พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลเสียโฉมติดตัว ถือเป็นบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมาย
ถูกขว้างด้วยตะบองที่โหนกแก้มแผลเป็นกว้างครึ่งเซ็นติเมตร ยาว 4 เซ็นติเมตร ศาลชั้นต้นบันทึกบาดแผลไว้ว่า ให้ผู้ถูกทำร้ายอยู่ห่าง 2 วาก็เห็นแผลเป็นได้ชัด ศาลพิเคราะห์แล้วเป็นบาดแผลเสียโฉม ดังนี้เมื่อตามสำนวนไม่ปรากฏเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าบาดแผลเสียโฉมติดตัวอันเป็นบาดแผลสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลเสียโฉม ถือเป็นบาดแผลสาหัส แม้ศาลอุทธรณ์เห็นต่าง ศาลฎีกาตัดสินตามศาลชั้นต้น
ถูกขว้างด้วยตะบอกที่โหนกแก้มแผลเป็น กว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร ศาลชั้นต้นบันทึกบาดแผลไว้ว่า ให้ผู้ถูกทำร้ายอยู่ห่าง 2 วา ก็เห็นแผลเป็นได้ชัด ศาลพิเคราะห์แล้วเปนบาดแผลเสียโฉม ดังนี้ เมื่อตามสำนวนไม่ปรากฏเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าบาดแผลเสียโฉมติดตัวอันเป็นบาดแผลสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเขตเพลิงไหม้ต้องเป็นของกรมโยธาเทศบาลหรือผู้ได้รับมอบหมายโดยตรง อัยการไม่มีอำนาจฟ้องเอง
การร้องขอต่อศาลให้รื้อถอนเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งปลูกสร้างในเขตเพลิงไหม้ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมโยธาเทศบาลนั้น หากกรมโยธาเทศบาลมิได้มอบให้อัยการดำเนินคดีแทน อัยการซึ่งเป็นโจทก์จำเลยหาว่ากระทำผิดทางอาญาอยู่นั้นย่อมไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้สั่งจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
การที่กรมโยธาเทศบาลมอบให้คณะกรรมการจังวหัดดำเนินคดีนั้น มิใช่เป็นการมอบให้อัยการจังหวัด และการกระทำของอัยการจังหวัดโดยลำพังนั้น จะอ้างว่าเป็นการกระทำของคณะกรรมการจังหวัดมิได้
การที่กรมโยธาเทศบาลมอบให้คณะกรรมการจังวหัดดำเนินคดีนั้น มิใช่เป็นการมอบให้อัยการจังหวัด และการกระทำของอัยการจังหวัดโดยลำพังนั้น จะอ้างว่าเป็นการกระทำของคณะกรรมการจังหวัดมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องร้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเขตเพลิงไหม้ ต้องเป็นของกรมโยธาเทศบาล หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจโดยตรงจากกรมฯ เท่านั้น
การร้องขอต่อศาลให้รื้อถอนเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งปลูกสร้างในเขตเพลิงไหม้ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมโยธาเทศบาลนั้นหากกรมโยธาเทศบาลมิได้มอบให้อัยการดำเนินคดีแทน อัยการซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดทางอาญาอยู่นั้นย่อมไม่มีอำนาจร้องขอ ต่อศาลให้สั่งจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
การที่กรมโยธาเทศบาลมอบให้คณะกรมการจังหวัดดำเนินคดีนั้น มิใช่เป็นการมอบให้อัยการจังหวัด และการกระทำของอัยการจังหวัดโดยลำพังนั้นจะอ้างว่าเป็นการกระทำของคณะกรมการจังหวัดมิได้
การที่กรมโยธาเทศบาลมอบให้คณะกรมการจังหวัดดำเนินคดีนั้น มิใช่เป็นการมอบให้อัยการจังหวัด และการกระทำของอัยการจังหวัดโดยลำพังนั้นจะอ้างว่าเป็นการกระทำของคณะกรมการจังหวัดมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องนา: พิจารณาเจตนาคู่สัญญาเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นสัญญาเงินกู้หรือขายฝาก
แม้ในฟ้องจะกล่าวว่าโจทก์ได้ขายฝากนาไว้แก่จำเลย แต่ในฟ้องได้บรรยายรายละเอียดถึงข้อความในสัญญาขายฝากนั้นอีกว่า ได้ฝากนาไว้กับจำเลย ๆ เอาเงินไป มีกำหนดเวลาใช้คืนและมีข้อความว่า ใครจะเอานานั้นเป็นกรรมสิทธิไม่ได้ ดังนี้พิจารณาความประสงค์ของคู่สัญญาเป็นเรื่องโจทก์เอาเงินของจำเลยไปให้จำเลยครอบครองนาแทน ซึ่งโจทก์ฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน: สัญญาขายฝากหรือการมอบหมายให้ครอบครองแทน
แม้ในฟ้องจะกล่าวว่าโจทก์ได้ขายฝากนาไว้แก่จำเลย แต่ในฟ้องได้บรรยายรายละเอียดถึงข้อความในสัญญาขายฝากนั้นอีกว่า ได้ฝากนาไว้กับจำเลย จำเลยเอาเงินไป มีกำหนดเวลาใช้คืน และมีข้อความว่า ใครจะเอานานั้นเป็นกรรมสิทธิ์ไม่ได้ดังนี้ พิจารณาความประสงค์ของคู่สัญญาเป็นเรื่องโจทก์เอาเงินของจำเลยไปให้จำเลยครอบครองนาแทน ซึ่งโจทก์ฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เข้าอยู่ทำให้หลุดพ้นจาก พรบ.ควบคุมค่าเช่า สิทธิผู้ให้เช่ากลับสู่ประมวลกฎหมายแพ่งฯ
ผู้ให้เช่า ซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้เข้าอยู่ในสถานที่เช่าและได้ฟ้องคดีขับไล่ผู้เช่าไว้ก่อนตาย ถือว่าโจทก์ใหม่ผู้รับมรดกความของผู้ให้เช่ามีความจำเป็นเข้าอยู่ในสถานที่เช่ารายนี้ด้วย
เมื่อคณะกรรมการฯ ยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในสถานที่เช่าแล้วทำให้การเช่านั้นหลุดพ้นจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯฐานะของผู้เช่าและผู้ให้เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือผู้ให้เช่าขับไล่ผู้เช่าได้หากมีสิทธิที่จะขับไล่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่าทำสัญญาให้ขึ้นค่าเช่า ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 10
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2493
เมื่อคณะกรรมการฯ ยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในสถานที่เช่าแล้วทำให้การเช่านั้นหลุดพ้นจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯฐานะของผู้เช่าและผู้ให้เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือผู้ให้เช่าขับไล่ผู้เช่าได้หากมีสิทธิที่จะขับไล่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่าทำสัญญาให้ขึ้นค่าเช่า ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 10
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2493
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้เมื่อพิสูจน์ได้ว่าจำเลยกระทำ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกาย: แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์สิน: การตีความเจตนาผู้ตายและทรัพย์สินที่ระบุชัดเจน
โจทก์เคยขายที่พิพาทให้ผู้ตายแปลงเดียว ผู้ตายได้ทำหนังสือให้โจทก์ไว้ว่าถ้าผู้ตาย ตายก่อนโจทก์ ที่ที่โจทก์ขายให้นี้จะคืนยกให้แก่โจทก์ แต่ถ้าผู้ตายมีชีวิตอยู่ จะถือกรรมสิทธิ์ต่อไปโดยผู้ตายเขียนหนังสือนั้นเองทั้งฉบับและลงชื่อเป็นผู้เขียนกับมีคนอื่นลงชื่อเป็นพยานสามคน ดังนี้ ถือว่าหนังสือดังกล่าว มีลักษณะเป็นพินัยกรรม เมื่อผู้ตายตายก่อนโจทก์ ที่ที่พิพาทย่อมตกเป็นของโจทก์