คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพ, การชี้ที่เกิดเหตุ, และพฤติการณ์เชื่อมโยง เป็นหลักฐานสำคัญพิสูจน์ความผิดอาญา
จำเลยถือปืนเล่นฟ้อนรำแล้วปืนลั่น ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านแย่งปืนไปว่ากล่าวสั่งสอนแล้วคืนปืนให้ต่อมาผู้ตายถูกยิง จำเลยเข้ามอบตัวมอบปืน คำให้การชั้นสอบสวนซึ่งกระทำในวันเกิดเหตุมีรายละเอียดเกี่ยวกับความเคืองแค้นที่จำเลยมีต่อผู้ตายมาก่อน เชื่อว่าให้การโดยสมัครใจ และการชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพไม่มีเหตุที่จะสงสัยว่ากระทำโดยถูกบังคับ ฉะนั้นแม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน และจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นศาล คดีก็ฟังลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์เตรียมปืนเล็งยิงแสดงเจตนาพยายามฆ่า แม้ปืนจะลั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
ผู้เสียหายกับจำเลยทะเลาะกัน ในที่สุดจำเลยชักปืนเล็งไปที่หน้าอกผู้เสียหายและขึ้นนกปืนจะยิงในระยะห่างประมาณ 1 เมตรเศษ สามีจำเลยเข้าจับมือกดลงต่ำ ปืนลั่นกระสุนถูกผู้อื่นที่เท้า ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: ภยันตรายใกล้จะถึงจากการถูกทำร้ายด้วยขวาน
แม้จำเลยและผู้ตายจะได้โต้เถียงกันก่อน แต่การโต้เถียงก็หาใช่เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายสมัครใจทำร้ายซึ่งกันและกันไม่ การที่ผู้ตายจะใช้ขวานฟันจำเลยจึงเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง เมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปเพียงทีเดียว แม้จะถูกที่สำคัญก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการฉุกเฉินเพื่อให้ตนเองพ้นอันตราย จำเลยย่อมไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าอวัยวะส่วนใดสำคัญหรือไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: ภยันตรายใกล้จะถึงจากการประทุษร้ายด้วยขวานและการตอบโต้ด้วยมีด
แม้จำเลยและผู้ตายจะได้โต้เถียงกันก่อน แต่การโต้เถียงก็หาใช่เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายสมัครใจทำร้ายซึ่งกันและกันไม่ การที่ผู้ตายจะใช้ขวานฟันจำเลยจึงเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง เมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปเพียงทีเดียว แม้จะถูกที่สำคัญก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการฉุกเฉินเพื่อให้ตนเองพ้นอันตราย จำเลยย่อมไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าอวัยวะส่วนใดสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 220 และการพิจารณาความหนักของข้อหาในคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าเช่นกัน และบาดแผลไม่ถึงสาหัส พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลย ฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ดังนี้ ข้อหาฐานพยายามฆ่าต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288 จึงต้องห้ามคดีของโจทก์จึงไม่อาจขึ้นมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาและถือไม่ได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297ด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2526)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในข้อเท็จจริง และการพิจารณาความประสงค์ของผู้ฎีกาในข้อหาอื่น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าเช่นกันและบาดแผลไม่ถึงสาหัส พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลย ฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ดังนี้ ข้อหาฐานพยายามฆ่าต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288 จึงต้องห้าม คดีของโจทก์จึงไม่อาจขึ้นมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกา และถือไม่ได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2526)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย การป้องกันตัวไม่สมเหตุสมผล ทำให้ความผิดฐานฆ่าเกิดขึ้น
จำเลยกับผู้ตายได้ชกต่อยกันเนื่องจากทะเลาะกันในการเล่นการพนันมีคนห้ามจึงเลิกรากันไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง จำเลยกับผู้ตายได้พบกันอีกและต่างเดินเข้าหากัน. ผู้ตายใช้เหล็กแหลมแทงจำเลย จำเลยใช้มือปัดและใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่อกแล้วทิ้งมีดหลบหนีไป ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทชกต่อยและการป้องกันตัว: การกระทำเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันตนเอง
จำเลยกับผู้ตายได้ชกต่อยกันเนื่องจากทะเลาะกันในการเล่นการพนัน มีคนห้ามจึงเลิกรากันไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง จำเลยกับผู้ตายได้พบกันอีกและต่างเดินเข้าหากัน. ผู้ตายใช้เหล็กแหลมแทงจำเลย จำเลยใช้มือปัดและใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่อกแล้วทิ้งมีดหลบหนีไป ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่ากรรมเดียว: การแทงภรรยาขณะอุ้มบุตร แม้บุตรถูกมีดบ้าง แต่เจตนาคือฆ่าภรรยา
จำเลยใช้มีดแทง ส. ภรรยาจำเลยขณะที่ ส. อุ้ม อ.บุตรอยู่ มีดที่จำเลยแทง ส. จึงถูก อ. ด้วย แต่จำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า อ.แม้ อ. จะถูกมีดหลายครั้งมีบาดแผลหลายแห่งก็เป็นการแทงเพื่อเจตนาฆ่า ส. เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียว ความผิดฐานฆ่า: เจตนาฆ่าจำเลยมุ่งเป้าที่ภรรยา การแทงบุตรเป็นการกระทำต่อเนื่อง
จำเลยใช้มีดแทง ส.ภรรยาจำเลยขณะที่ส.อุ้มอบุตรอยู่ มีดที่จำเลยแทงส.จึงถูกอ.ด้วย แต่จำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าอ.แม้ อ. จะถูกมีดหลายครั้งมีบาดแผลหลายแห่งก็เป็นการแทงเพื่อเจตนาฆ่า ส. เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
of 223