พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการตัดสินคดี, ฟ้องซ้ำ, และอายุความ: การพิจารณาคดีที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงสัญญา และการระบุเหตุขาดอายุความ
เมื่อศาลเห็นว่า คดีได้ความชัดพอจะตัดสินได้แล้ว ศาลก็มีอำนาจตัดสินได้ โดยไม่ต้องมีการชี้สองสถาน ไม่เป็นการขัดต่อวิธีจารณาและไม่มีกฎหมายใดบังคับให้ศาลต้องรอการตัดสินไว้เพื่อให้โอกาศคู่ความที่จะแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง และคำให้การก่อน
เดิมโจทก์ฟ้อง เรียกเงินราคาแป้งที่โจทก์ขายให้จำเลย ศาลฎีกาพิพากษาในคดีนั้นว่า โจทก์,จำเลยได้ทำความตกลงกันใหม่ ยกเลิกสัญญาเดิมแล้ว ข้อที่หากันว่าผิดสัญญาจึงตกไป โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกเงินตามข้อตกลงใหม่ การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาใหม่นี้ ย่อมเป็นคนละประเด็นกับเรื่องก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
(อ้างฎีกาที่ 319/2492)
คดีที่ขาดอายุความ ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 165 มีหลายข้อหลายกรณี คำให้การของจำเลยกล่าวแต่ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 165 มิได้กล่าวว่าขาดอายุความในกรณีใดหรือข้อใดแม้อนุมาตราของมาตรา 165 ก็มิกล่าวถึง คดีจึงไม่มีประเด็นจะชี้ไปถึงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ.
เดิมโจทก์ฟ้อง เรียกเงินราคาแป้งที่โจทก์ขายให้จำเลย ศาลฎีกาพิพากษาในคดีนั้นว่า โจทก์,จำเลยได้ทำความตกลงกันใหม่ ยกเลิกสัญญาเดิมแล้ว ข้อที่หากันว่าผิดสัญญาจึงตกไป โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกเงินตามข้อตกลงใหม่ การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาใหม่นี้ ย่อมเป็นคนละประเด็นกับเรื่องก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
(อ้างฎีกาที่ 319/2492)
คดีที่ขาดอายุความ ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 165 มีหลายข้อหลายกรณี คำให้การของจำเลยกล่าวแต่ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 165 มิได้กล่าวว่าขาดอายุความในกรณีใดหรือข้อใดแม้อนุมาตราของมาตรา 165 ก็มิกล่าวถึง คดีจึงไม่มีประเด็นจะชี้ไปถึงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416-1417/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งกระบือจำนำคืน ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ หากไม่มีเจตนาทุจริต
จำเลยได้จำนำกระบือไว้กับผู้เสียหาย จำเลยได้นำเงินไปขอไถ่กระบือคืนผู้เสียหายไม่ยอมให้ไถ่ จำเลยได้เอาเงินค่าไถ่กระบือวางไว้ให้ แล้วจำเลยต้อนกระบือของจำเลยที่จำนำไว้นั้นไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย โจทก์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงในข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย โจทก์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงในข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความวุ่นวายในที่เลือกตั้งหลังปิดหีบ: การกระทำผิดหลัง 17.00 น. ระหว่างการตรวจนับคะแนน
จำเลยเสพสุราเมาขึ้นไปก่อให้เกิดการวุ่นวายบนที่เลือกตั้งในเวลาหลัง 17.00 น. ซึ่งปิดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้วแต่เป็นเวลาในขณะที่กรรมการตรวจนับคะแนนเสียงอยู่ จำเลยก็ย่อมมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความวุ่นวายในที่เลือกตั้งหลังปิดหีบ: กรรมการตรวจนับคะแนนยังมีความผิด
จำเลยเสพสุราเมาขึ้นไปก่อให้เกิดการวุ่นวายบนที่เลือกตั้งในเวลาหลัง 17.00 น. ซึ่งปิดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้วแต่เป็นเวลาในขณะที่กรรมการตรวจนับคะแนนเสียงอยู่ จำเลยก็ย่อมมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม แม้มีการฟ้องคดีขอทำลายสัญญายอมแล้ว ก็มิอาจทุเลาการบังคับคดีได้
ศาลได้พิพากษาตามที่โจทก์จำเลยยอมความกันให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าของโจทก์ ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยจึงถูกขับไล่ตามคำพิพากษานั้นด้วย ผู้ร้องฎีกาคำสั่งที่ให้ขับไล่ และขอทุเลาการบังคับ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลา บัดนี้ผู้ร้องอ้างว่าได้ฟ้องโจทก์,จำเลยต่อศาลขอให้ทำลายสัญญายอมนั้นแล้ว จึงขอให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเหตุผลที่ผู้ร้องอ้างไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษานั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม แม้มีการฟ้องคดีขอทำลายสัญญายอมแล้ว ก็มิอาจทุเลาการบังคับคดีได้
ศาลได้พิพากษาตามที่โจทก์จำเลยยอมความกันให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าของโจทก์ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยจึงถูกขับไล่ตามคำพิพากษานั้นด้วยผู้ร้องฎีกาคำสั่งที่ให้ขับไล่ และขอทุเลาการบังคับ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลาบัดนี้ผู้ร้องอ้างว่าได้ฟ้องโจทก์จำเลยต่อศาลขอให้ทำลายสัญญายอมนั้นแล้ว จึงขอให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเหตุผลที่ผู้ร้องอ้างไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษานั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ตัวการฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือนส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ. ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตายดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ถือเป็นตัวการฆ่าโดยเจตนา
จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือน ส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ.ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ผลของการยกฟ้องเนื่องจากโจทก์ไม่นำพยานมาสืบ
คดีอาญา ผู้เสียหายได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์มา แต่ตัวโจทก์ไม่มาและโจทก์ไม่ได้ร้องขอเลื่อนคดี ศาลได้พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว อัยยการจะนำคดีมาฟ้องใหม่หาได้ไม่ เพราะในคดีก่อนศาลยกฟ้อง เพราะโจทก์ไม่มีพะยานมาสืบ ซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการพิพากษายกฟ้อง โดยโจทก์พิสูจน์ความผิดของจำเลยไม่ได้สมฟ้อง เป็นการพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธิฟ้องร้องได้ระงับสิ้นไปตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 39 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามคำพิพากษา: การชำระหนี้ผิดคู่ความไม่อาจถือเป็นการชำระหนี้ที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับ ร. และ ด.จำเลยขายที่นาพิพาทให้โจทก์ ศาลพิพากษาว่า ร.จำเลยเป็นเจ้าของนา ส่วน ด.จำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทน ไม่ต้องรับผิด จึงให้ ร.จำเลยขายนาให้แก่โจทก์ ๆ ได้ครอบครองที่นานั้นอยู่แล้ว โจทก์มีหน้าที่ชำระราคาให้แก่ ร.ตามคำพิพากษา แต่โจทก์กลับไปชำระราคาให้แก่ ด. จำเลยอีกคนหนึ่ง ซี่งศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ดังนี้ โจทก์ไม่พ้นความรับผิด ร.จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลยึดที่นาของโจทก์ขายชำระหนี้ได้.