หากจะถือว่าเป็นสัญญาให้ที่มีการตอบแทน จุดประสงค์ของผู้ให้ก็เพื่อให้คู่สมรสได้ใช้สร้อยทำกินด้วยกันเป็นสำคัญ เมื่อหญิงกับชายไม่ได้สมรสกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว และบัดนี้ยังแยกไม่ได้อยู่กินด้วยกันอีก ก็นับว่าไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ให้ จึงไม่มีเหตุที่หญิงจะเรียกร้องเอานานี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงค่าจ้างเลื่อยไม้: พิจารณาหนี้รวมทั้งหมด ไม่แยกตามจำนวนไม้ที่รับ
ผู้จ้างนำไม้มาจ้างเลื่อยเป็นคราว ๆ ตามราคาค่าจ้างที่ตกลงกันแล้วผู้จ้างก็รับไม้ไปเป็นคราว ๆ และชำระค่าจ้างเลื่อยให้เป็นคราว ๆ การชำระค่าจ้างเลื่อยไม้นี้ก็หาได้ชำระตามจำนวนไม้ที่รับไปแต่ละคราวนั้นไม่ ดังนี้ต้องถือว่าหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ผู้รับจ้างเกี่ยวด้วยไม้ที่อยู่ในครอบครองของผู้รับจ้าง ก็คือหนี้ค่าจ้างเลื่อยไม้ที่ผู้จ้างค้างชำระอยู่ทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อผู้รับจ้างใช้สิทธิยึดหน่วงไม้ที่ผู้จ้างนำมาจ้างเลื่อยไว้ จำนวนหนึ่งก็ย่อมต้องถือว่ามีสิทธิยึดหน่วงไว้สำหรับค่าจ้างเลื่อยไม้รายก่อน ๆ ที่ผู้รับจ้างรับไปแล้วด้วยไม่ใช่มีสิทธิยึดหน่วงเฉพาะค่าจ้างเลื่อยไม้จำนวนที่ยึดไว้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงค่าจ้างเลื่อยไม้: หนี้รวมกับไม้ที่อยู่ในครอบครองของผู้รับจ้าง
ผู้จ้างนำไม้มาจ้างเลื่อยเป็นคราวๆ ตามราคาค่าจ้างที่ตกลงกัน แล้วผู้จ้างก็รับไม้ไปเป็นคราวๆ และชำระค่าจ้างเลื่อยให้เป็นคราวๆ การชำระค่าจ้างเลื่อยไม้นี้ก็หาได้ชำระตามจำนวนไม้ที่รับไปแต่ละคราวนั้นไม่ ดังนี้ ต้องถือว่าหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ผู้รับจ้างเกี่ยวด้วยไม้ที่อยู่ในครอบครองของผู้รับจ้าง ก็คือหนี้ค่าจ้างเลื่อยไม้ที่ผู้จ้างค้างชำระอยู่ทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อผู้รับจ้างใช้สิทธิยึดหน่วงไม้ที่ผู้จ้างนำมาจ้างเลื่อยไว้ จำนวนหนึ่ง ก็ย่อมต้องถือว่ามีสิทธิยึดหน่วงไว้สำหรับค่าจ้างเลื่อยไม้รายก่อนๆที่ผู้จ้างรับไปแล้วด้วยไม่ใช่มีสิทธิยึดหน่วงเฉพาะค่าจ้างเลื่อยไม้จำนวนที่ยึดไว้เท่านั้น(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ บิดามารดาผิดสัญญาต้องชดใช้ค่าเสียหาย
บิดามารดาทำสัญญาจะขายที่ดินของบุตร 2 คน คนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกคนหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแก่บุคคลภายนอก โดยทำสัญญาเป็นหนังสือและรับเงินมัดจำไว้แล้ว ภายหลังเพิกเฉย ไม่ดำเนินการจัดการอย่างใดเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ดังนี้ ย่อมถือว่าบิดามารดาผิดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้จะซื้อ ส่วนบุตรเป็นคนนอกสัญญาและไม่ปรากฏว่า บิดาเป็นตัวแทนจึงไม่ผูกมัดตามสัญญา และจะบังคับให้บิดามารดาโอนขายที่ดินตามสัญญาไม่ได้ เพราะมิใช่ที่ดินของบิดามารดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่เป็นเจ้าของ & ผิดสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย
บิดามารดาทำสัญญาจะขายที่ดินของบุตร 2 คน คนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ อีกคนหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแก่บุคคลภายนอก โดยทำสัญญาเป็นหนังสือและรับเงินมัดจำไว้แล้ว ภายหลังเพิกเฉยไม่ดำเนินการจัดการอย่างใดเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ดังนี้ ย่อมถือว่าบิดามารดาผิดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้จะซื้อ ส่วนบุตรเป็นคนนอกสัญญาและไม่ปรากฎว่าบิดาเป็นตัวแทน จึงไม่ผูกมัดตามสัญญาและจะบังคับให้บิดามารดาโอนขายที่ดินตามสัญญาไม่ได้เพราะมิใช่ที่ดินของบิดามารดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เช่าช่วงโดยปริยาย: ผู้ให้เช่าทราบและไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยินยอม
การที่ผู้เช่ายอมให้ผู้อื่นเข้ามาอยู่ในตึกที่เช่าเป็นเวลาหลายปีแล้วฝ่ายผู้ให้เช่าก็รู้แล้วไม่ทักท้วงว่ากล่าวประการใด แม้จะถือว่ามีการให้เช่าช่วง ก็แสดงว่าฝายผู้ให้เช่ายินยอม ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เช่าช่วงโดยปริยาย: ผู้ให้เช่าทราบและไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยินยอม
การที่ผู้เช่ายอมให้ผู้อื่นเข้ามาอยู่ในตึกที่เช่าเป็นเวลาหลายปีแล้ว ฝ่ายผู้ให้เช่าก็รู้แล้ว ไม่ทักท้วงว่ากล่าวประการใด แม้จะถือว่ามีการให้เช่าช่วง ก็แสดงว่าฝ่ายผู้ให้เช่ายินยอม ฉะนั้น จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเครื่องหมายการค้า: ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการเลียนเครื่องหมายที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินผิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเครื่องหมายมีลักษณะต่างกันศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าเครื่องหมายโจทก์จำเลยต่างกัน มาก เมื่อปรากฎว่าคู่ความรับกันในรูปเครื่องหมายแล้ว คงเถียงกันว่าจะเป็นการเลียนหรือไม่ จึงเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่าต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่าต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนเครื่องหมายการค้า: ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิจารณาใหม่ในประเด็นข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยต่อสู้ว่า เครื่องหมายมีลักษณะต่างกัน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าเครื่องหมายโจทก์จำเลยต่างกันมาก เมื่อปรากฏว่าคู่ความรับกันในรูปเครื่องหมายแล้ว คงเถียงกันว่าจะเป็นการเลียนหรือไม่ จึงเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่า ต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์โดยเห็นว่า ต้องห้าม ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์เป็นปัญหากฎหมายไม่ต้องห้าม ก็ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้ขายฝากแล้วหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้อื่น เจ้าของที่ดินไม่สามารถกลับมาเถียงสิทธิได้
เจ้าของที่ดิน(นา)ได้รู้เห็นยินยอมให้ผู้อื่นเอานาไปขายฝากจนพ้นกำหนดไถ่ถอนหลุดเป็นสิทธิแก่เขาแล้ว จะกลับเถียงสิทธิของผู้รับซื้อ ผู้ทำการสุจริตหาได้ไม่ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต