พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่า และการใช้ดุลยพินิจลงโทษที่แตกต่างกันในแต่ละศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60,68,69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60, และ 72 ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าโดยประเมินเหตุแห่งการกระทำและข้อต่อสู้ของผู้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกัน เกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60,68, 69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60, และ 72ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่วมกัน และการไม่นำหลักฐานชั้นสอบสวนมาพิจารณา
มีดที่พวกของจำเลยใช้ทำร้าย ยาวประมาณ 1 ฟุตรวมทั้งด้าม แทงผู้ตายมีบาดแผลภายนอกผิวหนังฉีกขาดขนาดประมาณ2X0.5 เซนติเมตร ทะลุผ่านเนื้อกล้ามเข้าช่องซี่โครงที่ 11 ข้างซ้ายด้านหลัง เข้าช่องอกเฉี่ยวกระบังลมข้างซ้ายฉีกขาดทะลุเข้าหลอดเลือดแดงใหญ่ แม้ผู้แทงจะแทงผู้ตายเพียงทีเดียว เมื่อปรากฏว่าสถานที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง เห็นได้ชัด ผู้แทงมีโอกาสเลือกแทงได้ทั้งบาดแผลก็แสดงว่าแทงโดยแรงถูกอวัยวะสำคัญมากจนผู้ตายล้มลงขาดใจตายอยู่ตรงนั้น ดังนี้. ฟังได้ว่าผู้แทงมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ถึงแม้ในชั้นสอบสวน จำเลยจะรับว่าได้เตะทำร้ายตามข้อกล่าวหา แต่ในชั้นศาลกลับให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งสิ้นและยังอ้างตนเองนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เตะใครในคืนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็มิได้นำเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นวินิจฉัยฟังประกอบคำพยานโจทก์ลงโทษจำเลย คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78
ถึงแม้ในชั้นสอบสวน จำเลยจะรับว่าได้เตะทำร้ายตามข้อกล่าวหา แต่ในชั้นศาลกลับให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งสิ้นและยังอ้างตนเองนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เตะใครในคืนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็มิได้นำเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นวินิจฉัยฟังประกอบคำพยานโจทก์ลงโทษจำเลย คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย และการพิจารณาคำให้การชั้นสอบสวนที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
มีดที่พวกของจำเลยใช้ทำร้าย ยาวประมาณ 1 ฟุตรวมทั้งด้าม แทงผู้ตายมีบาดแผลภายนอกผิวหนังฉีกขาดขนาดประมาณ2X0.5 เซนติเมตร ทะลุผ่านเนื้อกล้ามเข้าช่องซี่โครงที่ 11 ข้างซ้ายด้านหลัง เข้าช่องอกเฉี่ยวกระบังลมข้างซ้ายฉีกขาดทะลุเข้าหลอดเลือดแดงใหญ่ แม้ผู้แทงจะแทงผู้ตายเพียงทีเดียว เมื่อปรากฏว่าสถานที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่างเห็นได้ชัด ผู้แทงมีโอกาสเลือกแทงได้ทั้งบาดแผลก็แสดงว่าแทงโดยแรงถูกอวัยวะสำคัญมากจนผู้ตายล้มลงขาดใจตายอยู่ตรงนั้น ดังนี้. ฟังได้ว่าผู้แทงมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ถึงแม้ในชั้นสอบสวน จำเลยจะรับว่าได้เตะทำร้ายตามข้อกล่าวหา แต่ในชั้นศาลกลับให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งสิ้นและยังอ้างตนเองนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เตะใครในคืนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็มิได้นำเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นวินิจฉัยฟังประกอบคำพยานโจทก์ลงโทษจำเลย คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ถึงแม้ในชั้นสอบสวน จำเลยจะรับว่าได้เตะทำร้ายตามข้อกล่าวหา แต่ในชั้นศาลกลับให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งสิ้นและยังอ้างตนเองนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เตะใครในคืนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็มิได้นำเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นวินิจฉัยฟังประกอบคำพยานโจทก์ลงโทษจำเลย คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าบุตรพร้อมตนเอง: การกระทำความผิดเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
จำเลยเอายาฆ่าแมลงให้บุตรชายสองคนของจำเลยกินด้วยเจตนาแต่ประการเดียวที่จะให้บุตรทั้งสองตายไปพร้อม ๆ กันกับตน หาได้มีเจตนาที่จะให้ตายแยกเป็นคน ๆ ไปไม่ เมื่อบุตรของจำเลยตายคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งไม่ตายการกระทำความผิดของจำเลยก็เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 และ 69 การโต้แย้งข้อเท็จจริงในฎีกา
ที่จะเป็นป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ต้องมีองค์ประกอบสุดท้ายว่า ได้กระทำพอสมควรแก่เหตุด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยฟังว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 69 จำเลยฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังมาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เช่นนี้ เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยฟังว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 69 จำเลยฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังมาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เช่นนี้ เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมกรรมความผิดฐานชุลมุนต่อสู้กับความผิดฐานฆ่าโดยเจตนา ศาลฎีกาตัดสินว่ากรรมเดียว
จำเลยสี่คนกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง มีอาวุธเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้กัน จนเป็นเหตุให้มีบุคคลถึงแก่ความตายสองคนและได้รับอันตรายสาหัสอีกคนหนึ่ง ผู้ตายคนหนึ่งถึงแก่ความตายเพราะถูกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยิงในการชุลมุนต่อสู้กันนั้นเช่นนี้ เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทคือ จำเลยทุกคนผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294, 299, 83เฉพาะจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่งซึ่งจะต้องลงโทษจำเลยสองคนนี้ตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ (แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา)
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ (แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ร่วมชุลมุนต่อสู้จนมีผู้เสียชีวิต ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำกรรมเดียว
จำเลยสี่คนกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง มีอาวุธเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้กัน จนเป็นเหตุให้มีบุคคลถึงแก่ความตายสองคนและได้รับอันตรายสาหัสอีกคนหนึ่ง ผู้ตายคนหนึ่งถึงแก่ความตายเพราะถูกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยิงในการชุลมุนต่อสู้กันนั้นเช่นนี้ เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทคือ จำเลยทุกคนผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294, 299, 83 เฉพาะจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่งซึ่งจะต้องลงโทษจำเลยสองคนนี้ตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นบทที่ มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ (แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา)
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ (แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกลับมาพร้อมอาวุธหลังมีปากเสียงบ่งชี้เจตนา
จำเลยมาทวงเงินผู้ตาย ผู้ตายว่ายังไม่มีให้ จำเลยก็ผลุนผลันออกจากบ้านผู้ตายหายไปราวชั่วโมงเศษแล้วกลับมาใหม่ เอามีดตอกมาแล้วลอดเข้าใต้ถุนบ้าน เลือกหาที่เหมาะแทงผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้น เป็นการฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามมาตรา 289 (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกลับมาพร้อมอาวุธเพื่อสังหารหลังมีปากเสียง
จำเลยมาทวงเงินผู้ตาย ผู้ตายว่ายังไม่มีให้ จำเลยก็ผลุนผลันออกจากบ้านผู้ตายหายไปราวชั่วโมงเศษแล้วกลับมาใหม่ เอามีดตอกมาแล้วลอดเข้าใต้ถุนบ้าน เลือกหาที่เหมาะแทงผู้ตายจนถึงแก่ความตาย นั้น เป็นการฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามมาตรา 289(4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา