คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิด ไม่ถือเป็นของกลางที่ต้องริบ
จำเลยขี่รถจักรยานยนต์พา ข. นั่งซ้อนท้ายไปยิงผู้เสียหายโดย ข. เป็นผู้ยิง แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย ดังนี้รถจักรยานยนต์ไม่ใช่ของที่ใช้ร่วมในการกระทำผิดแต่เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการไปมาเท่านั้น จึงไม่ใช่ของกลางที่จะพึงริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิด แต่ไม่ได้ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง
จำเลยขี่รถจักรยานยนต์พา ข. นั่งซ้อนท้ายไปยิงผู้เสียหายโดย ข. เป็นผู้ยิง แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย ดังนี้รถจักรยานยนต์ไม่ใช่ของที่ใช้ร่วมในการกระทำผิดแต่เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการไปมาเท่านั้น จึงไม่ใช่ของกลาง ที่จะพึงริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคดีฆ่าโดยมีพยานหลักฐานเป็นคำรับสารภาพและพยาน circumstantial evidence ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเห็นพ้องต้องกันในการใช้ดุลพินิจลงโทษ
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะเกิดเหตุ คงมีแต่พยานพฤติเหตุแวดล้อมเพียงปากเดียวซึ่งเบิกความว่าเห็นจำเลยวิ่งออกมาจากไร่อ้อยภายหลังเกิดเหตุ ที่ฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนฆ่าผู้ตาย และฆ่าเพราะอะไรโดยวิธีใด ก็เพราะจำเลยให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงศาล ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิต เมื่อเพิ่มโทษและลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 33 ปี 4 เดือน จึงเหมาะสมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกายเพื่อระงับเหตุชุลมุนวิวาท ไม่ถึงเจตนาฆ่า
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน แต่โดยที่ผู้เสียหายเกิดเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นด้วยกันในร้านที่จำเลยทำงานอยู่ จำเลยจึงทำไปโดยเจตนาจะระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในร้าน ทั้งขณะนั้นก็เป็นเวลาที่คู่วิวาททั้งหลายกำลังชุลมุนชกต่อยกันอยู่พัลวัน มีการตีกันถึงศีรษะแตก จำเลยแทงไป 1 ทีในขณะฉุกละหุกโดยไม่ได้แทงซ้ำอีก บาดแผลของผู้เสียหายสามารถรักษาหายได้ใน 10 วัน ทั้งจำเลยยังได้พาผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บคนหนึ่งไปโรงพยาบาล แสดงว่าจำเลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าตนได้กระทำความผิดรุนแรงถึงกับฆ่าใคร ลักษณะและพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวไม่ถึงกับมีเจตนาฆ่า เป็นเพียงเจตนาทำร้ายร่างกายคู่วิวาทคนใดคนหนึ่งเพื่อระงับเหตุชุลมุนวิวาทกันในร้าน จำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกายเพื่อระงับเหตุชุลมุนวิวาท ไม่ถึงเจตนาฆ่า
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน แต่โดยที่ผู้เสียหายเกิดเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นด้วยกันในร้านที่จำเลยทำงานอยู่ จำเลยจึงทำไปโดยเจตนาจะระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในร้าน ทั้งขณะนั้นก็เป็นเวลาที่คู่วิวาททั้งหลายกำลังชุลมุนชกต่อยกันอยู่ พัลวัน มีการตีกันถึงศีรษะแตก จำเลยแทงไป 1 ทีในขณะฉุกละหุกโดยไม่ได้แทงซ้ำอีก บาดแผลของผู้เสียหายสามารถรักษาหายได้ใน 10 วัน ทั้งจำเลยยังได้พาผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บคนหนึ่งไปโรงพยาบาล แสดงว่าจำเลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าตนได้กระทำความผิดรุนแรงถึงกับฆ่าใคร ลักษณะและพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวไม่ถึงกับมีเจตนาฆ่า เป็นเพียงเจตนาทำร้ายร่างกายคู่วิวาทคนใดคนหนึ่งเพื่อระงับเหตุชุลมุนวิวาทกันในร้าน จำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งมีดทำร้ายร่างกาย: ศาลลดโทษจากเจตนาแทงเป็นความผิดลหุโทษจากการชกต่อย
การที่จำเลยกับผู้เสียหายกอดปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมาเพื่อแย่งมีดกันนั้น อาจเป็นเหตุให้มีดที่แย่งกันซึ่งเป็นมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่สะบักซ้ายด้านหลังของผู้เสียหายโดยจำเลยไม่มีเจตนาแทงได้ กรณีไม่อาจสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยเหตุที่เกิดขึ้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายที่ ท้าจำเลยให้ต่อยกันก่อน มีดที่แย่งกันก็เป็นมีดของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายหยิบขึ้นมาเพื่อใช้แทงจำเลยก่อนฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยชกต่อยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. ม.391 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย และการพิจารณาเหตุแห่งการกระทำ
จำเลยใช้ดุ้นฟืนยาว 1 ศอก ตีศีรษะผู้ตาย 2 ทีจนกะโหลกศีรษะผู้ตายแตกยุบถึงมันสมอง เป็นการตีโดยแรงที่อวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายทันที ดังนี้จำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย: การกระทำโดยชักชวนและรู้เห็นเป็นเหตุให้ต้องรับผิด
จำเลยชักชวนให้ ท.ทำร้ายผู้ตายขณะท. ใช้ให้ผู้อื่นไปหยิบท่อนไม้ยาว 33 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วครึ่งมาให้จำเลยก็รู้เห็นด้วย เมื่อ ท. ใช้ไม้ดังกล่าวซึ่งมีขนาดพอจะทำร้ายคนให้ถึงตายได้ตีศีรษะผู้ตายขณะที่เดินผ่าน ท. และจำเลยในระยะกระชั้นชิดเป็นการเลือกตีในที่สำคัญ แม้จำเลยจะมิได้ลงมือทำร้ายผู้ตายเองและตีเพียงทีเดียวผู้ตายก็ตายเพราะบาดแผลที่ถูกตีทำร้ายนี้ ถือได้ว่า ท. มีเจตนาฆ่าผู้ตายและจำเลยร่วมกระทำผิดกับ ท. ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การชักชวน, รู้เห็น, และการกระทำที่ส่งผลถึงชีวิต
จำเลยชักชวนให้ ท. ทำร้ายผู้ตายขณะ ท. ใช้ให้ผู้อื่นไปหยิบท่อนไม้ยาง 33 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วครึ่งมาให้จำเลยก็รู้เห็นด้วย เมื่อ ท.ใช้ไม้ดังกล่าวซึ่งมีขนาดพอจะทำร้ายคนให้ถึงตายได้ตีศีรษะผู้ตายขณะที่เดินผ่าน ท. และจำเลยในระยะกระชั้นชิดเป็นการเลือกตีในที่สำคัญ แม้จำเลยจะมิได้ลงมือทำร้ายผู้ตายเองและตีเพียงทีเดียวผู้ตายก็ตายเพราะบาดแผลที่ถูกตีทำร้ายนี้ ถือได้ว่า ท. มีเจตนาฆ่าผู้ตายและจำเลยร่วมกระทำผิดกับ ท. ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกลับไปวิวาทพร้อมอาวุธ ไม่เป็นการป้องกันตัว
จำเลยโต้เถียงกับผู้ตายแล้วกลับบ้านไปนำปืนติดตัวมาหาผู้ตายอีก แสดงว่าจำเลยสมัครใจที่จะกลับไปวิวาทกับผู้ตาย เพราะจำเลยมีทางหลีกเลี่ยงไม่กลับไปพบผู้ตายได้แต่ก็ไม่กระทำ เมื่อผู้ตายเตะจำเลย จำเลยก็ยิงผู้ตายทันที การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันตัว
of 223