คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตรายถึงอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาพิพากษาตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้ามและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกะเพาะด้านนอก ซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ มีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย มิใช่เพียงเจตนาทำร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีดอันตรายถึงชีวิต ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้านและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกระเพาะด้านนอกซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญมีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมากถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายมิใช่เพียงเจตนาทำร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามฆ่าด้วยวัตถุระเบิดขนาดเล็ก ศาลพิจารณาถึงความร้ายแรงของวัตถุระเบิดและผลกระทบต่อผู้ถูกทำร้าย
จำเลยขว้างวัตถุระเบิดขนาดเล็กมาตกระเบิดห่างผู้เสียหาย 2 เมตร ขณะผู้เสียหายบังเสาไฟหลบอยู่ ผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายจากการระเบิดนั้น ปรากฏว่าวัตถุระเบิดที่จำเลยใช้เป็นวัตถุจำพวกคลอเรตหุ้มด้วยพลาสติก จำนวนวัตถุระเบิดและชิ้นส่วนที่ใส่ผสมมีแรงระเบิดเพียงสามารถทำอันตรายต่อร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายได้เท่านั้น ดังนี้ การขว้างระเบิดของจำเลยย่อมไม่สามารถบรรลุผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้อย่างแน่แท้ กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินเจตนาพยายามฆ่าจากวัตถุระเบิด: ขนาดและแรงระเบิดมีผลต่อการบรรลุผล
จำเลยขว้างวัตถุระเบิดขนาดเล็กมาตกระเบิดห่างผู้เสียหาย 2 เมตรขณะผู้เสียหายบังเสาไฟฟ้าหลบอยู่ ผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายจากการระเบิดนั้น ปรากฏว่าวัตถุระเบิดที่จำเลยใช้เป็นวัตถุจำพวกคลอเรตหุ้มด้วยพลาสติก จำนวนวัตถุระเบิดและชิ้นส่วนที่ใส่ผสมมีแรงระเบิดเพียงสามารถทำอันตรายต่อร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายได้เท่านั้นดังนี้ การขว้างระเบิดของจำเลยย่อมไม่สามารถบรรลุผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้อย่างแน่แท้กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่า: แรงระเบิดไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยขว้างวัตถุระเบิดขนาดเล็กมาตกระเบิดห่างผู้เสียหาย2 เมตร ขณะผู้เสียหายบังเสาไฟฟ้าหลบอยู่ ผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายจากการระเบิดนั้น ปรากฏว่าวัตถุระเบิดที่จำเลยใช้เป็นวัตถุจำพวกคลอเรตหุ้มด้วยพลาสติก จำนวนวัตถุระเบิดและชิ้นส่วนที่ใส่ผสมมีแรงระเบิดเพียงสามารถทำอันตรายต่อร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายได้เท่านั้น ดังนี้ การขว้างระเบิดของจำเลยย่อมไม่สามารถบรรลุผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้อย่างแน่แท้ กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสและการร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ศาลพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์
จำเลยจับมือ ณ. ผู้เสียหายบิดไว้ ทำให้พวกของจำเลยมีโอกาสเลือกแทงได้ แต่พวกของจำเลยกลับใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบ 1 คืบ แทง ณ. บริเวณด้านหลังมีบาดแผล 2 แห่ง ยาวแผลละ 2 เซนติเมตร แผลที่หนึ่งลึกเพียง 1 เซนติเมตร แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจแทงโดยแรง แผลที่สองเยื้องไปทางขวาบังเอิญมีดทะลุไปถูกไตต้องตัดไตข้างขวาออก และรักษาตัวราว 27 วัน ออกจากโรงพยาบาลไป ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาว่าจะฆ่า จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส
เมื่อพวกของจำเลยแทง ย. ผู้เสียหายแล้ว ย. วิ่งหนี จำเลยกับพวกวิ่งไล่ตามไป แสดงว่าร่วมกันจะทำร้าย ย. อีก ครั้นตามไปทัน พวกของจำเลยใช้มีดแทง ย. จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการทำร้าย ย. ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่า: การประเมินผลจากการยิงที่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ
ตามปกติอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรง หากกระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็เห็นได้ชัดว่าปืนกระบอกนั้นไม่อาจใช้ยิงให้ผู้เสียหายได้ แต่เมื่อกระสุนปืนที่จำเลยยิงเฉียดถูกผู้เสียหายที่ต้นแขนซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย จึงเป็นเรื่องการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เพราะกระสุนปืนที่จำเลยยิงนั้นถูกอวัยวะส่วนไม่สำคัญของร่างกาย หาใช่เพราะการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น เมื่อการกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากอวัยวะที่ถูกยิงไม่สำคัญ
ตามปกติอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรง หากกระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็เห็นได้ชัดว่าปืนกระบอกนั้นไม่อาจใช้ยิงให้ผู้เสียหายตายได้ แต่เมื่อกระสุนปืนที่จำเลยยิงเฉียดถูกผู้เสียหายที่ต้นแขนซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย จึงเป็นเรื่องการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เพราะกระสุนปืนที่จำเลยยิงนั้นถูกอวัยวะส่วนไม่สำคัญของร่างกาย หาใช่เพราะการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยเกินกว่าเหตุ: การแทงหลายครั้งหลังถูกลวนลาม
ส. บุตรสาวของจำเลยลงไปอาบน้ำที่บันไดริมแม่น้ำในเวลา 1 ทุ่มเศษน้ำลึกแค่หน้าอกผู้ตายดำน้ำมากอดเอวจับนมและของลับของส.ส.ร้องเรียกให้จำเลยช่วย จำเลยจึงคว้ามีดไปช่วยและแทงผู้ตายจนผู้ตายจมหายไป ดังนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันส.แต่ผู้ตายเพียงแต่ดำน้ำมาจับนมและของลับของส. เท่านั้นการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายไปหลายครั้ง จนปรากฏบาดแผลที่ตัวผู้ตายถึง 5 แผล คือ ที่นมขวา เหนือลิ้นปี่ ต้นแขนขวาต้นแขนซ้าย และส้นเท้าซ้าย ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การแทงผู้กระทำละเมิดหลายครั้ง แม้เป็นการป้องกันบุตรสาว
ส.บุตรสาวของจำเลยลงไปอาบน้ำที่บันไดริมแม่น้ำในเวลา 1 ทุ่มเศษ น้ำลึกแค่หน้าอก ผู้ตายดำน้ำมากอดเอวจับนมและของลับของ ส. ส.ร้องเรียกให้จำเลยช่วย จำเลยจึงคว้ามีดลงไปช่วยและแทงผู้ตายจนผู้ตายจมหายไป ดังนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกัน ส. แต่ผู้ตายเพียงแต่ดำน้ำมาจับเอวจับนมและของลับของ ส.เท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายไปหลายครั้ง จนปรากฏบาดแผนที่ตัวผู้ตายถึง 5 แผล คือ ที่นมขวา เหนือลิ้นปี่ ต้นแขนขวา ต้นแขนซ้าย และส้นเท้าซ้าย ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน
of 223