พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการบังคับตามสัญญาประนีประนอม ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อต่อสู้ไว้แต่เดิมศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้วโจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 54/2494)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้วโจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 54/2494)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการบังคับตามสัญญาประนีประนอม ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อต่อสู้ไว้แต่เดิม ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้ว โจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 54/2499)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้ว โจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 54/2499)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินเป็นที่สาธารณะประโยชน์โดยคำขอรังวัดถือเป็นคำขออุทิศได้ แม้ไม่แก้โฉนด
เกี่ยวกับที่พิพาทปรากฎในคำขอร้องรังวัดของโจทก์ว่า โจทก์ยินยอมขอให้รังวัดตั้งแต่ทางเกวียนจนจดถนนสาย 22 เป็นที่สาธารณะประโยชน์ คำขอเช่นว่านี้ก็เสมือนคำขออุทิศเป็นลายลักษณ์อักษรของโจทก์นั้นเอง
การอุทิศให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์นี้ ไม่จำต้องแก้โฉนดก็ใช้บังคับได้ ตามนัยฎีกาที่ 765/2498
ฎีกาที่ 765/2498
การอุทิศให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์นี้ ไม่จำต้องแก้โฉนดก็ใช้บังคับได้ ตามนัยฎีกาที่ 765/2498
ฎีกาที่ 765/2498
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินเป็นที่สาธารณประโยชน์โดยคำขอรังวัด มีผลผูกพันตามกฎหมาย แม้ไม่แก้โฉนด
เกี่ยวกับที่พิพาทปรากฏในคำขอร้องรังวัดของโจทก์ว่า โจทก์ยินยอมขอให้รังวัดตั้งแต่ทางเกวียนจนจดถนนสาย 22 เป็นที่สาธารณประโยชน์ คำขอเช่นว่านี้ก็เสมือนคำขออุทิศเป็นลายลักษณ์อักษรของโจทก์นั่นเอง
การอุทิศให้เป็นที่สาธารณประโยชน์นี้ ไม่จำต้องแก้โฉนดก็ใช้บังคับได้ตามนัยฎีกาที่ 765/2498
การอุทิศให้เป็นที่สาธารณประโยชน์นี้ ไม่จำต้องแก้โฉนดก็ใช้บังคับได้ตามนัยฎีกาที่ 765/2498
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งทนายโดยไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลอนุญาตให้แก้ไขได้หากไม่มีเจตนาประวิงคดี
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้ เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดีและศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้แม้จะเป็นการปฏิบัติผิด ป.วิ.แพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และพอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว
(เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
(เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้ทนายดำเนินการโดยมิได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หากไม่มีผลเสียต่อคู่ความ
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดี และศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์ เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้ แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และ พอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว (เทียบฎีกาที่ 1894/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารซื้อเชื่อที่ไม่เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน อายุความหนี้ค่าซื้อเชื่อผ้า 2 ปี ไม่ถือเป็นหนี้เพื่ออุตสาหกรรม
เอกสารที่ไม่ระบุชื่อหรือยี่ห้อผู้รับเงิน ไม่เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน จะละไว้ในฐานที่เข้าใจไม่ได้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสดุดหยุดลง แต่ไม่เปลี่ยนสภาพของหนี้ ไม่ทำให้กำหนดอายุความเปลี่ยนไป
หนี้ค่าซื้อของที่พ่อค้าขายเชื่อให้พ่อค้าไปขายต่อไปมีอายุความ 2 ปีไม่ใช่เพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสดุดหยุดลง แต่ไม่เปลี่ยนสภาพของหนี้ ไม่ทำให้กำหนดอายุความเปลี่ยนไป
หนี้ค่าซื้อของที่พ่อค้าขายเชื่อให้พ่อค้าไปขายต่อไปมีอายุความ 2 ปีไม่ใช่เพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงไม่มีสิทธิฎีกา จนกว่าศาลจะประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ไต่สวนต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกายังไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น (เทียบฎีกาที่ 1674/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงไม่มีสิทธิฎีกาในชั้นนี้ เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ไต่สวนต่อไป ดังนี้จำเลยจะฎีกายังไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
(เทียบฎีกาที่ 1674/2494)
(เทียบฎีกาที่ 1674/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่การค้า แม้เลิกค้าแล้ว วัตถุประสงค์เดิมยังคงผูกพัน ไม่คุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้า พฤติการณ์แต่เดิมมาฟังได้ว่าวัตถุประสงค์ของการเช่านั้นเพื่อการค้า แม้ต่อมาผู้เช่าจะเลิกประกอบการค้า แต่ไม่มีเหตุพอที่จะแสดงว่าคู่สัญญาได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่าใหม่ ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ ไม่ได้ (การเช่าไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร)